
หลายคนอาจสงสัยว่าผมพูดอะไร "คนเก่ง ก็ต้องมีอาจารย์อยู่แล้ว มิใช่หรือ!!" ..ถูกต้อง แต่สิ่งที่แปลกคือ ความเข้าใจนิยามของคำว่า "อาจารย์" ต่างหาก ที่แต่ละคนมีความคิดที่แตกต่างกัน!!
บางคนกล่าวว่า "ยิ่งเรียนยิ่งโง่" ประเด็นนี้ผมว่าต้องตีความให้ดี ..ปัญหาของคนทั่วไป จะเข้าใจว่าการเรียนคือ การที่เราหอบหนังสือไปนั่งเรียนในโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยเท่านั้น (คนที่คิดเช่นนี้ ก็จะหยุดการเรียน เมื่อเขาก้าวเท้าออกจากมหาวิทยาลัย) ..จะเห็นได้ว่าคนที่มีการศึกษาสูง เรียนเก่งมากๆ หรือด๊อกเตอร์(ส่วนใหญ่"ไม่ใช่ทุกคน"นะ) คือส่วนใหญ่จะคิดว่า ตนเองเก่งที่สุด --"คนเหล่านี้แหละครับ เข้ากับภาษิตที่ว่า ยิ่งเรียนยิ่งโง่ เพราะการเรียนเพียง ไม่กี่ปีในมหาวิทยาลัย กลับทำให้เขาผู้นั้น คิดว่าตนเองฉลาดกว่า คนอื่นๆ"
ในมุมกลับกัน "ยิ่งเรียนยิ่งฉลาด" ก็คือ คนที่มองทุกสิ่งเป็นอาจารย์ ...หลายๆคนที่ทำงานมักมอง ความยุ่งยาก ความลำบาก เป็นอุปสรรค แต่แท้จริงแล้ว หากเรามองอย่างเข้าใจและวิเคราะห์ให้ลึกขึ้น เราจะเห็นได้ว่า ..ทุกอุปสรรค ทุกเหตุการณ์ และทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนแล้วแต่เป็นอาจารย์ของเราทั้งสิ้น --"หากเราเลือกที่จะเรียนรู้"
ดังนั้น จึงไม่แปลกเลย ที่คนที่มีอาจารย์มาก ก็คือ คนที่หาโอกาสที่จะเรียนรู้จากทุกสิ่ง ที่ผ่านเข้ามานั่นเอง ..จะว่าไปแล้ว ในชีวิตของแต่ละคน ย่อมมีเหตุการณ์ หรือ คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แตกต่างกันออกไป ..สิ่งเหล่านี้แหละครับ ที่จะเป็นโอกาสที่สร้างให้คนแตกต่างกัน
ผมดู "ซอนต๊อก" แล้วรู้สึกว่า องค์หญิงแฝดนี่ทำไมคนน้องเก่งกว่าคนพี่นัก ..คำตอบง่ายๆก็คือ คนน้องถูกเลี้ยงแบบชาวบ้านในถิ่นที่กันดารอันไกลโพ้น ไปล้มลุกคลุกคลาน ผ่านความยากลำบาก --ส่วนองค์หญิงแฝดผู้พี่ ถูกเลี้ยงมาแบบ องค์หญิง ที่ถูกประคบประหงมมาเป็นอย่างดี ..ดังนั้น จึงไม่แปลกที่องค์หญิงแฝดผู้น้อง(ซอนต๊อก) จึงกลายมาเป็น ราชินีสามแผ่นดิน
คนเก่งจึงเป็นคนที่มีอาจารย์ดี และอาจารย์ที่ดีก็ไม่ได้ต้องไปหาอื่นไกล "มันอยู่รอบๆตัวเรา" เพียงแต่เราได้มองว่ามันคือโอกาสในการเรียนรู้หรือเปล่าต่างหาก ..จริงไหมครับ
"Keep Walking ทางนับหมื่นลี้ เริ่มที่ก้าวแรกเสมอ"
เห้นด้วยอย่างยิ่ง
ตอบลบใช่ๆเห็นด้วย ขณะปลูกต้นไม้ก็เรียนรู้ได้ เหมือนการทำดีคือปลูกต้นไม้ ไม่เพียงเรารดน้ำใส่ปุ๋ยเท่านั้น เราต้องกำจัดวัชพืชด้วย
ตอบลบ