
อย่างที่เคยกล่าวมา ว่าในยุคของ New Economy หรือที่เราเรียกว่ายุคแห่งข่าวสารและข้อมูล มันเป็นโลกที่ทุกๆคนในโลก สามารถเข้าถึงข้อมูล ที่ใหญ่กว่าห้องสมุดใดๆ ในโลก เพียงแค่ "ปลายนิ้วคลิ๊ก" ..ที่หลายคนเคยบอกว่า นิ้วกลม เดี๋ยวนี้ผมว่าไม่กลมแล้ว มันจะแบนเป็น Keyboard อยู่แล้ว..หุ หุ
การที่คนรุ่นใหม่สามารถเข้าถึง ข้อมูลมหาศาลในเวลาที่รวดเร็ว ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของแต่ละคนสูงจนน่าทึ่ง ..และนี่ก็คือ มนุษย์ Gen Y หรือ millennium นั่นเอง
เมื่อทุกคนเข้าถึงข้อมูล ก็ทำให้การมีข้อมูลนั้นๆ ไม่ได้สร้างให้เกิด Competitive Advantage ที่เราเรียกว่า ข้อได้เปรียบในการแข่งขัน --"อ้าว !! ..ถ้าข้อมูลไม่ใช่ข้อได้เปรียบ แล้วอะไรล่ะ ที่เป็นข้อได้เปรียบ"
ความได้เปรียบในยุค New Economy จึงไม่ใช่การพยายามทำตัวเป็นตู้เก็บตำราหรือ Hard disk เพราะใครๆก็ไปซื้อมาได้ด้วยราคาไม่แพง ..ดังนั้นในยุคนี้ การกระจายข้อมูลต่างหากที่เป็นหัวใจแห่งความสำเร็จ
ยกตัวอย่าง บริษัท Booz&Co(ซึ่งเป็นบริษัท Consulting ที่มีชื่อเสียงมาก) สิ่งที่ Booz ทำก็คือ การเผยแพร่งาน Research อย่างมากมายในหัวข้อต่างๆ ให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมนั้นๆเข้ามาอ่านได้ฟรี ซึ่งจุดนี้ก็กลายเป็น Referral ที่ส่งผลให้ บริษัทต่างๆเลือก Booz เข้ามาเป็นที่ปรึกษานั่นเอง
... หรืออย่างในกรณีของ Google การกระจายเครื่องมือค้นหาข้อมูล ให้ลูกค้าสามารถหาข้อมูลที่ตัวเองต้องการ อย่างไม่มีค่าใช้จ่าย ก็ทำให้ในที่สุด คนใช้ Google สูงที่สุดในโลก --ส่งผลให้บริษัทต่างๆต้องมาใช้โฆษณาของ Google นั่นเอง
..หรืออย่างนักเขียนผู้ขายดี Seth Godin ที่เปิดตัวหนังสือเล่มใหม่ของเขาด้วยการให้ Download version Online ไปอ่านได้ฟรีๆ--- กลับส่งผลให้เมื่อพิมพ์ออกมาก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แบบที่ไม่ต้องโฆษณาเสียด้วยซ้ำ
ดังนั้นประเด็นที่สร้างให้เรามีโอกาสสำเร็จในวันนี้ ไม่ใช่การกั๊กข้อมูล แต่มันเป็นการกระจายและเปิดเผยอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ จึงจะเป็นสิ่งที่ทำให้สำเร็จอย่างแท้จริง ...เรากำลังเดินทางมาถึงทางแยกที่อเมริกาเดินมาถึงเมื่อสิบปีที่แล้ว ดังนั้น จึงไม่แปลกเลยที่ผู้ชนะ ก็คือ คนที่ได้เห็นมาก และรู้จักปรับใช้กับโอกาสและจังหวะที่ดีที่สุดนั่นเอง ("ยิ่งให้" จึงกลับกลายเป็น "ยิ่งได้")...จริงไหมครับ!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น