วันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เอา "Long Tail" มาเล่าให้ฟัง
ไหนๆก็ พูดถึง Chris Anderson มาหลายทีแล้ว ..หนังสือที่แจ้งเกิดของนักเขียนก้องโลกคนนี้ก็คือ Long Tail ..คือ Chris จากที่ เขียนบทความมากมายเกี่ยวกับ Internet ในนิตยสาร Wired ได้สังเกตุเห็นว่า บริษัทอย่าง Netflix (บริษัทให้เช่า DVD ทาง Internet ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกา)
--ผมขอเกร็นคร่าวๆเกี่ยวกับ Netflix บริษัทนี้ก่อตั้งโดย นาย Reed Hastings ในปี 1997 ปัจจุบันเป็นบริษัทเช่า DVD ที่ใหญ่และกำไรสุดโต่ง ในขณะที่ร้านเช่าวิดีโอ ยักษ์ใหญ่อย่าง Blockbuster กลับมีผลประกอบการที่แย่ลงเรื่อยๆ ...นี่แหละครับเป็นตัวอย่างของ ธุรกิจ ในอนาคต คือ ต้องสร้างจาก "ช่วงว่างของตลาด ที่ลูกค้าไม่ได้รับการตอบสนอง" เดิมที คนอเมริกา เบื่อมากๆกับ "ค่าปรับ" ที่ตืน DVD ช้า (จนบางครั้ง ค่าปรับแพงกว่า DVD อีก) จุดนี้ทำให้ Netflix เปิดร้านเช่า DVD Online ขึ้นมา โดยไม่มีการเก็บค่าปรับ "คุณสามารดูได้นานเท่าไหร่ก็ได้ ..โดยที่ไม่เสียค่าปรับ และเมื่อคุณคืน คุณก็เช่าหนังใหม่ต่อไปได้" ง่ายๆแค่นี้ กลับทำให้นาย Reed Hastings รวยสุดๆ
สิ่งที่ Chris Anderson สังเกตุเห็นจาก Netflix คือ ปรากฏการณ์ "Long Tail"--นั่นก็คือ DVD ที่เดิม(ไม่เคยมีใครเช่า เพราะร้าน วิดีโอ ปกติ จะมีพื้นที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถมีหนังทุกเรื่องได้ แต่การที่ Netflix เป็นร้าน Online ทำให้มีไม่ข้อจำกัดในเนื่อที่การวางหนัง) ..ผลปรากฏว่า หนังที่ไม่เคยถูกเช่า "รวมกันแล้วกลับเริ่มขาย มากอย่างน่าตกใจ" ซึ่งถ้าเอาหนัง"ที่ไม่เคยมีใครเช่า"รวมกัน กลับรวมแล้วมีตลาดใหญ่พอๆ กับหนัง Best Seller เลยทีเดียว
จุดนี้ทำให้นาย Chris มองเห็นช่องว่างว่า "การที่สมัยก่อน คนเช่าแต่หนัง Best Seller หรือ อ่านแต่หนังสือ Best Seller และ ฟังแต่เพลง Best Seller นั่นเป็นเพราะ "ในอดีตลูกค้ามีทางเลือกที่จำกัด" แต่ในปัจจุบัน Internet ได้ทำลายข้อจำกัดดังกล่าว ...ซึ่งหมายความว่า ร้านดั้งเดิม อย่าง แมลงป่อง หรือ ร้านวิดีโอแถวบ้าน ไม่สามารถ "ให้เช่าสินค้าที่ Netflix ขายดี"-- มันก็คล้ายๆ Netflix ได้ผูกขาด "ตลาดใหม่ไปโดยปฎิยาย"
ดังนั้น โอกาสในอนาคต จึงยังเป็นสิ่งที่ต้องค้นหาต่อไป..ตัวผมมองการเกิด Long Tail เป็นโอกาสสำหรับ นักธุรกิจเล็กๆ หรือ คนตัวเล็กๆอย่างผม ที่จะสามารถมีเวที ที่เรียกว่า Niche Market ของผมเอง ..ซึ่งในความเป็นจริง---ถ้า Niche Market ของผมมีคุณภาพเหนือกว่า"สินค้าดั่งเดิม" ..สินค้าผมก็อาจจะกลายเป็น "สินค้ากระแสหลักได้" เหมือนอย่าง "โจ ซิง ฉือ" ที่กล่าวว่า "คนเล็กต้องใหญ่!!"(ส่วนคนใหญ่จะเล็ก อ๊ะเปล่า!!) ....หุ หุ หุ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
7 ข้อ ทำไมมนุษย์เรา ถึงแย่มากๆ ในการจัดการเงิน ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราทำนายอนาคตได้แย่มากๆ …สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าจะดี มันจะแย่ …แต่...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
เรื่องนี้เป็นประเด็นสอนใจ Brand ระดับโลกอย่าง Starbucks ที่เข้าไปบุกแดนจิงโจ้ ..ในที่สุด กระอัก “ไม่รุ่ง” ด้วยเหตุที่ Australia นับเป็นหนึ่ง...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
วันก่อนผมไปคืนหนัง น้องที่ออฟฟิศฝากคืน
ตอบลบโคนปรับไป 70 บาท
ผมเลยถามเค้าว่าเดือนๆนึงค่าเช่ากับค่าปรับ
อะไรเยอะกว่ากัน
คำตอบที่ได้คือพอๆกันครับ
ชอบใจ มุมมองและความคิด จะตามอ่านต่อ
ตอบลบ