วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553
สมองซีกขวากับการลงทุนที่ใหม่
ผมไปเจอหนังสือของ Daniel Pink ชื่อ "A Whole New Mind" เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมองซีกขวา ซึ่งเป็นอะไรที่โดนใจคนมากมาย เพราะสมองซีกซ้าย เป็นอะไรที่มัน logic ตัวเลข อะไรประมาณ Nerdๆ (ใส่แว่นหนา นั่งหน้าคอม ..วันๆคำนวณ ตัวเลข ๆๆ)--"แต่คุณลืมไปรึเปล่า" ณ เวลานี้ "คนสมองซีกซ้าย กำลังครองโลกอยู่" ไม่ว่าจะเป็น Bill Gates , เหล่านักกฏหมาย , ผู้จัดการกองทุนที่เรียกว่า Quant
ขอนอกเรื่องมาอธิบายเรื่อง Quant ก่อน (จริงๆ Quant นี่มีคนเอามาเขียนหนังสือเป็นเล่มๆเลย) คือ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีการ Recruit คนที่จบ "คณิตศาสตร์" เข้ามาทำงานในภาคการเงิน (หลายคนสงสัยว่าเข้ามาทำ ปื๊ด อะไร!!) ก็เข้าคำนวณราคาหุ้นและราคา Derivative (จริงๆมันคำนวณไม่ได้)..การนำสิ่งที่คำนวณไม่ได้ มาพยายามคำนวณ --สรุป "มันก็เน่าอย่าง Sub-prime นี่เห็นกันนั้นแหละ"
ประเด็นนี้นาย Taleb ผู้จัดการกองทุนแนว Quant ที่บริหารเงินจน คิดได้ว่า "ไอ้วิธีการ พยายามคำนวณสิ่งที่คำนวณไม่ได้ ..ผลลัพธ์มันจะเป็นอย่างไร" ในที่สุด..Taleb ตัดสินใจบริหารกองทุน ในแบบ "สวนทางกับที่Quant ทำ" จากนั้นเขาก็เขียนหนังสือ The Black Swan ขึ้น ---ประเด็นนี้เขา Hit Jackpot จริงๆก็ตอน Sub-prime นี่แหละ ที่เขารวยทั้งกำไรจากกองทุนของเขา รวมทั้งกำไรจากหนังสือ The Black Swan ที่ขายดีสุดๆเช่นกัน ---(Taleb เก็งกำไรสวน Sub prime และก็ทำให้เขารวยสุดๆ)
เรากระโดดมาสมองอีกซีกกันคือ "ซีกขวา" มันคือ สมองแห่งการจินตนาการ ที่เราเรียกว่า Art นั่นแหละ --Daniel Pink กล่าวในหนังสือของว่า โลกยุคต่อไป เป็นโลกของคนสมองซีกขวา (ผมถามว่าคุณเชื่อไหม?) อันนี้ผมว่าอยู่ที่มองนะ เพราะปัจจุบัน--- nerd (เด็กแว่นหนา) เป็นคนที่ครอง ธุรกิจ .com และเป็นผู้นำ New Rich ของปัจจุบันนี้ --คุณว่าเขาจะอยู่เฉยๆรอให้ พวกสมองซีกขวามาแซงเขาหรือไม่
จริงๆแล้ว ประเด็นของสมอง ซีกไหนจะรุ่ง ผมว่ามันอยู่ที่เราใช้มากกว่า เพราะแท้จริงแล้ว ทุกคนก็มีมีสมองทั้งสองซีกอยู่แล้ว "ทั้งซ้ายและขวา" ผมว่ามันอยู่ที่คุณจะเลือกใช้มากกว่า ---ในด้านการลงทุน ผมว่า"เราต้องใช้ซีกซ้าย" เพราะการลงทุน มันไม่ตายตัวเหมือนสูตรเลข มันจึงต้องอาศัย จินตนาการเข้ามาช่วย
ดังนั้น ผมไม่เถียงหรอกครับว่า "สมองซีกขวา" หรือ พวก"ติ๊ดๆ" จะรุ่งได้ในยุคนี้ ..เพราะมันทำได้จริงๆ เพียงแต่มันอยู่ที่ประเด็นที่ว่า คุณเอาความถนัดของคุณไปใช้ได้เหมาะกับความสำเร็จหรือไม่ ...
ก่อนปี 1990 คนรวยคือ คนที่ใส่สูทผูกเนคไท แต่หลังปี 1990 ยุค .com "Boom" กลายเป็นคนรวย ต้องใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ เหมือน เจ้าของ Website ต่างๆ ---ตอนนี้ 2010 คุณว่าใส่อะไร จะมาล่ะ..หุ หุ(ถ้าตามหลักแนวคิดเล่นหุ้นให้ชนะตลาดแบบ"ชาวสวน"ของผม คงต้องแก้ผ้าครับ เพราะมันจะทำให้เรามองเห็นตลาดผ่านภาพลวงตาได้มากขึ้น นั่นเอง..หุ หุ)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
7 ข้อ หุ้นก่อนดี มันซ่อนอยู่ตรงไหนกัน ? ซื้อหุ้นก่อนดี คือ ซื้อตอนที่มันยังไม่ดี พอมันดีเราก็รวยแล้ว 1. ‘เป็นหุ้นที่อยู่ในจุดที่โตได้‘ …จุ...
-
เข้าใจกลไกเศรษฐกิจที่ซับซ้อน แบบง่ายๆ ใน 6 ข้อ 1. ‘เงินเฟ้อ คือ ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดในระบบทุนนิยม‘ …เงินเฟ้อแปลว่า เงินที่เราหาได้เก็บสะส...
-
6 กลโกง ในตลาดหุ้นที่ใช้หลอกคนมีความรู้แบบง่ายๆ เวลาเสียเงินเองนี่ก็ว่าหนักแล้ว …แต่ถ้าโดนหลอกนี่มักจะหนักกว่า ’เพราะ ความโลภ + เชื่อใจ’ ใ...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
7 เรื่องเงิน ที่เปลี่ยนแปลง ตามโลกยุคใหม่ 1. ’เงินใช้แก้ปัญหาได้ง่ายและถูกที่สุด’ …ปัญหาต่างๆ จะง่ายขึ้น ถ้าใช้เงินแก้ (พูดโคตรแรง!!) 2. ‘...
-
ถ้าใครรู้จัก ดร.นิเวศน์ จะรู้ว่า เขาคือ Value Investor "พันล้าน"..โดยหลัก Value Investor จะซื้อหุ้นเมื่อ "ถูก" แล้วก็จะข...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ใช่ดูอย่างคนคิดโปรแกรม window google facebook ใช้สมองซีกขวาทั้งนั้นขายโปรแกรม และรวยมหาศาลเลย
ตอบลบ