วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2553
Asset ทั้งโลกที่ลงทุนได้มีแค่สองแบบเท่านั้น(ไม่แปลกที่ Buffet ทำไมอึดมาก !!)
พูดถึง Asset ต้องอธิบายนิดนึงว่า Asset ก็หมายถึง สินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และตามการเติบโตของเศรษฐกิจ อย่างเช่น ที่ดิน, ทอง , หุ้น , พันธบัตร ,ของสะสม , เหล็ก , น้ำมัน ..เอาเป็นว่าทุกอย่างที่สามารถเก็บรักษาได้ แล้วมีมูลค่านั่นเอง (แต่ของที่เสื่อมค่าเมื่อเวลาผ่านไป ผมขอไม่เอามารวมในนิยามของการลงทุนละกัน)
ที่ว่า Asset ทั้งโลกมี 2 แบบ ก็คือ
1. Asset ที่มีความเสี่ยงน้อย เช่น พันธบัตรรัฐบาล, หุ้นกู้ Bond ต่างๆ , ที่ดิน ,บ้าน คอนโด (คือ รวมทุกอย่างที่ทุกคนมองว่าเสี่ยงน้อย)
2. Asset ที่มีความเสี่ยงมาก เช่น หุ้น , น้ำมัน ,ทอง (สองประเภทหลังเสี่ยง แต่ก็ยังน้อยกว่าหุ้น เพราะหุ้นมีความผันผวนขึ้นลงทุกวัน)
ดังนั้น ถ้าถามว่า Asset เพียงสองแบบ ก็ลงทุนง่ายน่ะซิ ..”ไม่เลย” คุณรู้ไหมว่าคนส่วนใหญ่ขาดทุนจากการลงทุน เพราะเขา ไม่สามารถ แยกภาพลวงตา ออกจากความเป็นจริงได้ (งง ไหมครับ)
เวลานี้ถ้าไปถามนักลงทุนส่วนใหญ่ ว่า “ตอนนี้คุณควรลงทุนใน Asset ประเภทไหน”-- ผมเชื่อว่าส่วนใหญ่จะต้องตอบว่า “ก็ Asset ที่มีความเสี่ยงน้อยไง!!” ดังนั้น แน่นอนเมื่อคนส่วนใหญ่ต้องการถือ Asset ที่มีความเสี่ยงต่ำ ย่อมทำให้ ราคาสูงขึ้นตาม Demand ของตลาด …ในขณะที่ Asset ที่มีความเสี่ยงสูง (ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่กล้าถือ) ก็จะมีราคาต่ำ
ถ้าถามผมว่า เมื่อเป็นแบบนี้ คุณควรจะลงทุนอย่างไร ..ก็ตอบง่ายๆว่า คุณก็ควรลงใน Asset ที่มีความเสี่ยงสูงในเวลานี้นั่นเอง!!-- จากนั้นถือไปจนกว่า เศรษฐกิจจะดี (อาจเป็น 3 – 5 ปีข้างหน้า)-- พอคนส่วนใหญ่เริ่มรู้ดีต่อตลาด (ก็ตอนที่เศรษฐกิจดีหมด ทุกคนก็จะมีความมั่นใจ) ทีนี้แหละ คนส่วนใหญ่ก็จะมองหา Asset ที่มีความเสี่ยงสูงมากขึ้น -- และเมื่อราคามันสูง คุณก็ควรจะออก แล้วไปซื้อ Asset ที่มีความเสี่ยงต่ำแทน (สวนมันเข้าไป ให้ไส้แตก!! …หุ หุ)
“อาจจะฟังดูง่ายนะครับ แต่แปลกไหมครับ ที่คนส่วนใหญ่กลับทำไม่ได้” ดังนั้น มุมมองอย่างเดียวมันไม่พอ คุณจะต้องมีความหนักแน่นด้วย ..ปรมาจารย์นักลงทุนอย่าง Warren Buffet กล่าวไว้ว่า “หากคุณทนเห็น Port การลงทุนของคุณ ลดลงถึง 50% ไม่ได้ คุณก็ไม่ควรเล่นหุ้น”
ทั้งนี้เพราะหนึ่งในหุ้นที่ดีที่สุด ที่ Buffet ถือ ก็คือ Washington Post ซึ่งเขาถือหุ้นตัวนี้นานกว่า 20 ปี ..โดยในปีที่สองหลังจากที่เขาลงทุนในหุ้นตัวนี้ --หุ้นตกลงไปกว่าครึ่ง แต่ Buffet ก็เชื่อมั่นและยังคงถือต่อไป จากนั้น หุ้นตัวนี้ก็วิ่งจาก Bottom ไปกว่า 100 เท่า ใน 20 ปีที่ Buffet ถือ (คุณลองนึกให้ดี ว่าจริงๆแล้ว คนส่วนใหญ่ ถ้าปีที่ 2 หุ้นตกขนาด 50% ผมว่านักลงทุนส่วนใหญ่ ขายวิ่งหนีตายไปหมดแล้ว ..และนี่คือ ข้อแตกต่างระหว่าง Buffet กับนักลงทุนทั่วไป)
สรุปง่ายๆว่า การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้นั้น นอกจากมีความเข้าใจในประเภทของ Asset แล้ว คุณยังต้องมี “ความอึด” ที่เป็นส่วนสำคัญของการลงทุนเช่นกัน….
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
7 ข้อควรรู้ ก่อนทุ่มเงินหนักๆ ซื้อหุ้นอเมริกา 1. หุ้นอเมริกาขึ้นแบบกระจุกตัว …แปลว่า เราเห็นดัชนีอเมริกาขึ้นดีมากๆ แต่เอาเข้าจริง มันกระจุก...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
5 ระดับ ความรวยที่เราควรเข้าใจ จนไปสู่เศรษฐีพันล้าน !! 1. ‘เงินแสนแรก’ …เราจะได้จากการทำงานหนัก 2. ’เงินล้านแรก‘ …เราจะได้จากทักษะ และ ความ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
7 ข้อคิด ของปัญหาที่นักลงทุนต้องผ่านให้ได้ 1. ‘ทุกปัญหามีอายุของมัน‘ …ปัญหาทุกอย่างมีอายุ มีเวลาของมัน …พอเวลาผ่านไป ปัญหาก็จะผ่านไปเช่นกัน...
-
6 เรื่อง Stupid that make you Rich !! 1. ‘Start a Business’ …เริ่มจากปัญหาที่เราอยากจะแก้ …ถ้ามือใหม่เริ่มจากแก้ปัญหาเล็กๆ 2. ’ลงทุนในสิ่ง...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น