วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553
การสูญพันธ์ของ One Man show (กุด..ว่างั้น!!)
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวผมเอง ตามประสาคนหนุ่มที่มักมองว่า “ข้าที่แหละเก่งที่สุดในจักรวาลแล้ว” ..เรื่องราวของผมมันเริ่มจากความมั่นใจไร้สติ ที่เข้าไปลงทุนทำกิจการร้านอาหารในออสเตรเลีย --“ไม่ใช่แค่เปิดร้านอาหารเดียว ผมเปิดมันที 5 สาขา..กะว่า ปีหน้า กูจะ Challenge แมคโดนัลด์ก็คราวนี้แหละ!!” ขณะนั้น Cycle ของ ร้านอาหารในออสเตรเลียกำลังอยู่ในช่วงของขาขึ้น (จึงทำให้ผมฮึกเหิม!!)
สิ่งที่ผมมองข้ามก็คือการวิเคราะห์เชิงลึกใน Industry ร้านอาหาร -- การทำงานแบบ One Man Show ทำให้ผมขาดความรอบครอบ คือ ไม่ได้ศึกษา Industry และ Cycle ของธุรกิจอย่างจริงจัง …หลายคนคงมองไม่ต่างกับผมว่า “การเปิดร้านอาหารในต่างประเทศมีแต่รวย ไม่ใช่หรือ” นั่นเป็นความคิดที่ไร้เดียงสายิ่งนัก (ระหว่างเจ้าของร้านอาหารมักจะรู้กันว่า ร้านอาหารเป็นธุรกิจที่เปลี่ยนมือสูงมาก เพราะเป็นอะไรที่แบบว่า “คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า” เข้ามาตายนี่แหละ..หุ หุ)
..มาเข้าประเด็นที่ผมมองข้าม นั่นก็คือ Salary Structure ของอุตสาหกรรมอาหาร คือ เน้นค่าแรงที่ต่ำกว่า Industry Award (พูดภาษาคนก็คือ เป็นธุรกิจประเภทที่กดค่าแรงนั่นเอง)
การเป็นธุรกิจประเภท Low Salary ทำให้ ด้านหนึ่งเป็นการ Block คู่แข่งขัน (จึงไม่แปลกที่ร้านอาหารอย่าง แมคโดนัลด์ที่รสชาติอาหาร ไม่เอาไหนเลย กลับสามารถทำกำไรอย่างงาม เพราะแท้จริงแล้ว แมคโดนัลด์ก็ไม่ต่างกับ Toyota หรือ Dell ที่เป็น Cost Leader ใน Industry ของตัวเอง) …ดังนั้น โอกาสของคู่แข่งที่ สายป่านสั้น แทบจะไม่มีโอกาสชนะธุรกิจอย่างนี้ได้เลย
อีกประเด็นที่ผมมองข้ามคือ Cycle ของธุรกิจ ..ผมกระโจนเข้าสู่ธุรกิจใน Cycle ขาขึ้น มันเป็นอะไรที่ปัญญาอ่อนมาก เพราะแน่นอนในช่วงขาขึ้น Cost ทุกอย่างจะสูง ไม่ว่าจะเป็น ค่าเช่า , ค่าแรง , การแข่งขัน หรือ แม้แต่ต้นทุนของวัตถุดิบ (ยกตัวอย่างคุณเซ็นสัญญาเช่าร้านในช่วง เศรษฐกิจดี ค่าเช่าของคุณก็จะแพง จากนั้นทุกปีค่าเช่าคุณก็จะมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่างกับคนที่ เซ็นสัญญาเช่าในช่วงเศรษฐกิจแย่ “คนเช่าน้อย” เจ้าของก็จะลดค่าเช่า )ดังนั้น มันเป็นการไม่ฉลาดเลย หากเราคิดจะทำธุรกิจใน Cycle ขาขึ้นของอุตสาหกรรมนั้นๆ
ที่กล่าวมาคือ 2 ประเด็นใหญ่ ที่ “ตอกหน้า One Man Show อย่างผม จนหน้าหงาย” ..อย่างที่บอกแหละครับ คนเราจะเรียนรู้จริงๆเมื่อมันเกิดขึ้นกับตัวเองเท่านั้น (ผมจึงไม่แปลกใจว่าในอนาคต ก็ต้องมีคนอีกมากมายที่ไม่ได้สนใจคำแนะนำของผม แล้วก็ไปทำผิดพลาดเหมือนกับผม)
กลับมาที่เรื่องของ One Man show ..หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วควรจะทำอย่างไร เอาเป็นว่า ผมจะมาเล่าวิธีแก้ One Man show ในบทความหน้าละกันครับ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 สิ่ง ที่จะต้องดูในการเล่นหุ้นไทยขาขึ้น รอบใหม่ 1. ‘เด้งจากหุ้นใหญ่‘ …ในการเริ่มขาขึ้นรอบใหม่ จะเริ่มจากหุ้นใหญ่ เพราะ เม็ดเงินต่างๆ จะเข้...
-
"ฉันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" นั่นคือ ความปรารถนาอันดับหนึ่ง จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ใช่!! ใครๆ ก็อยากเป็น ...
-
7 เรื่อง เบื้องลึกเบื้องหลังของคำว่า ‘เงิน’ ในโลกปัจจุบัน 1. ‘เงินในปัจจุบัน เป็นเงิน Fiat’ …เงิน Fiat สร้างจากหนี้ แปลว่า เงินในปัจจุบัน ไ...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
“อยากเอาเรื่อง Alpha มาเล่าให้ฟัง” ...ในทุกสิ่งมีชีวิต จะมีจ่าฝูง มีหัวหน้า เช่น ฝูงลิง ฝูงหมาป่า ก็จะมีจ่าฝูง ...เรื่องที่น่าสนใจก็คือ ไ...
-
8 ข้อต้องดู นักเล่นหุ้นสาย growth เดิมทีเล้นหุ้น value ก็ปันผลดีอยู่แล้ว ...แต่ยุคนี้ ควรคัดหุ้น growth เข้าพอร์ตด้วย เพื่อเร่งให้พอร์ตเราโ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
7 ข้อควรรู้ การลงทุนยาว กับ การเทรดสั้น อะไรรวยเร็วกว่ากัน 1. ‘การเทรดได้เงินเร็วกว่า’ …แต่ข้อเสียก็คือ เสียเงินเร็วพอๆ กัน ถ้าจับจังหวะไม่...
-
7 ความแตกต่างระหว่าง ลงทุนหุ้นไทย กับ หุ้นโลก 1. ‘Level Playground’ …เดิมทีคนที่สามารถไปลงทุนต่างประเทศต้องเป็นคนรวยมากๆ ใช้เงินเยอะ แต่ปัจ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น