วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553
อนาคตกิจการไทยกับ Teamwork นั้นสำคัญไฉน
ก่อนจะมาพูดเรื่องน่าเบื่ออย่าง Teamwork ผมว่าเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า Economy ในบ้านเรามันมีกี่แบบ …มี 2 แบบ คือ
หนึ่ง Old Economy ก็คือธุรกิจดั้งเดิมที่มีมาอย่างยาวนาน เช่น ธนาคาร, การค้าปลีก , Broker, การค้าส่ง , การ Trading , การขนส่ง …ถ้าคุณสนใจที่จะเข้ามาทำกิจการประเภทนี้ มันก็มีอยู่วิธีเดียว คือ คุณจะต้องคิด Value Added ให้ได้ อย่างในอเมริกา อุตสาหกรรม Broker มีมาช้านานแล้ว แต่นาย Charles คิด Value Added ก็คือ เปิดบริษัท Broker Online ขึ้นมา แข่งกับ Broker แบบดั้งเดิม ..แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทุก Broker ก็มีบริการ Online เช่นกัน
…จะเห็นได้ว่าช่องว่างหรือ Room ที่เปิดโอกาสให้กับนักธุรกิจ มันไม่ได้มีมาก จึงต้องอาศัยมุมมองและจังหวะที่ดี ประกอบกับการทำธุรกิจแบบ Value Added ต้องเป็นคนที่รักการแข่งขันเป็นชีวิตจิตใจ เพราะมันเท่ากับว่า คุณประกาศตัวเข้าชนกับรายใหญ่นั่นเอง (จึงมีน้อยคนนักที่รอด!!)
สอง New Economy ก็คือ บริษัท ที่ใหม่ถอดด้าม เช่น Microsoft(ในยุคก่อตั้ง) , Google , Social Network ต่างๆ , I-pads ของ Apple -- ซึ่งสิ่งเหล่านี้ เรียกว่า คุณเปิดอุตสาหกรรมขึ้นมาใหม่นั่นเอง
กลับมาที่ประเด็นของ Teamwork --การที่เราจะสำเร็จในธุรกิจใดๆก็ตาม แน่นอนการมี Teamwork ที่ดีย่อมสร้างความได้เปรียบอย่างมหาศาลทีเดียว …จุดที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือ Old Economy หรือ อุตสาหกรรมแบบเก่า ซึ่งปัจจุบัน ได้เผชิญกับความกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาล
โอกาสที่ผมอยากแนะนำคนรุ่นใหม่ ที่ชอบทำงานเป็น Teamwork คือ การที่เราเสนอตัว ไปทำงานในอุตสาหกรรมแบบเก่า (โดยเฉพาะกิจการที่มีชื่อเสียงมายาวนาน แต่องค์กรไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก) จุดนี้ผมมองว่า มันเป็น “โอกาสทอง” ของคนรุ่นใหม่เลยก็ว่าได้ ---เพราะการที่คุณเข้าไปทำงานในบริษัทที่มีชื่อเสียง ก็เท่ากับว่า คุณมี Teamwork และมีระบบที่ดีพอสมควร รองรับคุณในเบื้องต้นแล้ว จึงมีโอกาสสำเร็จสูง
จุดที่ว่านี้ ผมว่ามันได้เปรียบผู้ประกอบการที่เก่ง --แต่ชอบ One Man Show อย่างมาก ---เพราะถ้าหากคุณนึกดูให้ดี ถ้าคนสองคนนี้มีความสามารถที่ใกล้เคียงกัน ….โอกาสที่ One Man Show จะแพ้นั้นมีสูงมาก
แต่ในทางกลับกัน หากคุณเลือกที่จะทำธุรกิจแบบ New Economy ผมกลับมองว่า One Man Show กลับเป็นอะไรที่น่าสนใจกว่า ทั้งนี้เพราะกิจการแบบใหม่ถอดด้าม ต้องการ “ความบ้า ..ไม่ใช่บ้าธรรมดา แต่มันเป็น บ้าชนิดไม่มีใครคบ” จุดนี้เองทำให้ Idea หรือคน แบบนี้ไม่สามารถที่จะทำงานในองค์กรแบบเก่าได้เลย
สรุปก็คือ ก่อนคุณจะทำธุรกิจคุณจะต้องสำรวจตัวเองก่อนว่า คุณ”บ้าเพียงใด” แล้ว ธุรกิจที่คุณทำเป็น Old Economy หรือ New Economy จึงจะมีโอกาสสำเร็จได้อย่างดี!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
7 ข้อ ทำไมมนุษย์เรา ถึงแย่มากๆ ในการจัดการเงิน ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราทำนายอนาคตได้แย่มากๆ …สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าจะดี มันจะแย่ …แต่...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
เรื่องนี้เป็นประเด็นสอนใจ Brand ระดับโลกอย่าง Starbucks ที่เข้าไปบุกแดนจิงโจ้ ..ในที่สุด กระอัก “ไม่รุ่ง” ด้วยเหตุที่ Australia นับเป็นหนึ่ง...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น