วันพฤหัสบดีที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2553
"ตู้เย็นมือถือราคาพันกว่าบาท รถยนต์หมื่นบาท" ต้อง Bottom-up Innovation เท่านั้น
ตลาดด้อยพัฒนา(Emerging Market)ในปัจจุบัน อย่าง จีน และ อินเดีย ใช่ว่าจะต้องเป็นผู้ตามเทคโนโลยีเท่านั้น ...ปัจจุบัน "ตู้เย็นราคาพันบาท ที่ขนาดเท่า Cooler ถือไปไหนมาไหน ใช้ไฟน้อย ไม่มี Compressor แต่ใช้ Chip และพัดลม เหมือนคอมพิวเตอร์แทน --สินค้าเช่นนี้ไม่สามารถจะเกิดได้เลย หากไม่ได้ออกแบบอยู่ในอินเดีย .."มันเริ่มตั้งแต่ พฤติกรรมของชาวบ้านอินเดีย ที่นิยมซื้อสินค้าทุกวันทำให้ ตู้เย็น ขนาดปกติ ไม่ใช่ที่ตลาดอินเดียต้องการ --"และนี่เองที่ Frugal Engineer หรือ การออกแบบแบบ Bottom-up Innovation ได้เกิดขึ้น
เรื่องนี้ผมเคยยกตัวอย่างก่อนหน้านี้แล้ว เกี่ยวกับรถ Nano ของ TATA MOTOR เป็นรถที่ถูกที่สุดในโลก "ไม่กี่หมื่นบาท" ลูกค้าที่ Nano จับก็คือ คนขี่มอเตอร์ไซค์ที่อยากปลอดภัยขึ้น(ซึ่งการใช้ รถตุ๊กตุ๊ก เป็นต้นแบบ แทนการใช้รถยนต์ปกติ มันเป็นหลักคิด ที่มีเหตุผลอย่างแน่นอน!!) ..เดิมถ้าบริษัท TATA MOTOR ใช้ Platform การสร้างรถยนต์แบบเดิม เขาก็ไม่มีทางที่จะสร้างรถที่มีราคา "ถูก" เช่นนี้ได้ --ประเด็นคือ การคิดตั้งแต่ Bottom-up นั่นเอง
บริษัททั้งในอินเดีย และ จีน ต่างเริ่มแข่งขันในด้าน Bottom-up Innovation มากขึ้นเรื่อยๆ ..ซึ่งหากมองให้ดีแล้ว ตลาดที่พูดถึงนี่ มีขนาดใหญ่มากๆ ..ยกตัวอย่างของบริษัท Zhongxing Medical ของจีนที่สร้างเครื่อง X-ray ได้ "ถูก"กว่าเครื่องปกติถึง 20 เท่า ..ทำให้เครื่อง X-ray นี้สามารถ ผูกขาดตลาดโรงพยาบาลในประเทศจีนได้ถึงกว่า 50%(เพราะโรงพยาบาลในจีน ต้องการแค่คุณสมบัติเบื้องต้นของเครื่อง X-ray ที่ไม่ต้องซับซ้อนอย่างที่ใช้กันเป็นมาตรฐานทั่วโลก) ..จุดนี้ผมว่ามันช่วยอธิบาย ได้หลายๆอย่างที่ ทำไมบริษัทต่างชาติจึง ไม่สำเร็จในการผลิตสินค้าขายคนจีน ทำให้ภายหลังต้องปรับ Model ใช้จีนเป็นฐานการผลิตเพื่อส่งออก ในปัจจุบัน
แต่ในมุมกลับกัน "ตลาดที่บริษัทตะวันตก"มองข้าม คือ กลุ่มคน"ยากจนที่เรียกว่า The Bottom of the Pyramid" จริงๆมีขนาดใหญ่มากถึง 4 - 5 พันล้านคนทั่วโลก ...จุดนี้เองเป็นจุดที่ Bottom-up Innovation จะมาเติมเต็มช่วงว่างนี้ได้ --ตั้งแต่รถยนต์ Nano , เครื่อง X-ray ราคาต่ำ , ตู้เย็นหูหิ้วที่กินไฟฟ้าน้อย (และสามารถใช้กับประเทศที่ไฟฟ้าดับเป็นว่าอย่างอินเดีย)
ผมว่า "อนาคตของเอเชีย" เริ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ จากแต่เดิมที่ เราเป็น แรงงานและผู้รับใช้ เทคโนโลยี "ฝรั่ง"(อย่างบ้านเรารับมาทั้งดุ้น มันเลยเหมือนเป็นคำสาบให้เราต้องก้มหัวรับ แต่เทคโนของอเมริกาอยู่ตลอดเวลา) ... วันนี้ถือว่า เราโชคดี ที่จีนและอินเดีย ไม่ได้เป็นแค่ผู้ตามเพียงอย่างเดียว ...หากแต่มีความเป็น"ผู้คิดและผู้สร้าง"ด้วยในเวลาเดียวกัน -- ปัจจุบันบริษัทอย่าง GE , Microsoft และอีกหลายๆบริษัท เริ่มกลับตัว แล้วตั้ง Research Center ในประเทศจีน และ อินเดียบ้าง (จุดนี้ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ยังมีทางเดินอีกไกล) ผมหวังว่าวันนึง องค์กรในประเทศไทย จะตื่นตัวกับ Bottom-up Innovation บ้าง!!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ เศรษฐกิจและการลงทุนยุค Trump 2.0 1. ‘นโยบาย American First’ …Trump จะทำทุกอย่างให้อเมริกาได้ประโยชน์ เน้นในเรื่องของเศรษฐกิจ 2. ‘Dere...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ตู้เย็นพันกว่าบาทเองหรอครับ และมันจะเย็นใกล้เคียงกับแบบบ้านเรามั้ยเนี่ย
ตอบลบ