วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553
เรื่องราวของนักเขียนผู้โชคดี !!(ขอบอกว่ารวยกว่า J.K.Rowing )
หลายคนคงจะนึกถึง J.K.Rowing เพราะเขียน Harry Potter จนกลายเป็น Billionaire .."ก็ไม่ผิดนะ" แต่เรื่องราวของนักเขียนผู้โชคดีที่ผมจะนำเสนอมันเผอิญ ไม่ใช่ J.K.Rowing
แต่ยังไงก็พูดถึง J.K.Rowing สักนิดก็ได้ จริงๆหญิงสาวผู้นี้ เป็นคนธรรดาๆที่ชอบเขียนนิยายเป็นชีวิตจิตใจ มีความจิตนาการณ์สูง ปั่นเรื่องเพ้อฝันให้เป็นตุเป็นตะ ..ช่วงแรกๆเธอตะลอนไปเสนองานตามสำนักพิมพ์ต่างๆ แต่ก็ถูกปฎิเสธ เพราะไม่มีสำนักพิมพ์ไหนคิดว่า หนังสือ นิยาย Magic เพ้อฝันอย่างนี้จะขายได้ ...ผลก็ก็คือ J.K.Rowing จมอยู่กับความล้มเหลวเกือบค่อนชีวิต รวมถึงชีวิตสมรสของเธอก็พังทลาย เธอได้กลายเป็น pension mom ที่กินเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอังกฤษ เพื่อประทังชีวิตเธอและลูกน้อย (เหมือนเขียนนิยายน้ำเน่า ยังไงก็ไม่รู้ !!)
เอาเป็นว่าในที่สุด เรื่อง Harry Porter ของเธอ ก็ได้รับการตอบรับตีพิมพ์จากสำนักพิมพ์เล็กๆ แห่งนึง ..และจุดนั้นเอง ก็ได้กลายมาเป็น ตำนานนิยายที่ขายดีที่สุดในโลก และได้กลายเป็นนักเขียน Billionaire (คนแรก)ของโลก!! --เพราะปกตินักเขียนมักจะไส้แห้งทุกคน ส่วนไอ้ที่ ไส้เปียกหน่อยก็ สำนักพิมพ์..หุ หุ
หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องนี้มานานแล้ว คงเบื่อ "ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลกนี่ เขียนหนังสือที่ไม่มีใครเขียน คือ ทำให้แตกต่าง ก็เลยรวย"(ก็ถูกนะครับ มันก็คล้ายๆเรื่องเศรษฐีณี ที่ซื้อที่ดินที่ไม่มีใครอยากได้ ใกล้บ้านแม่นาค(พระโขนง) แล้วมาขายไร่ละร้อยล้าน ในปัจจุบัน หรือ อย่างเรื่องราวของนักลงทุนที่เล่นสวนทางคนส่วนใหญ่ แล้วกลับรวย) ..งั้นพรุ่งนี้!! ผมจะเริ่มจากขับรถออกจากบ้าน แต่วิ่งสวนทางคนอื่น.. (โอ๊ย!! บ้าไปกันใหญ่แล้ว !!)
มาเข้าเรื่องนักเขียนผู้โชคดี (เราจบเรื่องของ J.K.Rowing ไปแล้ว เพราะเธอไม่ใช่ ผู้โชคดีธรรมดา แต่ของเธอมัน "มหา..ตะลัย โคตรโชคดี!!") ..จริงๆแล้วความโชคดีของนักเขียนในปัจจุบันคือ "คุณไม่ได้บ้าอีกต่อไป" เพราะสมัยก่อนเวลาคุณเขียน คุณก็จะนั่งอ่าน ขำมันอยู่คนเดียว ..แต่เดี๋ยวนี้ครับ Blogging โห !! เขียนแล้วไป Post --จากนั้นคุณก็ได้เลย ความคิดเห็น คำด่า ชมบ้างตามแต่อัตภาพ (นี่แหละครับ Market Research และ Customer Feedback ที่สุดยอด) สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่นักเขียนสมัยโบราณหาไม่ได้เลย "ผมถึงบอกว่า นักเขียนปัจจุบันโชคดีไงล่ะครับ"
แต่แปลก นักเขียน บางคนถามผมว่า "คุณเขียนฟรี ไม่คิดตังค์แล้วคุณจะหาเงินได้อย่างไร (ประมาณจะถามว่า ปกติก็ไส้แห้ง แล้ว มึงจะแห้งไปถึงไหน !!) ผมตอบว่า (..หุ หุ..กูก็ไม่รู้เหมือนกัน !!)
จริงๆแล้ว ผมมองว่า ปัจจุบันเราอยู่ในยุค "ข่าวสาร" ดังนั้น การจะเอาข่าวสาร มาหาเงิน "มันกลับเป็นอะไรที่เชย เพราะใครๆก็เข้าถึง Internet และมันก็ แทบจะไม่เสียเงิน" -- (หัวใจของการทำเงิน จึงอยู่ที่คุณไม่คิดจะทำเงินต่างหาก) "ยิ่งพูดกลายเป็นยิ่ง งง กันใหญ่"
เอาเป็นว่า คุณลองไปว่ายน้ำนะ ..โดดลงไปในสระ แล้วลองพยายามควักน้ำเข้าตัว น้ำมันกลับดันออก ส่วนเวลาเรายิ่งดันน้ำออก มันกลับยิ่งไหลเข้าตัว (งั้นแปลว่า ยิ่งให้เหมือนยิ่งได้ ส่วนยิ่งเอามันกลับยิ่งเสีย) ดังนั้น คนที่มุ่งจะเป็นผู้ให้ ท้ายสุดมันก็กลับมาโดยที่คุณคาดไม่ถึง ..อย่างนักเขียนบางคนพยายามถ่ายทอดประสบการณ์ของตัวเองออกไป แม้มันอาจะไม่ได้กลับมาเป็นเงินทองที่มากมาย แต่มันก็ได้ความสุขใจ หรือ ความรู้สึกดีๆของผู้อ่านหรือผู้รับ ที่ตอบกลับคืนมา..
ยุค New Economy ผู้ชนะกลับไม่ใช่คนที่พยายามกักตุน Information ต่างๆไว้กับตัว(เพราะมันอาจระเบิดได้!!) แต่ผู้ชนะกลับกลายเป็นคนที่จัดการและกระจาย Information นั้นๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อคนวงกว้างต่างหาก "ที่ชนะ" นักเขียนที่ผมพูดถึงก็คือ Sergey Brin และ Larry Page เจ้าของ Website Google นั่นเอง (ความพยายามที่จะ จัดการข้อมูลและส่งต่อ ให้ผู้บริโภค ให้มาก และมีประสิทธิภาพที่สุด มันได้ทำให้เขาเป็นสองหนุ่มที่รวยที่สุดคนหนึ่งของโลกนั่นเอง)..
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
7 ข้อควรรู้ ก่อนทุ่มเงินหนักๆ ซื้อหุ้นอเมริกา 1. หุ้นอเมริกาขึ้นแบบกระจุกตัว …แปลว่า เราเห็นดัชนีอเมริกาขึ้นดีมากๆ แต่เอาเข้าจริง มันกระจุก...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
5 ระดับ ความรวยที่เราควรเข้าใจ จนไปสู่เศรษฐีพันล้าน !! 1. ‘เงินแสนแรก’ …เราจะได้จากการทำงานหนัก 2. ’เงินล้านแรก‘ …เราจะได้จากทักษะ และ ความ...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ความคิดของคุณน่าสนใจทุกๆๆอันเลย ป้าอ่านแล้วแบบโดนจัย น่าจัดพิมพ์ ขายค่ะ
ตอบลบทำสิ่งที่ตัวเองชอบ แล้วเงินจะมาเอง
ตอบลบผมกำลังตามอ่านบทความเหล่านี้ ตั้งใจจะอ่านให้หมดเลยครับ เป็นแนวคิดที่น่าสนใจทีเดียวครับ :)
ตอบลบ