'ยุคนี้ใครไม่เสี่ยง ชีวิตยิ่งเสี่ยง'
เป็นคำพูดที่สะท้อนความเป็นจริงที่สุดในโลกปัจจุบัน ....วันนี้ใครดูการจัดอันดับเศรษฐีประเทศไทย จะเห็นเลยว่า คนรวยที่สุดในประเทศ 6 อันดับแรก รวยเกินแสนล้าน !!
คุณคิดออกไหมว่า "แสนล้าน" มันคือ เงินเท่าไหร่ ...ถ้าเอาแสนล้านมาซื้อบ้านหลังละล้านก็จะได้ประมาณ แสนหลัง ...บ้าไปแล้ว !!
ผมย้อนถามคุณหน่อยว่า เอาแค่ 1 ล้านบาท มันหายากไหม ?
คำตอบคือ โคตรยาก!! ..แค่ 1 ล้านยังยากเลย แล้วเหตุใด คนบางคนมีหลายล้าน หลายสิบล้าน หลายร้อย พันล้าน หมื่นล้าน และ ทำไมบางคนมีแสนล้าน !!
เงินจำนวนนี้ถูกหวยทุกวันยังไม่ได้เลย -- เคยสงสัยไหมว่า คนเหล่านี้เขาอยู่ใน 'มิติ' ไหนในการหาเงิน ทำไมเขาทำเงินกันเก่งขนาดนี้ ?
1. เศรษฐีทุกคนไม่ได้รวยจากรายได้ หรือ เงินเดือน เพราะเงินจากรายได้หรือเงินเดือน ..หาให้ได้แค่ 1 ล้าน ยังยากเลย
2. เศรษฐีทุกคนรวยจาก Asset ที่เราครอบครอง เช่น ที่ดิน , บ้าน , ทอง , พระเครื่อง , ของเก่า และก็หุ้น
3. "หุ้น" คือ Asset หลักที่คนเหล่านี้วางเงินไว้มากที่สุด ...แปลกใจไหม ?
4. คนส่วนใหญ่กล้าถือหุ้นก็ไม่เกิน 6 เดือน เพราะถ้าหุ้นขึ้นตลอด 6 เดือน คนส่วนใหญ่ทนรวยเยอะขนาดนั้นไม่ได้ต้องรีบขาย ..แต่คนส่วนใหญ่ที่ถือหุ้นนานเพราะติดหุ้น คือ ทนขาลง ในหุ้นห่วย ไม่มีปันผล ได้นานเท่าไหร่เท่ากัน (บ้าโคตรๆ หุ้นดีไม่ถือ แต่ถือหุ้นเน่า)
5. เศรษฐีเหล่านี้ ติดหุ้นทุกครั้งเหมือนรายย่อยทุกครั้งที่ตลาดปรับฐาน เพียงแต่ ติดหุ้นคนละประเภท ..เศรษฐีเหล่านี้ติดหุ้นปันผลที่เขาเข้าใจและชอบ ติดชั่วชีวิต ..แต่รายย่อยติดหุ้นเน่า
6. ทุกครั้งที่ตลาดหุ้นปรับฐานลงจบ หุ้นดีที่เศรษฐีเหล่านี้ถือมักจะทำ New High ขึ้นเรื่อยๆ ..ตรงกันข้ามกับหุ้นปั่นที่รายย่อยถือ ที่ไม่ไปไหนเลย
7. ทำไมคนส่วนใหญ่ ชอบหุ้นห่วย อยากรวยเร็ว ..ในขณะที่เศรษฐีเหล่านี้ถือหุ้นที่รวยช้า แต่รวยขึ้นเรื่อยๆ
สรุป คนที่เป็นเศรษฐี เพราะเขาถือหุ้นคนละประเภทกับรายย่อย ...หุ้นที่เศรษฐีเหล่านี้ถือ ก็คือ Asset ที่ราคาแกว่ง แต่เขากลับถือเหมือน ออมเงินในหุ้น !!
'ถ้าคุณอยากเป็นเศรษฐีบ้าง ทำไมไม่ศึกษาว่าเศรษฐีเหล่านี้เขาซื้อและถือหุ้นแบบไหน ..และเข้าซื้อในจังหวะอะไร -- แค่นี้เราก็จะเป็นเศรษฐีได้บ้างในอนาคต'
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น