"ภูมิใจในอาชีพ จะทำให้เราสำเร็จมากขึ้น" ...เชื่อไหมครับ ?
เมืองไทย เรียก "กรรมกร" ..ฝรั่งเรียก Builder ...คนทำงาน Builder ต้องมีความรู้เรื่องการสร้างบ้าน รู้เรื่องเครื่องทุ่นแรงต่างๆ ในการสร้างบ้าน ต้องเรียนเหมือนคนจบปริญญาทางด้านการก่อสร้าง และ ที่สำคัญต้องมีประกาศนียบัตรอาชีพ Builder
ที่เด็ดกว่านั้น คือ Builder ในต่างประเทศ มีรายได้มากกว่า พนักงานบริษัทเสียอีก ...เรียกได้ว่า อาชีพที่เมืองไทยมองว่าเป็นกรรมกร ในต่างประเทศเป็นหนึ่งในอาชีพที่มีเกียรติ มีความรู้ และ ก็รวยได้
ความรวยของ Builder ขึ้นกับว่า คนๆนั้นใช้ความรู้ความสามารถในการก่อสร้างให้ลูกค้าพึงพอใจแค่ไหน ...พูดง่ายๆ ว่า ความสำเร็จ และ ความรวยของ Builder ขึ้นกับฝีมือจริงๆ
อีกอาชีพนึง เมืองไทยเรียก "คนผัดข้าว" ...ฝรั่งเรียก Chef ...คนทำงาน Chef ต้องเรียนในเรื่องอาหารในแขนงต่างๆ เหมือนเรียนปริญญาทางด้านอาหาร ...แถมต้องมีประกาศนียบัตร ซึ่งการจะได้มาต้อง ฝึกงานในสถานที่จริง เช่น โรงแรม , ร้านอาหาร ต่างๆ
ทีเด็ดคือ Chef ที่รวยเป็นพันล้าน เช่น Jamie Oliver หรือ Chef Ramsay 'Hell Kitchen' ก็คือ คนที่เอาอาชีพ Chef มาต่อ ยอด ให้เกียรติในอาชีพตัวเอง ..ยกระดับให้มันเป็นงานศิลปะ ...ยกระดับให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ
ที่ยกตัวอย่างมาแค่ 2 อาชีพ คือ กรรมกร กับ คนทำอาหาร ....จริงๆ อาชีพไหน ก็รวยได้หมด ไม่มีอาชีพชั้นต่ำ เหมือนเมืองไทย ...สิ่งที่อยากจะชี้คือ จริงๆ ไม่มีอาชีพชั้นต่ำ มีแต่ตัวเรา ให้เกียรติอาชีพของตัวเองแค่ไหน ...เราเรียกสิ่งนี้ว่า การสร้าง Identity ให้กับ อาชีพของตัวเอง
วิธีการสร้าง เกียรติ สร้างศักดิ์ศรี สร้างความสำเร็จให้ อาชีพที่เราทำ ..เริ่มทำได้ดังนี้
1. ศึกษาในเรื่องนั้นๆ ให้เชี่ยวชาญ ทั้งแนวกว้างและแนวลึก (ถ้ามีโอกาสได้ ศึกษาในสถาบันการศึกษา หรือ ฝึกงานในสถานที่จริง ยิ่งทำให้เรามีคุณค่ามากขึ้น)
2. สร้างผลงานตัวเองให้เป็นงานศิลปะ ให้คนอื่นเห็นค่าบ้าง เช่น Jamie Oliver มีหนังสือ การทำอาหารแนวของตัวเอง , มีรายการทีวีของตัวเอง และ มีโรงเรียนทำอาหาร รวมทั้งร้านอาหารของตัวเอง ที่ทำอาหารชั้นยอด ...คำว่ายอด คือ "เราทำด้วยใจ ใส่ใจ ใส่ความรู้ ใส่วัตถุดิบที่สุดยอด ..สร้างการรับรู้ และ นั่นแหละ งานศิลปะที่เราสร้างเอง"
จุดเริ่มต้น ก็คือ ยกระดับ ความรู้ในอาชีพที่ทำ ..ใช้ Technology ใหม่ ๆ และ นำเครื่องทุ่นแรงมาใช้ ...จากนั้น ก็เผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองมีในวงกว้างมากขึ้น สร้าง "จุดยืน" ในสิ่งที่เราทำ
"ไม่ง่าย ..แต่ฝรั่งเขาก็ทำมันได้ ทุกอาชีพ ...ตั้งแต่ กรรมกร , ไอ้คนผัดข้าว , นักเขียนไส้แห้ง , ศิลปินเตะฝุ่น , ช่างประปา , คนส่งของ -- ทุกอาชีพที่พูดนี่ ฝรั่งเขาเปลี่ยนเป็น ธุรกิจและ Franchise เงินล้าน ได้หมดแหละ"
....เริ่มที่ความรู้ และ รู้จุดยืนของตัวเอง -- ลองดูซิครับ !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
‘เป็นล้านเลยเหรอพี่ ?‘ …ทำอะไรมีเงินเป็นร้อยล้าน !! 1. อยากได้เงินล้าน …ต้องทุ่มพัฒนาทักษะ เพราะ ทักษะจะทำให้เราได้งาน ได้ธุรกิจ ได้โอกาสให...
-
10 ข้อควรรู้ เพื่อเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น 1. ตลาดหุ้นสามารถเล่นแบบการพนัน และก็สามารถเล่นแบบการลงทุน คนกำหนดคือคนเล่นเอง ไม่ใช่ตลาด ..คน...
-
ทำไมคนที่รายได้มั่นคง ควรลงทุนให้เสี่ยง ? 1. รายได้ที่มั่นคงมักจะมีข้อจำกัด คือ มีรายได้เรื่อยๆ แต่ไม่โต …ดังนั้น การลงทุนควรหาโอกาสที่เสี่...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 เคล็ดลับ หาจุดเปลี่ยนชีวิตที่นานๆ จะมาสักทีนึง สำหรับผม ผมเจอจุดเปลี่ยนชีวิตมา 3 ครั้งใหญ่ๆ …ครั้งแรก สมัยเรียน จากเด็กเรียนธรรมดา ..ผมไป...
-
7 ข้อ ทำไมผมถึงชอบตลาดหุ้นไทยในเวลาที่ใครๆ ก็ไม่เอาแล้ว 1. หุ้นไทยเป็นหุ้นอุตสาหกรรมเก่า ที่เข้าใจง่ายกว่า …’หุ้นที่ใครๆ มองว่าดี ส่วนใหญ่ไ...
-
7 ข้อ ความเชื่อในการลงทุนที่เปลี่ยนไป ในตลาดวันนี้ 1. ยิ่งเสี่ยงยิ่งโชคดี …จริงๆ ไม่ใช่ …ต้อง ‘ออกแบบให้ตัวเองมีโอกาสเสี่ยงได้เรื่อยๆ’ อัน...
-
10 อันดับ สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 1. ทอง มีมูลค่ารวม 20.5 Trillion 2. Microsoft มูลค่ารวม 2.6 T 3. Apple มูลค่ารวม 2.59 T 4. N...
-
8 ข้อคิด จาก The Psychology of Money 1. ความมั่นคงทางการเงิน คือ ความยืดหยุ่นในชีวิต 2. ความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ การได้เยอะ แต่คือ การไม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น