"ผู้บริโภคยุคใหม่จ่ายเงินให้กับอะไร"
คำถามนี้น่าสนใจมาก สำหรับคนที่อยากมีธุรกิจส่วนตัว หรือ คนที่กำลังหาโอกาสขยายธุรกิจ
วันนี้สิ่งที่เปลี่ยนแบบสุดๆ คือ พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า และ ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ พฤติกรรมการซื้อลูกค้าวิ่งไปทาง แต่นักการตลาดนักขายวิ่งไปอีกทาง -- โอกาสเลยเกิดกับผู้ประกอบการที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ !!
ยกตัวอย่าง Nokia เขาผิดอะไรล่ะ ...? ...Nokia ทำมือถือที่คุณภาพดีสุดๆ และ ก็ราคาถูก -- แล้วทำไมเจ๊งล่ะ ?
ผิดตรงไหนครับ ...ทำของดี และ ก็ราคาถูก ...แต่ทำไม ลูกค้าหนี ไม่ซื้อ ไปซื้อโทรศัพท์ที่แพงกว่า เช่น Apple กับ Samsung
ผมพยายามตั้งคำถามว่า Nokia มีอะไรที่ไม่เหมือน Apple กับ Samsung ...ซึ่งบอกได้เลยว่า บริษัทระดับโลกเหล่านี้มีเหมือนกันหมดแหละ ..มีทั้งเงิน ..มีทั้งสื่อ ...มีทั้ง Market Research ...มี Marketing ระดับโลก ..โรงงานระดับโลก ..พนักงานหัวกระทิ ...ที่ปรึกษาธุรกิจมีระดับโลกเหมือนกันหมด
แต่ทำไม Nokia เจ๊ง ...แต่ Apple รุ่ง ?
คำตอบ คือ Nokia ไม่มี Steve Jobs ไง ...ฮ่า ฮ่า
จริงนะ ...ผมมานั่งคิดว่า Steve Jobs เขาทำอะไร ทำไมเขาสามารถเปลี่ยน Apple จากบริษัทที่ใกล้ล้มละลาย ให้กลับมาเป็นบริษัทยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้ในเวลาไม่กี่ปี
ผมว่า Steve Jobs คือ ตัวแทนของลูกค้า ...ทั้งๆ ที่เขาแทบไม่สนลูกค้าด้วยซ้ำ แต่เขามองว่า เขาเองนั่นแหละคือลูกค้า ...เขาทำสินค้าที่เขาอยากจะใช้ ...พอมองมุมนี้มันทำให้ผมเข้าใจเลยว่า การคิดสร้างสิ่งที่เราอยากได้จริงๆ มันคือ โอกาสทางการตลาด ...ดังนี้
1. สินค้าและบริการที่ดี คือ สิ่งที่เจ้าของต้องโคตรอยากใช้เอง ...ไม่ใช่บริษัททุกวันนี้ ใครขายรถญี่ปุ่น แต่ตัวเองขับรถยุโรป , ขายหมู แต่ไม่กินหมู , ขายไก่ แต่ไม่กินไก่ -- ที่ไม่ใช้เพราะ มันไม่ดีพอ ...ทำสินค้าให้ดีจนเราอยากใช้ นั่นคือ โอกาสเริ่มต้นเลย
2. ถ้าจะให้สินค้าดีกว่าข้อหนึ่ง ต้องสร้างสินค้าที่เจ้าของเทิศทูน สร้าง Master Piece ของสิ่งที่เราทำ .... เราชอบมันมาก ...เรารักมันมาก ...มันสุดยอด จนเราอดไม่ได้ ที่จะบอกทุกคนว่ามันดี ...มันดีจริงๆ ...และ ของดีขนาดนี้แหละ ที่จะได้รับการกล่าวขวัญให้เป็น Viral -- ครับ!! ของดี มันขายตัวมันเอง ....เจสสส !! รู้อย่างนี้ ซื้อสินค้าอันนี้มาใช้นานแล้ว !!!
ผมว่า การสร้างสินค้าตามที่กล่าวมาสองข้อให้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะ ถ้าทำได้ มันการันตี ความสำเร็จ เพราะ มันคือการทำตรงข้ามกับโลกยุคอุตสาหกรรม Industrial Age ที่สร้างสินค้าให้มาก เน้นจำนวน คุณภาพช่างมัน ลูกค้าใช้ ฉันไม่ใช้ ...ผลิตให้มาก ให้เยอะ ขายให้ถูก
ผมว่าจบแล้วล่ะ ยุค Industrial Age ...เราจะเข้าสู่ ยุคของจริง Information Age ยุคที่คุณหลอกลูกค้าไม่ได้ ...ของที่ขายต้องดีจริง ...โฆษณาไม่ Work ดังนั้น ของต้องดีจริงๆ และ มันต้องทำด้วยความตั้งใจที่ดี ...ยุคนี้ ทัศนคติ คนขาย มันสำคัญ ...คุณหลอกคนไม่ได้ ...ต้องจริงใจ ...ต้องให้ ก่อนรับ
ยากไหมล่ะ ....ต้องฝึกครับ
ยุค ยิ่งให้ ยิ่งได้ ...เกิดขึ้นแล้ว คนที่สำเร็จในยุคนี้ ต้องของจริง ...ทำจริง ...จริงใจ ...ไม่ Fake !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
เคยสงสัยไหมว่าบางคน ‘โคตรเก่ง โคตรฉลาด’ แต่ทำไมยังไม่รวยสักที ? 1. มี Lifestyle inflation …พอมีรายได้เพิ่ม ก็มีรายจ่ายเพิ่มมากกว่าตลอด …ใช้...
-
6 ข้อ ที่เราควรรู้ว่าทำไม VI ยัง work ในตลาดหุ้นไทย !! 1. VI คือ การมองยาวในขณะที่อื่นมองสั้น …การมองยาวซื้อแล้วถือ ส่วนการมองสั้นคือการซื้...
-
เลือกหุ้นให้แม่น ..ไม่ใช่ทำนายว่าอะไรจะเปลี่ยน ให้มองหา อะไรที่ไม่เคยเปลี่ยน !! 1. หุ้นที่ดีแล้ว ไม่เคยทำให้เรารวย ….หุ้นที่ดีแล้ว ก็แปลว่า...
-
ความน่ากลัวของคำว่า New Normal ในโลกธุรกิจและการลงทุน !! 1. เรามักเจอคำอธิบายว่า New Normal ในเวลาที่ไม่ปกติ …เช่น น้ำมันแพงกว่าปกติ จนคนพู...
-
8 ข้อสรุป The Almanack of Naval Ravikant Selfmade Billionaire ลูกครึ่งอินเดีย …อพยพมาอยู่อเมริกาตอน 9 ขวบ เลี้ยงโดยแม่เลี้ยงเดี่ยว …เป็นนั...
-
เข้าใจ Wealth vs Cashflow เพื่อการลงทุนระยะยาวที่ดีขึ้น 1. Wealth คือ ความมั่งคั่งของเราทั้งหมด รวมสินทรัพย์ทุกอย่างที่เราถือครอง บ้าน ที่...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ‘พอร์ตเพื่อรวย‘ ต่างกับ ’เพื่อรักษาความรวย’ ยังไง ? 1. พอร์ตเพื่อรวย คือ มองหาโอกาส ’เชิงรุก’(Active) …ส่วน เพื่อร...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น