วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
เมื่อการแต่งงานเป็นปัญญาโลกแตก
“อายุเลข 3 แล้ว ยังไม่ได้แต่งงานเลย จะแย่ไหม ?”
โลกยุคนี้คนรุ่นใหม่แต่งงานกันช้ามาก โดยเฉพาะคนมีเงิน เพราะ กว่าจะเรียนจบ ก็มดลูกเกือบปิดละ ..ไม่แปลกที่การแต่งงานหลังอายุ 30 ในปัจจุบันเป็นเรื่องปกติ
แล้วคนที่ไม่แต่งควรเครียดไหม ?...อย่างแรก ให้คุณดูสถิติการหย่าร้าง ว่าทำไมมันพุ่งสูงติดเพดาน ..แต่งแล้วเลิกกันทำไม ทำไมไม่อยู่กันจนแก่เถ้าเหมือนคนสมัยก่อน
อย่างที่สอง เคยถามตัวเองไหมว่า “แต่งงานไปเพื่ออะไร?”
ตอบประเด็นแรก การแต่งงานยุคนี้ หย่าร้างกันสูง เพราะ ทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิงมีทางเลือกมากขึ้น ..ในอดีตผู้หญิงอาจจะทนให้ผู้ชายกดขี่ แต่ปัจจุบัน ผู้หญิงหาเลี้ยงตัวเองได้ครับ (ในประเทศไทย ผู้หญิงจบปริญญามากกว่าผู้ชาย ทำให้ผู้หญิงโดยค่าเฉลี่ยในประเทศเรา แจ๋วกว่าผู้ชายฮะ ..ผู้ชายอ่านแล้วคงเสียวๆ จริงไหม)
ยิ่งวันนี้การเกิด Social Media ทำให้การมี กิ๊ก ง่ายขึ้น ...ไอ้ Gig Economy น่าจะมาจาก ถ้าเธอมีกิ๊ก ฉันก็มีกิ๊ก ..บูติดโฮเทลมีมากมาย ..หรือ จะไปโรงแรมหรูเลย กรุงเทพก็ราคาไม่แพง
การให้อภัยกัน ไม่ต้องพูดถึง ยิ่งผู้ชาย และ ผู้หญิง ต่างมองความสำคัญของตัวเองมากขึ้น สูงขึ้น ..ถ้าใครทำผิดพลาด ก็ หย่า สถานเดียว
เอาแค่นี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่ การหย่าร้างมันสูงมากในปัจจุบัน ...จนพี่โน๊ต เอาไปแซว ออกเดี่ยวว่า “ปัญหาของการหย่าร้าง อันดับหนึ่ง ก็คือ ..การแต่งงานครับ” ..จะแต่งทำแป๊ะมรึงหรือ ...ฮ่า ฮ่า
ผมว่า เรื่องการแต่งงาน มันคล้ายๆ เรื่องเงิน ..คนส่วนใหญ่ยังไม่รู้เลยว่า คุณค่าของการแต่งงานมันคืออะไร
“เอาง่าย ถ้าขนาดพ่อแม่ เรายังไม่รักกัน ...เราจะเข้าใจความหมายของสิ่งนี้ได้อย่างไร”
มาประเด็นสำคัญ คือ “แต่งงานกันเพื่ออะไร ?”
1. แต่งงานเพื่อแสดงความรัก ...ไม่แต่งก็แสดงความรักกันได้ครับ
2. แต่งงานเพื่อมีลูก ...ไม่แต่งก็มีลูกได้
3. แต่งเพื่อประกาศให้ทุกคนรู้ ..ไม่เห็นมีใครแคร์งานแต่งงานของเราจริงๆ คือ ไม่มีใครเขาใส่ใจงาน
4. แต่งงานของคุณ นอกจากคุณเอง “การเป็นหนี้หัวโต จัดงานใหญ่ๆ เพื่ออะไร”
ถ้าการแต่งการเพื่อ
เพื่อผูกมัดให้คนสองคนจำใจต้องอยู่ด้วยกัน ...อย่าแต่ง
แต่งงานเพื่อโชว์คนอื่น ...อย่าแต่ง
คนที่ควรแต่งงานกัน ไม่ใช่คนที่แค่รักกัน
1. คนที่เข้าใจกัน
2. คนที่ปรับเข้าหากัน และ ให้อภัยกันเสมอ
3. คนที่ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงอีกคนให้ได้ดั่งใจเรา ..คนที่ยอมให้อีกคนเป็นตัวของเขาเอง
4. คนที่อยู่ด้วยกันแล้วอุ่นใจ เพราะไว้วางใจ
5. คนที่ไว้วางใจกันแบบสนิทใจ (TRUST)
6. คนที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน “หยิน หยาง”
ถ้ามีทั้ง 6 ข้อ คู่นี้อยู่กันจนแก่ “จัดไป”
ประโยชน์อย่างเดียวของการแต่งงาน คือ “การให้ความไว้วางใจที่สูงที่สุด แก่มนุษย์อีกคนนึง โดยการที่เราจะแสดงความรับผิดชอบ ต่อชีวิตตัวเอง ...แสดงความรับผิดชอบต่อชีวิตของคนที่เรารัก ..และแสดงความรับผิดชอบต่อ ครอบครัวของเรา”
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
‘เป็นล้านเลยเหรอพี่ ?‘ …ทำอะไรมีเงินเป็นร้อยล้าน !! 1. อยากได้เงินล้าน …ต้องทุ่มพัฒนาทักษะ เพราะ ทักษะจะทำให้เราได้งาน ได้ธุรกิจ ได้โอกาสให...
-
10 ข้อควรรู้ เพื่อเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น 1. ตลาดหุ้นสามารถเล่นแบบการพนัน และก็สามารถเล่นแบบการลงทุน คนกำหนดคือคนเล่นเอง ไม่ใช่ตลาด ..คน...
-
ทำไมคนที่รายได้มั่นคง ควรลงทุนให้เสี่ยง ? 1. รายได้ที่มั่นคงมักจะมีข้อจำกัด คือ มีรายได้เรื่อยๆ แต่ไม่โต …ดังนั้น การลงทุนควรหาโอกาสที่เสี่...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 เคล็ดลับ หาจุดเปลี่ยนชีวิตที่นานๆ จะมาสักทีนึง สำหรับผม ผมเจอจุดเปลี่ยนชีวิตมา 3 ครั้งใหญ่ๆ …ครั้งแรก สมัยเรียน จากเด็กเรียนธรรมดา ..ผมไป...
-
7 ข้อ ทำไมผมถึงชอบตลาดหุ้นไทยในเวลาที่ใครๆ ก็ไม่เอาแล้ว 1. หุ้นไทยเป็นหุ้นอุตสาหกรรมเก่า ที่เข้าใจง่ายกว่า …’หุ้นที่ใครๆ มองว่าดี ส่วนใหญ่ไ...
-
7 ข้อ ความเชื่อในการลงทุนที่เปลี่ยนไป ในตลาดวันนี้ 1. ยิ่งเสี่ยงยิ่งโชคดี …จริงๆ ไม่ใช่ …ต้อง ‘ออกแบบให้ตัวเองมีโอกาสเสี่ยงได้เรื่อยๆ’ อัน...
-
10 อันดับ สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 1. ทอง มีมูลค่ารวม 20.5 Trillion 2. Microsoft มูลค่ารวม 2.6 T 3. Apple มูลค่ารวม 2.59 T 4. N...
-
8 ข้อคิด จาก The Psychology of Money 1. ความมั่นคงทางการเงิน คือ ความยืดหยุ่นในชีวิต 2. ความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ การได้เยอะ แต่คือ การไม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
หล่อทั้งหน้าตาและความคิดจริงๆค่ะ
ตอบลบ