“จะยกระดับตัวเอง จากงานหนัก เงินมาก ไปสู่ งานชอบ เงินมากได้อย่างไร ?”
ครั้งนึงผมเคย เป็นคนที่ “ทำงานที่ตัวเองไม่ชอบ แต่ได้เงินเยอะ” ..ผมก็คิดว่า ก็ดีนะ ผมจะเก็บเงินให้เยอะๆ แล้ววันนึงจะได้หยุดทำ ...ยิ่งผมทำ ผมยิ่งเครียด และ คิดไม่ออกเลยว่า เมื่อไหร่ผมจะเลิกได้ซะที เพราะ การหยุดทำงานนี้ มันหมายถึง เงินก้อนมหาศาล ที่จะหายไปต่อหน้าต่อตา
... “ผมรู้สึกว่า ตัวเอง เป็นทาส เพียงแต่ผมใส่สูท ได้เงินเดือนสูง และทำงานในห้องแอร์ ..นอกนั้น เหมือนทาส คือ ไม่ชอบงานที่ทำ เครียด ทำงานหนัก ไม่มีให้ตัวเอง สุขภาพย่ำแย่ ครอบครัวเริ่มแตกแยก เพราะ ไม่มีเวลาให้
...สรุปว่า เงินเยอะ แต่ชีวิตกรูแย่มาก ...ไม่มีความสุขเลย จะออกจากจุดนี้ได้อย่างไร
ผมไปเจอผู้ใหญ่ท่านนึง เขาถามผมว่า “ภาววิทย์ คุณจะทำแบบนี้ ไปถึงเมื่อไหร่”
ผมก็ตอบว่า “เมื่อเงินมากพอ”
ผู้ใหญ่ท่านนั้น ก็ถามว่า “แล้วเงินเท่าไหร่พอ ..หรือ ว่าจริงๆ เท่าไหร่ก็ไม่พอ ?”
ผมก็ตอบว่า (สัด มรึงรู้ได้ไงฟระ!!) “ใช่ครับ !! จริงๆ เท่าไหร่ ก็ไม่เคยพอจริงๆ ...ท่านช่วยแนะนำผมหน่อยว่า ผมควรจะทำอย่างไร ?”
ผู้ใหญ่ท่านนั้น ตอบว่า “ลองเปิดใจ รู้จักตัวเองซิ”
“อะไร คือ รู้จักตัวเอง ?”
ต้องถามตัวเองว่า “เราเก่งอะไร และ เราทำอะไรได้ดี ?”
เราใช้เวลาส่วนใหญ่ ทำสิ่งที่เราเก่ง หรือเปล่า ? (เพราะ คนเก่งส่วนใหญ่ ใช้เวลากับสิ่งที่ตัวเองเก่งน้อยมาก ..ส่วนใหญ่ใช้เวลากับสิ่งที่ไม่ใช่ความเก่ง เช่น งานเอกสาร งานซ้ำๆ ซากๆ งานที่ไม่ก่อให้เกิดผลงาน) ...คนเหล่านี้ อ้างว่า “ก็งานเหล่านี้ มันจำเป็นต้องทำ ?” แต่ทางแก้ คือ การกระจายความรับผิดชอบ ...ทั้งหมดเริ่มจากความไว้วางใจ (Trust) คนเก่งส่วนใหญ่จะมีปัญหาเดียวกันคือ “ไม่ไว้ใจใคร และ ไม่มีคิดว่า จะมีใครทำงานนี้ ได้ดีเท่าตน ...ทำให้งานทุกอย่างจะมากระจุกที่คนเก่ง
-- อันนี้เราเรียกว่า “จุดอ่อนของคนเก่ง” ..ทางแก้ คือ หัดกระจายงาน หัดกระจายความรับผิดชอบ และ หัดไว้ใจคนอื่น ...เราจะขึ้นสูงขึ้นกว่านี้ ไม่ได้ หากเราไม่รู้จักกระจายความรับผิดชอบ (การกระจายความรับผิดชอบ คือ เรายอมรับผิดชอบ ในสิ่งที่ลูกน้องของเราทำ ไม่ว่า ผิดและถูกร่วมกัน นี่คือ การกระจายความรับผิดชอบที่ดี)
“พัฒนาจุดแข็งของตัวเอง” ..คนที่อยากเจองานชอบเงินมาก ต้องเป็น “ผู้เชี่ยวชาญในงานที่ตัวเองเลือก หรือ เรียกว่าต้องเป็นกระบี่มือหนึ่งในสิ่งที่ทำ” …ความเก่งธรรมดา ไม่สามารถทำให้คุณเป็นที่หนึ่งในสิ่งที่ทำ คุณต้องพัฒนาจุดแข็งให้ดีขึ้น จนกลายเป็น “จุดสุดยอด” (อย่าคิดลึก)
…สุดยอด คือ “ที่สุด ในสิ่งที่คุณเลือก” …คิดง่าย ๆ ถ้าคน พูดถึง อาชีพนี้ ต้องนึกถึงคุณ …ใบหน้าของคุณคือ ใบหน้าแรกเมื่อคนพูดถึงงานนี้ …สรุป คุณต้องทุ่มเวลาและความสามารถยกระดับจุดแข็งคุณให้ดีขึ้นจนเป็นดีมาก เชี่ยวชาญมาก เยี่ยมสุดสุด
“รู้จักสร้างคน” ..คนเก่ง คือ ครูที่เก่งที่สามารถสร้างคนเก่ง ให้มาทำงานแทนตัวเอง ...ดังนั้น ความเชี่ยวชาญของเรา ต้องวางอย่างเป็นระบบและถ่ายทอดสู่คนอื่นได้
...คุณตาผม สอนว่า “ตัวเราก็เหมือนเรือ บริวารก็เหมือนน้ำ ..อย่าไปกลัวลูกน้องเก่งกว่า หรือ ได้ดีกว่า ..ส่งเสริมลูกน้องเรา บริวารเราให้เราได้ดีที่สุด แล้วน้ำจะยกเรือสูงขึ้นเอง” ...คำสอนของคุณตาผมอันนี้ ผมจำขึ้นใจ “สร้างคนครับ”
“สร้างผลงานด้วยความรัก” ...คนที่งานชอบ เงินมาก มักเกิดจากการสร้างสรรค์ผมงานที่ผู้คนยอมรับ เฉกเช่น อาจารย์เฉลิมชัย ชอบงานศิลปะ และ สร้างเงินมหาศาลจากงานที่รัก ..ถ้าคุณไปแกะความสำเร็จของอาจารย์ เฉลิมชัย จะพบว่า ในช่วงที่ท่านเป็นศิลปินที่ยังไม่มีชื่อเสียง ท่านยอมทำงานฟรี เพียงเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน ...นั่นคือ ยอมเสีย สละเวลาของตัวเอง เพื่อสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ...ท่านเคยไปวาดภาพให้วัดพุทธประทีป ที่ลอนดอนเป็นเวลาหลายปี โดยแทบไม่มีค่าจ้าง ...แต่นั่นก็คือ หนึ่งในผลงานที่สร้างให้เกิดชื่อ เฉลิมชัย ในวันนี้ -- ผลงานที่เรารัก ต้องทำให้เป็นประโยชน์ต่อคนส่วนใหญ่ แล้วผลลัพธ์จะตามมาเอง
เมื่อทำครบ 5 ข้อ เราก็จะค่อยๆ เปลี่ยน “งานหนัก เงินมาก” ไปสู่ “งานชอบ เงินมาก” ในที่สุด
แต่เดี๋ยวนะ “แล้วคุณสงสัยไหมว่า งานชอบ เงินมาก มันเป็นงานที่หนัก หรือ เปล่า ?”
...เชื่อไหมว่า ทุกคนที่ได้ทำงานชอบ เงินมาก ทำงานหนักหนักทุกคน ...ก็ทำสิ่งที่ชอบ แถมได้เงินมาก เราย่อมทำสิ่งนี้ด้วยความเต็มใจ
“เพราะ งาน คือ การอธิบายตัวตนของเรา”
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น