วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2562
ทำไงให้พ่อแม่เป็นโค๊ชของลูก
ทำไงให้พ่อแม่เป็นโค๊ชของลูก
ให้มองว่าลูกในวันนึงเขาจะต้องเป็น พ่อแม่ เป็นผู้ใหญ่ในอนาคต ..พ่อแม่ต้องเรียนรู้ไปกับลูก สอนเขา แต่ไม่บังคับ ต้องช่วยให้เขาเรียนรู้ ด้วยมุมมองที่รอบด้าน ไม่ใช่เอาแต่ยัดเยียดมุมมองและความคาดหวังของพ่อแม่
ลูกจะขอบคุณเรา ถ้าเราสอนโดย ทวนความรู้สึกเขา
การทวนความรู้สึกลูก ...เช่น ถ้าลูกบอกว่า แม่ไม่เข้าใจผมเลย !! ...โดยปกติแม่ก็มักสวนทันที “จัดหนัก!!” ..แต่ถ้าแม่ใจเย็น แล้วใช้การทวนความรู้สึกแทน จะเปลี่ยนการพูดต่อลูกเป็น “ไหนเล่าให้แม่ฟังซิ ว่าแม่ไม่เข้าใจยังไง” คือ มันต้องใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์เข้าใส่กัน
...พ่อแม่ต้องมองอารมณ์ของลูก โดยเฉพาะวัยรุ่นว่าเป็นคลื่น ซึ่งมันมาเป็นลูกๆ
..ให้พ่อแม่ล้อคลื่นตามไป ไม่ใช่สวนคลื่น อัดกลับ ระเบิด ทะเลาะ -- พ่อแม่ต้องฝึก การทวนความรู้สึก ถึงจะเป็นโค๊ชที่ดีให้กับลูกได้
...หลักๆ คือ เรายอมรับฟังเหตุผลของลูก ไม่มองว่า สิ่งที่ลูกคิดมันเด็กๆ ไร้สาระ ให้คิดซะว่า เราก็เคยคิดเด็กๆแบบนี้ แต่การจะล้อเขาว่าคิดโง่ๆ แล้วสรุปเอาความคิดเรายัดเยียด ก็ให้ฟังเขา ช่วยเขาคิด และ ช่วยให้เขาตัดสินใจ
...ห้ามตัดสินใจแทน หรือ บังคับเขา เพราะ ไม่มีใครอยากถูกบังคับ ..พ่อแม่ ต้องเอาใจเขาใส่ใจเรา
สมมุติลูกอาจพูดว่า “ทำไมพ่อไม่เคยชมหนูเลย”
พ่อก็มักสวนว่า “นี่ลูก ดูละครมากไปป่ะ” เหน็บไปหนึ่งดอก หรือ กระแนะกระแหน ว่า “ก็เป็นลูกแม่ไม่ใช่หรือ (ก็ให้แม่ชมซิ มาให้พ่อชมทำไม)”
การเข้าใจการปรับตัวของลูก คือ เราต้องเข้าใจความผิดหวังของเขา
พ่อแม่มักคิดว่า เราได้กลั่นกรองและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกแล้ว แต่จริงๆ ลูกไม่ได้อยากทำตาม เพราะมนุษย์ทุกคนมีความคิดของตัวเอง และ อยากที่จะเลือกตัดสินใจอะไรต่างๆด้วยตัวเอง เราแค่เป็นโค๊ชที่ดี คือ การสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกที่ดีที่สุด
การสร้างลูกให้ดีที่สุดในจุดที่ยืน ทำดังนี้
1. ดูจุดที่เขายืน เรียนรู้ไปกับเขา ซึ่งเด็กยุคนี้มี Internet ที่เปิดกว้างมุมมองและทางเลือกที่หลากหลาย เด็กจะฉลาดขึ้น แต่เขาจะเครียดขึ้น เพราะความรู้มันเต็มไปหมด การหาอัตลักษณ์ Identity และ การหาเอกลักษณ์ Uniqueness เป็นสิ่งที่ยาก แต่ถ้าเด็กคนไหนพบตัวตนเร็ว ก็จะกลายเป็นเด็กเก่ง เป็นอัจฉริยะ และ พัฒนาตัวเองให้ดีที่สุดในจุดที่ยืนได้เร็ว
2. ใช้เวลากับลูก ให้เหตุผล ให้คำชี้แนะ ในระหว่างที่เขาหา Identity และ Uniqueness ให้มากที่สุด ช่วยเขาตอบให้ได้ว่า “เขาเก่งอะไร” “เขามีมุมมองอย่างไร” “เขากลัวอะไร” “เขาสับสนอะไร” “เขาชอบอะไร” “เขาอยากเป็นอะไร” ...ห้ามยัดเยียดความอยาก หรือ ปมของเราให้เขาทำ -- ต้องให้ลูกเลือกสิ่งที่เขาอยากทำด้วยตัวของเขาเอง
3. เป็นกระจก คือ “ทวนความรู้สึกลูก” ถ้าเขาบอกว่า “พ่อแม่ไม่เข้าใจ” ก็ต้องทวนความรู้สึก แล้วถามว่า “ที่บอกว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจยังไง ไหนอธิบายซิ” ...ต้องรับความรู้สึกของลูกอย่างอดทน และ ไม่ด่วนสรุปตัดสิน ..ต้องไม่มองว่าความคิดเขาไร้สาระ
...พ่อแม่ต้องทำหน้าที่โค๊ชที่ดี -- Good Coach !!
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"อึมครึม"..ดูแล้ว น่าลงทุนมาก..(อ้าว!!ไหงเป็นงั้น) --"แต่!!" ขอย้ำว่า "ต้องเป็นเงินนอน อีกเช่นเคย" ผมว่าหลายคน...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
“ความ(บ้าคลั่ง)ของทุนนิยม” … “ใช่แล้ว..เราทุกคนอยู่ภายใต้ทุนนิยม หนีไม่พ้นแม้แต่คอมมิวนิสต์อย่างจีน หรือ Russia” ความบ้าคลั่งของทุนนิยม เริ่...
-
6 หลัก ลงทุนที่ช่วยให้เรารวยได้เร็วและง่ายขึ้น ณ บัดนาว !! 1. ‘ลงทุนในสินทรัพย์ด้วยเงินส่วนใหญ่’ …แทบจะตลอดเวลา เพราะ เราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่...
-
10 ข้อเสีย ของลูกคนรวย เดี๋ยวนี้เราเห็นชีวิตคนรวยมากขึ้น จาก Social ..ส่วนใหญ่ก็มักจะปลอม ..ไอ้มีจริงๆ ไม่ค่อยโชว์ ..แต่ทั้งหมด เรา...
-
6 ข้อ คิดลงทุนแบบคนมีเงิน ทำได้ตั้งแต่เรายังไม่มีเงิน 1. ‘มองที่ความเสี่ยง ก่อนมองผลตอบแทน‘ …ถ้าเราซื้อหวย แปลว่า เรามองผลตอบแทนมากกว่าความ...
-
"ความหมายชีวิต และ ความสำเร็จ ของแต่ละคน" ..ไม่มีใครเหมือนกันเลย ...หลายคนมองว่า เงิน คือ คำตอบของทุกสิ่ง แต่เมื่อเขามีเงิน ก็...
-
5 หลักการหา S Curve ใหม่ เพื่อโอกาสที่ใหม่ใหญ่ขึ้น 1. ‘S Curve คือ ความบังเอิญ ไม่ใช่การวางแผน’ …พูดง่ายๆ ทุกสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ ม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น