วันศุกร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2553
นิทาน Elliott Wave ( กับกำเนิด เทพแห่ง Wave C )
"นี่เป็นเรื่องขำขำ เมื่อผมได้ไป เจอ (เซียน Value )คนนึง -- (ที่ใช้ Technical ได้อย่างเก่ง แต่ไม่ชอบใช้)..ด้วยเหตุผลที่ว่า "ขี้เกียจ ตามหุ้น ..ในระยะยาว ผลตอบแทนก็ไม่หนีกันหรอก!!" (ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ผม อึ้ง "คิดอยู่พักนึง!!")
ทำไมเขาว่า "ระยะยาว มันก็ผลตอบแทนไม่หนีกัน" ..."ผมย้อนถาม ท่านเซียนไปว่า เอ๋อ!!ผมไม่เข้าใจครับ ..ก็เล่นเป็นรอบๆ เราก็จะสามารถตัดกำไรออกมาใช้ได้..ไม่ดีกว่าหรือครับ"
ท่านเซี่ยน "ตราบใดที่คุณยังคงเล่นหุ้นอยู่ คุณก็ยังมีโอกาสเสียอยู่ดี(ผมว่าถ้า Soros โชคดี ก็คือ เขาตายก่อนที่จะหมดตัว!!..เพราะไม่มีใครชนะทุกเกม แต่ปัญหาคือ เกมสุดท้ายมักไม่ใช่เกมที่คุณชนะ "--มันช่างบ้าสิ้นดี!!") ดังนั้น วันที่คุณได้เงินจริงๆ คือ วันที่คุณหยุดเล่นและเดินออกไปจากตลาดต่างหาก (แต่ข้อแม้มีอยู่อันเดียว คือ เงินก้อนที่ถือ ออกไปจากตลาด คุณต้องหาแหล่งที่สร้างผลตอบแทน ชนะ Real Inflation "ที่จริงๆสูงเกือบ 10% ต่อปีแบบ Compounding") ผมนั่งคิดอยู่นิดนึง ก็รู้ว่า "ผลตอบแทนขนาดที่ชนะ Real Inflation โดยปราศจากความเสี่ยง (ในยุคนี้) มันไม่มีแล้ว" ..สรุป เราหนีความเสี่ยงไม่พ้น ทางเดียวก็คือ ต้อง master มันให้ได้!!
ท่านเซียน แนะว่า ทางที่ปลอดภัยที่สุด สำหรับ เซียนอย่างเขา ก็คือ หา Wave C ให้เจอ แล้วก็เข้าซื้อหมดหน้าตัก จากนั้นก็ถือ จนมัน Over Value มากๆ หรือ จุดที่เขาพอใจ จากนั้นเขาก็จะไม่เล่นอีก จนกว่าเขาจะ เจอ Wave C ในรอบใหญ่อีกครั้ง
"เป็นประเด็นที่บ้าจริงๆในความคิดผม" การที่คุณลงทุนใน Wave C ย่อมหมายถึง มันมีโอกาสสูงมากที่ราคาจะลงจากที่ซื้อลงไปอีก ... แต่จุดที่น่าสนใจก็คือ สถานะของเงินต่างหาก ที่กำหนดวิธีในการลงทุน "เพราะแท้จริงแล้ว การลงทุนใน Wave C ย่อมหมายถึง คุณลงทุนในช่วงที่หุ้นราคาถูก (ถึงแม้จะไม่ถูกที่สุด แต่เมื่อตลาด Rebound ) ยังไงมันก็ต้องผ่าน จุดที่เขาซื้ออยู่ดี "ตราบเท่าที่โลกนี้ยังคงมี inflation"
วันหลังผมจะพา "ท่านเซียน" ไปคุยกับ "สำนัก Technical" --- "เพราะเราอาจ ได้ฟังข้อโต้แย้ง ที่ 3 วัน 3 คืน อาจยัง เถียงกันไม่จบ" ..ในมุมมองของ Technical จะพยายามหา Wave 3 เพราะมันเป็นช่วงที่ดีที่สุด ...ส่วนรายย่อยจะพยายามหา Wave 5 --- แต่ไอ้ปัญหาของ Wave 5 คือ พอมันขึ้นถึง Peak ปั๊บ!! --- มันลงเลย โดยไม่มีสัญญาณทาง Technical บอกคุณ
เอาเป็นว่า ใครเล่นหุ้น ก็หัดสังเกตตัวเองหน่อยนะครับ ว่า "เราเป็นคนที่ชอบเล่น Wave ไหน ..พอรู้จะได้ทำใจได้ เมื่อมีเหตุการณ์ ไม่คาดฝันเกิดขึ้น"
เอ้ามอง Wave กันให้ขาด ครับ (ระวัง wave 5 มันสำหรับชาวดอยเขา อิ อิ)!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 ข้อคิด ของปัญหาที่นักลงทุนต้องผ่านให้ได้ 1. ‘ทุกปัญหามีอายุของมัน‘ …ปัญหาทุกอย่างมีอายุ มีเวลาของมัน …พอเวลาผ่านไป ปัญหาก็จะผ่านไปเช่นกัน...
-
6 เรื่อง Stupid that make you Rich !! 1. ‘Start a Business’ …เริ่มจากปัญหาที่เราอยากจะแก้ …ถ้ามือใหม่เริ่มจากแก้ปัญหาเล็กๆ 2. ’ลงทุนในสิ่ง...
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
7 สิ่ง ที่ต้องเตรียมก่อนที่เราจะเกษียณแล้วอยู่สบายๆ 1. บ้านที่ไม่มีหนี้ …คุณจะมี Property กี่แห่งก็ได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องมีบ...
-
5 ระดับ ความรวยที่เราควรเข้าใจ จนไปสู่เศรษฐีพันล้าน !! 1. ‘เงินแสนแรก’ …เราจะได้จากการทำงานหนัก 2. ’เงินล้านแรก‘ …เราจะได้จากทักษะ และ ความ...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
7 ข้อควรรู้ ก่อนทุ่มเงินหนักๆ ซื้อหุ้นอเมริกา 1. หุ้นอเมริกาขึ้นแบบกระจุกตัว …แปลว่า เราเห็นดัชนีอเมริกาขึ้นดีมากๆ แต่เอาเข้าจริง มันกระจุก...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น