พูดถึง Leverage อาจดูไกลตัว แต่ถ้าพูดว่า "รสนิยมสูง แต่รายได้ต่ำอาจ เข้าใจง่ายกว่า" ..สิ่งที่ทำให้เรา Leverage ได้มากก็คือ "Financial Innovation + IT" (สรุปว่าว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับคนทั่วไป มันจึงกลายเป็น Perfect Weapon ในการใช้ ปล้น คุณไง!!)
หากเราเปรียบตัวเราเป็นทหาร ..พวก Product ทางการเงิน เช่น หุ้น , Bond , Futures , Options , Derivatives ต่างๆ -- พวกนี้ก็คืออาวุธ ซึ่งคนส่วนใหญ่มีความเข้าในเรื่อง Financial Product อยู่น้อยมาก (แค่หุ้นก็เน่ากันครึ่งโลกแล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ดันไปซื้อเวลา ที่มันควรขาย "น่าแปลกมักๆ")
อย่างหุ้น ถ้าใครมองลึกๆ มันก็คือ Wealth Leverage "มันคือเครื่องมือ ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจาก"ความจน" ซึ่งถ้าคุณใช้มันถูกเวลา มันก็ Protect Wealth ของคุณได้
อย่างเครื่องมือ Futures เป็นอะไรที่คนไทยใช้ผิดมหันต์ เพราะจริงๆ Financial Innovation ตัวนี้ออกมาเพื่อการ Hedge หรือ ป้องกันความเสี่ยง ..แต่บ้านเรามาใช้ผิดวัตถุประสงค์ เอามาเก็งกำไรให้มากๆ อย่าง TFEX ก็ออกมาแบบกั๊กๆ ออกให้สถาบันการเงินซื้อได้ถูก แต่รายย่อยซื้อแพง สรุปสถาบันก็เอามา มันส์กันใหญ่ เปิด Port สถาบันอัดกันไปมา "สรุปในระยะยาว คุณว่ามันมีประโยชน์อะไร(สงคราม ทุกฝ่ายเสียหมดแหละ)"
(มันมันส์!!)...หรืออย่างทอง ออก Gold Futures แต่ให้ Settle เป็นเงินสด อ้าว!! อย่างนี้คุณ educate ให้พวกเล่นหวย -- มาเล่นนี่เลย Gold Futures "คาซิโน" ถูกกฏหมาย"ใจกลางกรุง"
วันนี้ผมกำลังมุ่งศึกษา Commodity Trade อย่างหนัก เพราะตลาดหุ้น และค่าเงิน เอเชีย(รวมไทย) จะไม่ดีอย่างนี้ไปตลอด ..ทุกอย่างมี Cycle ของมัน "ตอนนี้ จังหวะดี เพราะทั้งเงินทั้งหุ้น ถ้าคุณจอดไว้ในเอเชีย ภายใน ห้าปีนี้ คุณโชคดี" ..แต่คุณอย่าลืม พอ Cycle มันเปลี่ยน "เกมมันก็ต้องเปลี่ยน" -- แต่ปัญหาคือ เรามี exchange Control "สรุปตอนนี้รวยกัน อีกสัก 3 - 5 ปี อาจเริ่มวนมา ซวยใหม่"
อย่างวิกฤตแต่ละรอบ มันจะแรงขึ้นเรื่อยๆ ประเด็นหลักก็มาจาก Leverage นี่แหละ (คือพวกเซียนก็เอา ระเบิดมาสู้กับมีดของเรา "เราก็ตายดิ !!" แต่ถ้ามันพลาดมันกระทบเชิงโครงสร้าง รัฐบาลต้องช่วยอุ้ม "สรุปรายย่อย ซวยอย่างเดียว !!"
ประเด็นเรื่องการ Leverage จริงๆแล้ว มันไม่ใช่เฉพาะประเด็นการเงินที่ได้รับผลกระทบ "มันกระทบทุกธุรกิจในเชิงโครงสร้างด้วยซ้ำ" อย่างบทความที่ผมยกขึ้นมาเรื่องของ Education Leverage อย่าง Khan Academy ที่คนๆเดียว สามารถท้าทายระบบการศึกษาในเชิงโครงสร้าง
พื้นฐานของ Leverage มันเกิดขึ้นได้จาก IT ส่วน Internet เป็นตัวเร่งและขยายปฏิกริยา --- ทุกวันนี้องค์กรใหญ่ๆถูกท้าทายจากกลุ่มคนเล็ก (ที่มีความสามารถ และรู้จักใช้ Leverage) ..อย่างผู้ก่อตั้ง Google คนสามคน แต่ "เก่งโคตร" และใช้ Leverage เป็น
วงการสื่อ ตอนนี้เจอ Facebook อัดเข้าไป (อ่วม!!) ..ต่อจากนี้ มันไม่ได้วัดกันที่สื่อ เขาไม่สนหรอกว่า คุณเป็นเจ้าของ ทีวี เจ้าของสื่อ หนังสือพิมพ์ ..สุดท้ายมันวัดกันที่ Time Sharing!! --- "ใครก็ตามที่ สามารถดึง เวลาของลูกค้า Target Market ได้มากที่สุด นั่นคือชัยชนะ !!
นี่แหละพลังแห่ง Leverage "มันกำลังเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณ (แค่หมัดแรก) อเมริกาเจ๊งในวงกว้าง Sub Prime ก็เพราะ Financial Leverage Bubble .. ดังนั้น ต่อไปพลังของความใหญ่ จะแพ้พลังของความเก่ง เพราะคนเก่งมัน Leverage ได้
นี่คือ อีกบทบาทในการเรียนรู้สู่ ยุค The Winner take all !!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น