วันศุกร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2553
แกะรอย Private Equity ซากเน่าที่ยังคงเหลืออยู่จากวิกฤต!!
ก่อน Sub-prime ใครๆก็รู้ว่า Private Equty แจ๋วขนาดไหน "ถ้าจำกันได้ ช่วงเวลานั้น Private Equity เกือบซื้อทั้งโลก ...สาเหตุหลักๆก็มาจาก Easy Credit (ช่วงเวลานั้นผมยังทำงานอยู่ใน Australia เลย..เห็นเศรษฐีดังๆ ขายกิจการตัวเองให้ Equity firm กันอย่างยกใหญ่ด้วยราคาที่สูง)
ณ เวลานั้น ผมมองย้อนไป ก็นึกอิจฉา Private Equity Firm เหล่านั้นเป็นยิ่งนัก เพราะวันๆอ่านข่าวหนังสือพิมพ์ ก็เห็น Private Equity แห่งนั้น แห่งนี้ ...กู้เงินมหาศาลแล้วก็ Take Over กิจการใหญ่ๆ ..ย้อนมามองดูตัวผมเองในเวลานั้นก็ กำลังขยายกิจการร้านอาหาร อย่างรีบเร่งด้วยหนี้สินมหาศาลเช่นกัน (แล้วอะไรเกิดขึ้นล่ะ !!)
วันนี้ผมอ่านบทความเกี่ยวกับ Private Equity ชื่อบทความว่า "The Easy Money Gone" บทความนี้ List เอา Asset ที่ก่อนหน้านี้ Private Equity เข้าไปซื้อด้วยราคาแพง "เอามาดูว่าตอนนี้ Asset นั้นๆเหลือมูลค่าเท่าไหร่"
(ยกตัวอย่าง)
KKR เข้าซื้อ First Data กู้เงินมาซื้อไป 27.5 billion ตอนนี้เหลือมูลค่า 60c ต่อ 1 ดอลล่าห์ (มูลค่าลดลงไป 40%)
อีกบริษัทก็อย่าง Energy Future Holdings กู้มาซื้อไป 43.2 billion ตอนนี้เหลือ 30c ต่อ 1 ดอลล่าห์
หรืออย่างกรณีของ Apollo กู้มาซื้อ Harrah's Entertainment ในราคา 30.7 billion ตอนนี้เหลืออยู่ 63c ต่อ 1 ดอลล่าห์
นี่แค่ยกตัวอย่าง Top Private Equity อย่าง KKR และ Apollo นะครับเนี่ย ไอ้ที่ไม่ Top นี่เจ๊งกันไประนาวแล้ว
ประเด็นที่ชี้ใด้ชัดจากตัวอย่างนี้ก็คือ Cycle ของธุรกิจ ..การที่เราไม่เข้าใจ Cycle ของธุรกิจ มันบ่งชี้ถึงหายนะของกิจการเลยทีเดียว ..อย่างกรณีที่ผมยกขึ้นมา มันเป็นได้ชัดว่า เศรษฐีที่ขายกิจการตัวเองให้กับเหล่า Private Equity ก็แสดงว่าเขามอง ออกว่า ณ เวลานั้น ธุรกิจของเขาอยู่ในช่วง Peak สูงสุด --- "สิ่งที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เศรษฐีเหล่านั้นจะทำได้ ก็คือ Cash out โดยการขายกิจการทิ้งไป"
และหลังจากนั้น เช่น เวลานี้ ถ้าเขาอยากได้กิจการตัวเองคืน ก็กลับมาซื้อด้วยราคาที่ถูกกว่าเดิม
เรื่องนี้สอนให้เรารู้ว่า "อย่าหลงระเริงกับ Cycle ขาขึ้น เงินสะพัดของธุรกิจ เพราะเมื่อใดที่เงินสะพัด เมื่อนั้นมันกำลังบอกถึงจุด Peak ที่อันตราย"
ในมุมกลับกัน พอเศรษฐกิจย่ำแย่ก็อย่าหลงมัวเมากับความกลัวจนไม่กล้าทำอะไร "เพราะนั่นเป็นจังหวะ ที่คุณควรกระโดดเข้ามาลงทุนมากที่สุดนั่นเองครับ"
เอ๋!! แล้วตอนนี้อยู่ในช่วงไหนครับเนี่ย (ไว้จะไปถามคุณเจริญ"เจ้าของราชา Take over เมืองไทย" ..เห็นท่านซื้อกิจการเป็นว่าเล่น"ตอนนี้ก็เล็งซื้อ Carrefour" ไม่รู้ท่านคิดอะไรอยู่!!")...น่าคิดตาม แต่ทรัพย์จาง ไม่เหมือนท่านอ่ะครับ ฮ่า ฮ่า
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 เรื่องที่ AI ทำได้ดีกว่ามนุษย์ อย่างเรา การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ผ่านมา …ทำให้อาชีพสังคมเกษตรกรรม หายไป และเกิดงานใหม่ใน โลกอุตสาหกรรม …งาน...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น