วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553
“ปริศนาค่าเงินบาท” แข็งหรือนิ่ม !!
(กราฟนี้แสดงค่าเงินบาทเทียบกับ ดอลล่าห์ ตั้งแต่ปี 1984 – 2010)
สิบปีที่ ประเทศไทยผูกค่าเงินบาทไว้กับดอลล่าห์ที่ 25 บาท ..จากนั้น วิกฤตต้มยำกุ้งปี 1997 เป็นช่วงที่เราโดนโจมตีค่าเงินบาท จนในที่สุด “รัฐบาลพลเอก ชวลิต ต้องประกาศลอยตัวค่าเงินบาท” ..ปีนั้น เงินบาทพุ่งขึ้นเลย 55 บาทต่อ 1 ดอลล่าห์ ..ตอนนั้นคุณรู้ไหมว่ามีคนรวยจาก การลอยตัวค่าเงินบาท หุ หุ
ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ “ทุกวิกฤตย่อมมีคนส่วนหนึ่งที่ได้ประโยชน์” แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ..ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ หลังจากที่ประเทศไทย “ลอยตัวค่าเงินบาท” นั่นหมายถึง ค่าเงินได้ขึ้นลงตามกลไกของ เศรษฐกิจที่แท้จริง
ผมถามหน่อยว่า จากภาพคุณเห็นอะไร “ใช่แล้วครับ” เงินดอลล่าห์ อ่อนลงเรื่อยๆ จนปี 2010 เงินบาทแตะ 31 บาท (จุดนี้ถ้ามองให้ดี มันชี้ให้เราเห็นว่า เศรษฐกิจ ของไทยดี!!)
ผมลากเส้น Regression หาค่ากลางของเงินบาท ..จะเห็นได้ว่า ช่วงที่ประเทศไทยตรึงค่าเงินบาทที่ 25 ต่อดอลล่าห์ (เป็นจังหวะที่นักเก็งค่าเงินระหว่างประเทศอย่าง Soros เห็นโอกาส เพราะถ้าดูกันจริงๆแล้ว ช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศไทยเพิ่งจะเปิดประตูการลงทุน สู่ระดับโลกในก้าวแรก ) ...แต่จุดที่น่ากลัวก็คือ การผูกค่าเงิน ทำให้เราไม่รู้มูลค่าจริงๆของเงินบาท เพราะช่วงปลายของ Bubble 1993 -1996 มันเป็นช่วงที่บริษัทต่างๆในประเทศอ่อนแอ เงินที่ไหลเข้ามา ไม่ได้ทำให้บริษัทแข็งแกร่ง “ภาพมันคือเด็กที่ได้เงินพ่อแม่(ตามใจ) มากจนเสียคน..ว่างั้น”
ซึ่งถ้ามองให้ดี เราก็จะรู้ว่า เราปล่อยให้ค่าเงินเป็นไปตามกลไก เราก็จะเห็นภาพเศรษฐกิจที่แท้จริง (ซึ่งปัจจุบัน ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่า เงินเราเริ่มแข็ง “แต่มันเริ่มแข็งเกินกว่า Regression Line” อย่างไรก็ตาม ภาพนี้ไม่ได้บ่งบอกว่าค่าเงินจะ Crash เพราะปัจจุบันค่าเงินเราแข็งเนื่องจาก ประเทศในแถบเอเชียมีเศรษฐกิจที่ดีกว่า แถบประเทศตะวันตกนั่นเอง “จุดนี้ทำให้ Demand ในค่าเงินเอเชีย สูงกว่า – เงินก็แข็งเป็นธรรมดา”
แต่ผมอยากฝากข้อสังเกตนิดนิงว่า ทุกอย่างมี Cycle ของมันเอง --- ดังนั้นจากกราฟ ก็ชี้ให้เห็นถึง Cycle ที่เกิดจนเกิดจะเต็มรอบแล้ว “ก็ยกมาให้เป็นภาพใหญ่ ให้ดูกันครับ ผมเชื่อว่ายังไงเงินบาทจะต้องแข็งขึ้นเรื่อยๆ แต่ปัญหาคือ ถ้ามันแข็งเกินไป มันก็จะเริ่มส่งผลต่อ ธุรกิจส่งออก ที่มีสัดส่วนถึง 60 % ของ GDP”
หลายคนบอกว่า เอเชียสามารถโตด้วยตนเอง โดยให้ “จีน” เป็นประเทศนำล่อง (คือ สร้างการบริโภคภายใน) ..ถูกต้อง การสร้างการบริโภคภายในประเทศเป็นการเติบโตที่ยั่งยืน แต่ปัญหา คือ การสร้างตลาดการบริโภคภายใน ไม่ใช่จะสร้างกันได้ง่ายๆ --- ต้องอาศัยเวลาที่ยาวนาน --- “สิ่งที่เราไม่รู้คือ ในเมื่อเรามองจีนเป็น Growth Engine ของเอเชีย “ผมถามหน่อยว่าคุณรู้จักจีนลึกๆแค่ไหน”
(นี่คือสิ่งที่น่ากลัว ..เรามักรู้ข่าวสารเท่าที่ ประเทศนั้นๆอยากจะให้เรารู้ “ซึ่งมันก็คือเรื่องดี ??? ” ปัญหา Bubble ของอสังหา ในเมืองจีนก่อตัวมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ปัญหามลพิษ ปัญหาความแตกต่างระหว่างชนชั้นและรายได้ ความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม “มองยังไงก็เหมือนประเทศไทยช่วงปี Miracle 1990s” ..เมื่อมี Bubble มันย่อมมี Crash ตามมาเสมอ) –“แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ..น่าคิด!!”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
6 เรื่องที่ AI ทำได้ดีกว่ามนุษย์ อย่างเรา การปฏิวัติอุตสาหกรรมที่ผ่านมา …ทำให้อาชีพสังคมเกษตรกรรม หายไป และเกิดงานใหม่ใน โลกอุตสาหกรรม …งาน...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น