วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553
ญี่ปุ่น เราชอบหนัง..เขา (การ์ตูนนะอย่าคิดลึก) คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเขาบ้าง!!
ผมหยิบค่าเงินญี่ปุ่นเทียบกับเงินบาท ระหว่างปี 1999 – 2010 มาให้ดูครับ “คุณเห็นอะไร!!”
ญี่ปุ่นนี่ถ้าจะให้เกริ่น เขาก็คือ ประเทศที่ให้กำเนิดอุตสาหกรรมไทยนะ!! --- เขาเป็นประเทศแรกที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยตั้งแต่ปี 1980 ..และจากนั้นเป็นต้นมา ญี่ปุ่นก็ “ร่วมทุกข์ ร่วมสุข กับไทยเรื่อยมา โดยการรักษาระดับ การลงทุน เป็นอันดับต้นๆ (ลงทุนอันดับหนึ่งเกือบตลอดมา)”
สิ่งที่รัฐบาลไทย ตอบแทนญี่ปุ่น คือ “มาบตาพุต” (คนไทย นายแน่มาก!!) จริงๆก็ไม่ได้มีอะไรหรอกครับ การที่ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในไทย เขาก็ลงทุนในเอเชียด้วย เช่นกัน “มันเป็นสถานการณ์บีบบังคับต่างหาก” ..ญี่ปุ่นอาศัยค่าเงินเยน ที่แข็งโป๊ก ตลอดเวลา -- ทำให้ญี่ปุ่นสามารถมาลงทุนในประเทศต่างๆไม่แพง
คุณลองไปดูประเทศจีนเวลานี้ “นักวิเคราะห์ทั่วโลก ฟันธง เงินหยวน จะต้องแข็งค่าแน่นอน ถ้าปล่อยให้ซื้อขายเสรี” ..คุณว่าจริงหรือ!! (ไม่มีใครรู้หรอกครับ เพราะคุณไม่ใช่รัฐบาลจีน เขาไม่ได้บอกคุณนี่ว่าจริงๆ ภายในบ้านเขาลึกๆแล้วมันเป็นอย่างที่ คนภายนอกเห็นหรือเปล่า)
ผมเข้าไปทำธุรกิจกับชาวจีนระยะนึง ...สิ่งที่ผมเห็นมันคือ ความแตกต่างที่สุดขั่ว “คุณขับรถไปบนถนนใหญ่ ยังมีคนมาแปรงฟันริม ฟุตบาตเลย คิดดูละกัน” ..”(นั่งร้าน)ที่ใช้ก่อสร้าง บางตึก ยังใช้ “ไม้ไฝ่”อยู่เลย” (นี่ผมพูดถึง เซี่ยงไฮ้ นะครับ Business Center !!)
ถนนหนทาง นี่ใหญ่ขั้นเทพมาก แต่นั่นมันหมายถึง ความแข็งแกร่งและอำนาจของรัฐบาล มันไม่ได้สะท้อนความแข็งแกร่งภาคเอกชน ....คนจีนในสายตาผม ยังปากกัดตีนถีบเป็นส่วนใหญ่ ภาพยังไม่ใช่ชนชั้นกลางของเมืองไทยด้วยซ้ำ
ผมไป deal ธุรกิจ --- สิ่งที่เขาสนใจ “ไม่ใช่บริษัทจะได้กำไรเท่าไร (แต่กูนี่) จะได้เท่าไหร่ต่างหาก” ..คุณเห็นบริษัทตะวันตกมากมายพับเสื่อออกไปจากจีนไหมล่ะ (ใช่!! ปรับตัวไม่ได้ มันคือคนละโลก) ..แต่คุณรู้ไหม จุดดี ก็คือ “มันก็คือเมืองไทย สมัยก่อนนี่แหละ!!”
จุดนี้ทำให้ นักธุรกิจไทย สามารถปรับตัวได้ดี ในการทำธุรกิจในเมืองจีน ไม่ว่าจะเรื่องสินบท ใต้โต๊ะ “มันอยู่ในสายเลือดของคนไทยอยู่แล้ว”
โอเค --ไปซะยาว “สิ่งที่ผมต้องการชี้ คือ ภาพที่คุณเห็นในข่าวหรือ นิตรสาร มันคนละภาพกับความเป็นจริง ..คุณต้องเข้าใจจุดนี้ให้ลึก ไม่งั้นคุยไม่รู้เรื่อง”
กลับมาที่เงินเยน ของญี่ปุ่น ตอนนี้แข็งมาก แตะ 35 บาทต่อร้อยเยน “ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจญี่ปุ่น คุณจะทำอย่างไรถ้าคุณคิดว่า เงินคุณแพงเกินไป” ใช่ครับ คุณจะไปลงทุนในต่างประเทศ --- ลองไปดูตัวเลขการลงทุนของ ญี่ปุ่น กับ จีน นะครับว่ามันเพิ่มขึ้นแค่ไหน
เร็วๆนี้มีข่าว จีนจะมาลงทุนรถไฟฟ้า หลายแสนล้าน( 7 แสนล้าน) “ภาพนี้มัน Confirm สิ่งที่เห็น” --- เมื่อคุณคิดว่าเงินตัวเองแพง คุณก็จะพยาบยามไปลงทุนในต่างประเทศ เหมือนช่วงญี่ปุ่นไปลงทุนเกือบซื้ออเมริกา(แทบจะซื้อ ทั้งเกาะฮาวาย) ก่อนประเทศตัวเองจะ Crash !!
อ้าว!! ดูกันต่อไป (ผมแค่ชี้ประเด็นให้คุณเห็น ..ไม่ได้ชี้นำอะไร) ...จับตาอีก 3 ปีข้างหน้า “เห็นอะไรดีๆแน่ครับ”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
7 ข้อ ทำไมมนุษย์เรา ถึงแย่มากๆ ในการจัดการเงิน ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราทำนายอนาคตได้แย่มากๆ …สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าจะดี มันจะแย่ …แต่...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
-
เรื่องนี้เป็นประเด็นสอนใจ Brand ระดับโลกอย่าง Starbucks ที่เข้าไปบุกแดนจิงโจ้ ..ในที่สุด กระอัก “ไม่รุ่ง” ด้วยเหตุที่ Australia นับเป็นหนึ่ง...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น