แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2563

หุ้น 5 เด้ง มันเป็นยังไง

‘หุ้นห้าเด้ง มันเป็นยังไงครับ ?’

เด้ง ก็คือ กำไรกี่เท่า ...ถ้าหุ้นห้าเด้ง ก็แปลว่า มันขึ้น 500% หรือ 5 เท่า

ประเด็นคือ กลไกในการที่หุ้นมันจะขึ้น 5 เด้ง มันคือ อะไรต่างหาก ที่มันสำคัญ ...มาดูกัน

1. ‘ราคาหุ้น มันขึ้นอยู่กับ คนในตลาดยอมซื้อแพงเท่าไหร่’ ...บางคนนึกว่า ราคาหุ้น มีคนตั้งราคาเหมือน รถยนต์ ...จริงๆ ก็ใช่ ...หุ้นตอน IPO เข้าตลาดวันแรก ก็เหมือน รถยนต์มือหนึ่ง ....ทางบริษัทเขาตั้งราคามาขายวันแรก ....พอมันเริ่มเทรดจริง ซื้อขายในตลาดหุ้น คราวนี้ราคาหุ้นที่เห็นก็คือ ราคาตลาด ก็เหมือนราคา ‘รถยนต์มือสอง’ นั่นแหละ ...คราวนี้ ราคาที่เราเห็นวิ่งขึ้นลงทุกวัน ก็เหมือนราคารถมือสอง ...ดังนั้น ราคาล่าสุดของหุ้นที่เราเห็นผ่านโปรแกรม Streaming ก็คือ ราคาที่หุ้นตัวนั้นๆ มีการซื้อขายล่าสุด

2. ‘ราคาล่าสุด อาจไม่ใช่ราคาที่คนส่วนใหญ่เห็นด้วย’ ...ใช่!! อันนี้ลึกซึ้ง ...ยกตัวอย่างรถยนต์ สมมุติคุณซื้อรถ Benz มือหนึ่งมา ราคา 3 ล้าน ....วันนี้คุณเข้าเว็บขายรถ เห็นราคาที่เขาตั้งขายมือสอง รุ่นของเราเลย ราคา 1 ล้าน ...ซึ่งถ้าเกิด มีคนมาซื้อ 1 ล้าน ก็แปลว่า ราคาตลาด ณ จุดนั้น คือ 1 ล้าน

เฮ้ย!! แต่ฉันซื้อมา 3 ล้านนะ ...’ก็ช่วยไม่ได้ เผอิญมันมีคนร้อนเงินยอมขายที่ 1 ล้าน แล้วก็มีคนมาซื้อ’

คราวนี้ คนอื่นๆ ที่มีรถรุ่นเดียวกัน ถ้าร้อนเงิน มาประกาศขายบ้าง แต่อยากที่ 2 ล้าน ก็ได้ครับ ...ก็ตั้งราคา Offer ไว้ที่ 2 ล้าน ....ถ้ามีคนมาซื้อ Bid ที่ 2 ล้าน ...คราวนี้ ราคารถ ก็จะขึ้นมาเป็น 2 ล้าน เพราะ มีการซื้อขายจริง Match ล่าสุดที่ 2 ล้าน

ใช่!! ราคาหุ้น ก็เป็นแบบนั้น ...ราคาที่เราเห็น มันคือราคา Match ล่าสุด ที่ซื้อขายจริง ....แต่มันไม่ได้จำเป็นว่า นี่คือ ราคาหุ้นที่ฉันจะขาย จริงไหม ?

3. ‘ถ้าวันไหน มีการซื้อขายปริมาณน้อยๆ ราคาอาจถูกบิดเบือนได้มาก’ ...ถูกต้อง!! นี่ลึกซึ้งเข้าไปอีกขั้น คือ ถ้าหุ้นตัวไหน มีปริมาณการซื้อขายไม่เยอะ ...ราคาอาจถูกบิดเบือนได้ง่าย ...ยกตัวอย่าง นาย A กับ นาย B ทำการตกลงกับอย่างลับๆ ว่า จะฮั้วราคากัน

สมมุตินาย A และ B เป็น ขาใหญ่ มีทั้งหุ้นและเงินจำนวนเยอะมาก ...สมมุติราคาล่าสุดของหุ้นตัวนึงคือ 10 บาท ...นาย A ก็บอกให้นาย B ซื้อให้หมดเลย ...ส่วนนาย A ก็จะตั้ง Offer ที่ 11 บาท ...จากนั้น ก็ให้นาย B ซื้อหุ้นจนหมดคนที่ตั้งขาย จากนั้น ก็มาซื้อหุ้น นาย A ที่ 11 บาท ...จากนั้น นาย A ก็ Offer แพงขึ้นเรื่อยๆ ...นาย B ก็กวาดซื้อหุ้นทั้งหมด รวมทั้งที่นาย A ตั้งสูงขึ้น แพงไปเรื่อยๆ ....หุ้นก็จะค่อยๆ วิ่งขึ้นไป 12 ...13 ...14 ...15 ....

‘นี่คือ การปั่นหุ้นนี่ !!’ ...ก็อย่างที่บอก ว่า ถ้าหุ้นมีปริมาณการซื้อขายน้อย มันยิ่งปั่นได้ง่าย ....แต่ถ้ามันเป็นหุ้นใหญ่ ที่มีการซื้อขายเยอะ คราวนี้ปั่นยากละ

เช่น หุ้น PTT แต่ละช่องของราคา อาจมีคน Offer พร้อมกันเป็นจำนวน ร้อยล้านบาท ....การที่คนนึงจะ รวบซื้อคนเดียว จนหมดแต่ละช่วงของราคาต้องใช้เงินมหาศาล ทำให้มันปั่นหุ้นได้ยากขึ้นนั่นเอง

4. ‘แล้วตลาดหุ้นไทย ปั่นได้ยากไหม’ ...จริงๆ ตลาดหุ้นบ้านเรา มีการซื้อขายค่อนข้างสูง วันนึง หลายหมื่นล้าน ...บางวันเป็นแสนล้าน ...ส่วนหุ้นรายตัว บางตัวก็ซื้อขายเป็นร้อย เป็นพันล้าน

ก็ดูง่ายๆ หุ้นตัวไหน Volume ปริมาณการซื้อขายน้อย ก็ต้องระวังหน่อย ว่า ราคาอาจถูกบิดเบือน ...ก็ดูไว้เป็นข้อมูลครับ

ยาวเลย !! กลับมาถึง คำถาม ‘แล้วหุ้น 5 เด้ง เป็นยังไง ?’

ตอบสั้นๆ คือ ‘หุ้นที่กำไรเติบโต หลายเท่า แต่บางทีกำไรอาจไม่ต้องโตถึง 5 เด้ง ...ราคาก็วิ่งเกิน 5 เด้งได้’

งง ? ...อธิบายด่วน

1. ‘ตลาดหุ้น ให้ราคากับการเติบโต เขาเรียกค่า P/E’ ...ค่า P/E คือ ‘นักลงทุนยอมซื้อหุ้นแพง กี่เท่าของกำไร’ ...ยกตัวอย่าง P/E 10 เท่า ก็แปลว่า สมมุติบริษัทนึง กำไรต่อหุ้น คือ 1 บาท นักลงทุนยอมซื้อแพงกว่า 10 เท่า แปลว่า นักลงทุนยอมซื้อที่ 10 บาท

2. ‘กำไรโต ...นักลงทุนจะยอมซื้อที่ P/E สูงขึ้น’ ...สมมุติปีต่อไปกำไรโตเป็น 1.50 บาท (กำไรโต 50% เลย นักลงจะชอบ ยอมซื้อแพงขึ้น) ...อาจยอมซื้อที่ P/E 20 เท่า ...คราวนี้ราคาหุ้น จะขึ้นไปที่ 30 บาท

3. ‘ปีต่อไป กำไรโต ขึ้นไปอีก’ ...สมมุติปีถัดไป กำไรขึ้นไปอีกเป็น 2 บาทต่อหุ้น ...แต่นักลงทุนยอมซื้อแพงเท่าเดิม คือ P/E 20 เท่า ....ราคาหุ้นก็จะกลายเป็น 20*2 = 40 บาท

4. ‘ปีต่อไป กำไรโต ขึ้นไปอีก เป็น 2.5 บาท’ ...แต่นักลงทุนไม่ยอมซื้อแพง ให้ P/E เท่าเดิมที่ 20 เท่า ....คราวนี้ราคาหุ้นก็จะกลายเป็น 20*2.5 = 50 บาท

...นี่ไง หุ้น 5 เด้ง ...สรุปหุ้นตัวนี้ ใช้เวลา 4 ปี กำไรต่อหุ้นโตจาก 1 บาท ไปเป็น 2.5 บาท ....ส่วนราคาหุ้น โตจาก 10 บาท ไปเป็น 50 บาท ....นี่แหละ เบื้องหลัง กลไกที่ว่าหุ้น มันโตจากอะไร ?

1. โตจากกำไรบริษัทที่เติบโตขึ้น

2. โตจากนักลงทุนยอมซื้อแพงขึ้น หรือ ซื้อเท่าเดิม แต่กำไรบริษัทโต ราคามันก็ขึ้นตาม

ก็ประมาณนี้ เอาความรู้เรื่อง กลไก ราคาหุ้นมาแชร์กันครับ

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ