เดี๋ยวนะ !! ...หุ้นมีโหวงเฮ้งด้วยเหรอ
เจ้าสัวยังคัดคนจากโหวงเฮ้งเลย ...หุ้นมันก็มี 5 หลักการ มอง ว่า ดีหรือไม่ดี ดังนี้
1. ‘หนึ่งในใจ’ ...ธุรกิจจะดีหรือไม่ในยุคนี้ ไม่ได้มองแค่ขายดีหรือไม่ มันไม่พอ เพราะ มันอาจไม่ยั่งยืน ...อย่างแรกเลยที่สร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ ก็คือ Brand ...ถ้า Brand ไม่แข็ง ไม่ต้องดู ผ่านไปเลยครับ
2. ‘ไร้คู่แข่ง’ ...เรื่องสำคัญยุคนี้ที่จะชี้ว่า รุ่งแค่ไหน อาจไม่ใช่แค่ฝีมือผู้บริหาร ...ที่สำคัญกว่า คือ ‘อยู่ถูกที่หรือเปล่า ?’ ...ถ้าเก่ง แต่อยู่ผิดที่ ก็ไม่รุ่งครับ ...ภาษาการตลาดเขาเรียก Segmentation คือ ‘การเลือกเป็นผู้นำในตลาดของเราเอง’ ...บริษัทที่เก่ง จะไม่ทำธุรกิจชนกับยักษ์ใหญ่ เพราะ แพ้ตั้งแต่คิดแล้ว ...คนเก่ง จะเลือกจุดที่เราสามารถเป็นผู้นำ
3. ‘แบ่งปันผล’ ...ธุรกิจดีจริง ต้องมีกำไรแล้วแบ่งปันผลสม่ำเสมอ ...เออ!! ทำธุรกิจนะครับ ไม่ใช่การกุศล ...ดังนั้น ถ้ามีกำไร ก็ควรจ่ายปันผลให้นักลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ...สิ่งหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญมากเลยคือ ‘ผมอยากลงทุนในธุรกิจที่เป็นทั้งหมดของเจ้าของ’ ...ยกตัวอย่าง เจ้าสัวคนนึง มีอยู่ 100 บริษัท เทียบกับ นักธุรกิจรุ่นใหม่ที่เก่งแล้วทุ่มทุกอย่างให้บริษัทเดียว ....ผมเลือกแบบหลังครับ ...วิธีการดูง่ายๆ คือ ถ้ามันเป็นทั้งหมดของเขา ก็ต้องจ่ายปันผลสูง และ ยังต้องทำให้ธุรกิจโตให้มากที่สุดในเวลาเดียวกัน
4. ‘คนดีถือเยอะ’ ...นอกจากธุรกิจดี แล้วนักลงทุนที่มาลง ก็สามารถบอกได้ว่า ธุรกิจนี้มีอนาคตแค่ไหน ...ในตลาดหุ้น เรามีนักลงทุนเก่งๆ มากมาย ที่ทำงานโคตรหนัก บางทีศึกษาธุรกิจลึกกว่าผู้บริหารด้วยซ้ำ ...พวกนี้เวลาเขาลงทุนระยะยาวในธุรกิจไหน มันเป็นสิ่งที่ช่วยการันตีหุ้นว่าดีจริงไหม ....แต่ต้องเป็นหุ้นที่ถือยาวนะครับ ถ้าแนวแบบ ได้ประโยชน์ใน ไตรมาสนี้ หรือ นี่เป็นปีทอง แบบนี้สั้นไป ...มันต้องเป็น Megatrend แบบยาวๆ สิบปีขึ้นไป
5. ‘กำลังเจอะวิกฤต’ ...ธุรกิจจะดีแค่ไหนก็ตาม ถ้าเราซื้อแพง มันก็ดอยอยู่ดี ...ผมศึกษาและลองผิดลองถูกในเรื่องของ ‘รอบหุ้น’ และ ‘รอบตลาด’ จนพบว่า ...หุ้นทุกตัวที่คุณอยากได้ วันนึงราคามันจะลงมาในจุดที่ควรซื้อ ดังนั้น ไม่ควรรีบ
พูดอีกอย่างคือ ‘มือสมัครเล่น มักซื้อหุ้นในเวลาที่เขาอยากได้แล้วดอย ...มืออาชีพ เขามักซื้อในเวลาที่ไม่อยากได้ แล้วกำไรตั้งแต่วันแรกที่ซื้อ’
ที่บอกไม่ควรรีบ ...แต่ถ้าวันใดหุ้นที่เรารอ ลงมาในจุดที่ราคาเหมาะสม เราก็ไม่ควรรอ ‘จัดเลย ไม่รอต่ำสุด’ (การรอซื้อในจุดที่ต่ำที่สุด ก็เป็นวิธีคิดของรายย่อย ที่สุดท้าย โอกาสผ่านไป ก็ยังไม่ได้ซื้อหุ้นเลย ...อ้าว!! แล้วมืออาชีพล่ะ ? ...ก็อย่างที่กล่าวมา พอราคาได้ ไม่ต้องรอต่ำสุด ลุยเลย)
นี่แหละ 5 ข้อ ที่ฟังดูเหมือนง่าย แต่ปฏิบัติจริงก็แผลเต็มหลัง และ เรียนรู้จริงจากประสบการณ์
หลักการเบื้องต้นนี้ ผมใช้แล้วได้ผลดี ก็ลองดูเผื่อปรับใช้เป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ นักลงทุนครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam
หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น