‘ใช้เงินอย่างไร ไม่เกินตัว !!’
ปัญหาของคนรุ่นใหม่ คือ ใช้เงินเกินตัว ...ไม่เหมือนกับคนสมัยก่อน เราจะเห็นคนยุคก่อน หาเงิน เก็บๆ แล้วก็ไม่ได้ใช้ ...สุดท้ายลูกหลาน ผลาญแหลก
พ่อผมสอนเสมอ ว่า ‘หาได้เท่าไหร่ไม่สำคัญ แต่ถ้าซื้ออะไร ต้องซื้อเงินสดเท่านั้น !!’
ผมว่า คำสอนนี้ เป็นคำสอนที่ดีมาก ที่ทำให้เราไม่ใช่เงินเกินตัว
...’อ้าว!! แล้วคิดแบบนี้ เมื่อไหร่จะซื้อบ้านในฝัน และ รถในฝันได้ล่ะ ?’
...จริงๆ มันได้นะ ...เพียงแต่เราอาจจะต้องอดทนมากขึ้น ...ซื้อในสิ่งที่ต้องการช้าลงก็แค่นั้นเอง
หลายคนอาจไม่เคยเรียนรู้เรื่องการลงทุน ...เพราะอาจจะคิดว่า การลงทุนมันไม่ใช่เรื่องของฉัน ...มันเรื่องของคนรวย ...แต่จริงๆ ไม่ใช่ !!
การลงทุนเป็นเรื่องของทุกคน ...เงินน้อย ถ้าลงทุนนานพอ นี่รวยได้ทุกคน
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณลงทุนเดือนละ 1,000 บาท ในสินทรัพย์อย่างหุ้น แล้วไม่ขายเลย ทั้งชีวิต ...สุดท้ายเราจะมีความมั่งคั่งประมาณ 100 ล้านบาท
(1,000 บาทต่อเดือน ถ้าฝากธนาคารไปเรื่อยๆ ทั้งชีวิต ..ผมคำนวณ สมมุติชีวิตเราทำได้ 60 ปี ..ถ้าเอาเงินนี้ฝากธนาคารเฉยๆ มันจะได้แค่ 720,000 บาทเท่านั้น ...แต่ถ้าเอามาลงทุนที่ได้ทบต้น 12% ต่อปี มันจะโตเป็น 100 ล้านบาท)
เดี๋ยว!! อย่าเพิ่ง ดราม่า ...’โถ่ !! เก็บแบบนี้ไม่ได้ใช้ ทำเพื่อ ?’
กำลังจะบอกว่า ‘คนสมัยก่อน ที่ทำงานแล้วเก็บเงินทั้งชีวิตแบบไม่ได้ใช้เลย เขาเลยรวยไง ...แต่ยุคก่อน เขาก็เงินไปซื้อที่ดิน ...แต่ยุคนี้ มันต้องทำในหุ้นแทน’ ...แต่สิ่งที่น่าสนใจ คือ ยุคนี้จำนวนเงินที่ใช้เริ่มต้นมันน้อยมาก ...มันเริ่มที่หลักพันต่อเดือนเอง
ขอสรุปหลักการคร่าวๆ ดังนี้
1. จะซื้ออะไร ใช้เงินสด ...เราจะรู้จริงๆ เราใช้เงินเกินตัวหรือไม่ ...ถ้าซื้อด้วยเงินสด แล้วรู้สึกจ่ายได้สบาย แปลว่า เราพร้อมซื้อสิ่งนั้นแล้ว
2. แบ่งเงินบางส่วนออมในหุ้น ...ถ้าเงินน้อยให้เริ่มที่ ETF เช่น BMSCITH...เงินก้อนนี้ เรากันทิ้งออกจากชีวิตไปเลย
3. ส่วนเงินที่เหลือ เราก็ทำงาน ใช้ตามปกติ หรือ จะลงทุนเพิ่มก็ทำได้
ผมใช้หลักการง่ายๆ แค่นี้แหละ คือ ทุกเดือนผมกันเงินเพียงเล็กน้อย ออมใน ETF แล้วทิ้งไปเลย ไม่คิดจะใช้มัน ..อันนี้ทำทั้งชีวิต คล้ายๆ ซื้อประกันชีวิตแหละ (อันนี้อย่างน้อย ผมไม่ได้ใช้ สุดท้าย ผมก็คงทิ้งความมั่งคั่งให้คนรุ่นต่อไป ไม่มากก็น้อยครับ)
ส่วนทำงานหาเงิน เล่นหุ้น ลงทุนออมหุ้นพอร์ตปกติ ผมก็ทำควบคู่
พอทำแบบนี้ ผมเชื่อแน่ว่า ถึงผลลัพธ์อาจจะไม่ได้ดีที่สุด แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีทางจนเลยในชีวิตนี้
ครับ!! ที่เล่ามา อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน ...แต่ถ้าใครเห็นว่าดี ก็ลองทำดูนะครับ ...ยิ่งเริ่มเร็วก็ยิ่งได้เปรียบ เพราะ พลังของการลงทุนแบบดอกเบี้ยทบต้น มันคือ ‘เวลา’
และ ไม่มีคำว่าสายเกินไป หากเราอยากเริ่มครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สนใจเปิดบัญชีหุ้น หรือ ออมหุ้น คลิ๊กที่นี่เลย
http://bls.tips/pawawitTeam
หรือ โทร 02-618-1111 บอกทีมงาน ว่า “เอาแบบออมหุ้นอัตโนมัติ ที่พี่แพ้ทแนะนำ”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 ข้อ โลกเปลี่ยน มันจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน ? 1. ‘ของแพงจะขายดีขึ้น ของถูกจะขายแย่ลง‘ …ของแพงคู่แข่งน้อย เพราะสร้างยาก ต้องสร้าง Brand …ส่วน...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
5 ข้อ ชวนคุย Generation และการเปลี่ยนแปลง วิธีคิดและการใช้ชีวิต เราแบ่งมนุษย์เป็นหลายแบบ ถ้าแบ่งตามภูมิศาสตร์ คนแต่ละประเทศก็แตกต่างกัน …แต...
-
6 ข้อดี ของสงครามการค้าระหว่าง จีนกับอเมริกา ต่อเศรษฐกิจไทย …เรารู้กันอยู่แล้วว่า สงครามอะไรก็ตาม มันไม่ดี …งั้นเราลองมา Explore ข้อดี เผื่...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
6 ข้อ ทำไม ‘นักธุรกิจที่เก่ง‘ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการเป็นนักลงทุน …เราเห็นนักธุรกิจที่เก่ง พอมาเล่นหุ้น …เฮ้ย!! เสียตังค์หนักเลย …งั้นล...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น