แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561

นักเขียนจะทำยังไง เมื่อคนไม่ซื้อหนังสือ



‘เมื่อนักเขียน เลิกเขียนหนังสือ’ 


ผมเองครับ ..ตกงานดิ !! - ไม่เขียนหนังสือ แล้วจะไปเขียนอะไร 


จะว่าไปแล้วยุคนี้ เป็นยุคที่อะไรๆ เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว จนบางคนปรับตัวไม่ทัน


งานที่เคยรุ่ง ทำเงินดีในอดีต วันนี้กลับรุ่งริ่ง หาเงินยากเย็น 


‘นักเขียนหนังสือก็เช่นเดียวกัน’ ...แต่ก่อนอาชีพนักเขียนนี่เรียกว่า อาชีพ Passive Income เลย ..เขียนครั้งเดียว จากนั้นก็ขายไปเรื่อยๆ ..ดูดีจัง ...ใช่!! สมัยก่อนเป็นอาชีพที่ดีมาก เพราะ 


1. ใครๆ ก็ชอบเข้าร้านหนังสือ ...อย่างตัวผมเองในอดีต แต่ละเดือนผมจ่ายเงินซื้อหนังสือเป็นหมื่นบาท ..เดี๋ยวนี้ตรงข้ามเลย จะซื้อสักเล่มนี่ คิดแล้วคิดอีก ...ไม่ได้เกี่ยวกับเสียดายเงินนะ แต่หลักๆ คือ ซื้อไปแล้วไม่ได้อ่าน ...ยิ่งคนอยู่คอนโดแบบผม นี่จะมีหนังสือเยอะมาก รกมาก และ ไม่ได้อ่าน ซื้อถมไปเรื่อยๆ ...หนักสุด คือ หนังสือเล่มไหนที่ซื้อ กลายเป็นหนังสือที่จะแทบไม่ได้อ่านเลย 


2. หนังสือ Bestseller สมัยก่อน จะอยู่บนแท่นหลายเดือน บางเล่มขายดีเป็นปี ...เดี๋ยวนี้เป็นวันครับ อีกไม่กี่วันก็ตกแผงแล้ว ...โหดมาก ...นั่นแปลว่า ใครดันพิมพ์หนังสือมาเยอะ บางทีจม สต็อกหนังสือ 


ผมว่า นี่ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะอาชีพนักเขียนนะ แต่เป็นปัญหาของอาชีพส่วนใหญ่ทั่วโลก ...ผมสรุปคร่าวๆ ให้ดังนี้


1. เราต้องจ่ายเงินล่วงหน้าผลิตสินค้า โดยที่คาดเดาไม่ได้ว่า สินค้าที่ผลิตมาจะขายได้หรือไม่


2. การเก็บสต็อกสินค้า มีต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะ ของที่ขายดีมาก จะยิ่งน่ากลัว เพราะของที่ขายดีมากยุคนี้ มักดีแป๊บเดียว ทำให้เราชะล่าใจผลิตเยอะ ..สุดท้ายแทนที่ของขายดีส่วนใหญ่ ทำให้เราเจ๊ง เพราะขายดีแป๊บเดียวนี่แหละ ‘ขายดีจนเจ๊ง!!’


3. หน้าร้าน ค่าเช่าแพง ต้นทุนสูง ..พอหนีไปขายออนไลน์ วันนี้ก็ต้นทุนแพงพอๆ กัน ...วันนี้ค่าโฆษณาออนไลน์ คิดเป็น 40% ของราคาสินค้า เข้าไปแล้ว ...ใช่!! ทั้งออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ ต้นทุนหนักพอๆ กัน ...ยิ่งวันนี้คนแข่งกันทำออนไลน์มากขึ้น ลูกค้ายิ่งเรื่องมากหนักขึ้น ...ถ้าคิดค่าส่งสินค้า การันตีรับคืน ส่งไป ส่งมา ส่งผิด ส่งถูก ...เออ !! สรุป เลิกดีกว่า 


เดี๋ยว!! ...ผมไม่ได้มาแค่บ่น แต่จะมาเสนอแนะทางออก 


อันนี้ผมใช้จริงกับตัวเองเลยนะ 


อย่างผม เคยเป็นนักเขียนหนังสือ ...พอหนังสือ มันเริ่มขายยาก ผมต้องมานั่งคิดใหม่ว่า แล้วอะไรจะมาแทนหนังสือ


- คนซื้อหนังสือเพราะ เขาอยากได้ความรู้ ..แต่ปัญหาที่ทำให้วันนี้เขาไม่ซื้อเพราะ หนึ่ง ไม่มีเวลาอ่าน สอง ไม่มีเวลาแม้แต่จะไปร้านหนังสือด้วยซ้ำ 


- แปลว่า คนยังต้องการความรู้ แต่เราต้องแก้โจทย์ เรื่อง ไม่มีเวลาอ่าน 


ถ้าเข้าใจตรงนี้ เราสร้างธุรกิจใหม่ได้อีกมากมาย เช่น 


- ธุรกิจสรุปความรู้ แล้วส่งให้แทน 


- ธุรกิจจับใจความหนังสือ ..ไม่ต้องอ่าน ให้ดูและฟังแทน


- ธุรกิจ ให้ความรู้แบบออนไลน์ ที่ทั้งสรุป ทั้งต่อยอด ไปสู่การปฏิบัติ (อันนี้ต่อยอดไปอีก เพราะ หนังสือ แค่การให้วิธีคิด แต่พอเป็นคอร์ส ต่อยอดไปสู่การปฏิบัติได้อีก)


- ธุรกิจ ให้ความรู้ฟรี แล้วต่อยอด สู่สินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง 


(หลายคนอาจไม่รู้ว่า วันนี้ บริษัทใหญ่ๆ ต้องการนักเขียนจำนวนมาก ที่จะมาช่วยเขียน และ สื่อสาร ให้ความรู้ลูกค้า เพื่อต่อยอดสู่การขายสินค้าและบริการ ...ตำแหน่งที่ว่า ถือว่า ขาดแคลน เพราะ ยุคนี้แค่โฆษณาขายของ มันแทบไม่ได้ผลแล้ว ...ยุคนี้มันต้องให้ความรู้ แล้วให้ลูกค้าไปตัดสินใจเอง


จาก Push Marketing เปลี่ยนเป็น Pull Marketing ...ให้ความรู้ในทุกสื่อ ให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน แล้วให้ลูกค้าตัดสินใจเอง)


ที่เล่ามา เพื่อจะชี้ให้เห็นว่า 


‘ยุคนี้ อย่ามองแค่สิ่งที่ตัวเองทำ แล้วจำกัดโอกาสตัวเองอยู่ตรงนั้น’ ....แต่ให้มองให้กว้าง ว่า ‘ทักษะ’ ที่ตัวเองเชี่ยวชาญ มันสามารถต่อยอดโอกาสอะไรได้บ้าง อันนี้แหละ สิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญ


อย่างตัวผมเอง ผมเป็นนักเขียนหนังสือ ...ถ้าผมมองว่า ผมเป็นนักเขียนหนังสือ พอยุคนี้คนไม่อ่านหนังสือ ก็แปลว่า งานต้องน้อยลง เงินต้องลดลง 


แต่พอมองใหม่ ว่า ‘นักเขียน = นักคิด = นักสื่อสาร’ คราวนี้โอกาสเปิดกว้างเลย


- จะทำธุรกิจส่วนตัว สื่อสาร สรุปความรู้ให้ลูกค้าโดยตรง 


- หรือ จะเป็นลูกจ้าง ช่วยให้บริษัทสื่อสารกับลูกค้า ก็ทำได้


ใช่ครับ!! ผมอยากจะบอกว่า ที่หลายคนบ่นว่า งานน้อย ขายของไม่ดี โอกาสไม่มี ...เราลองถอยมาคิด แล้วพิจารณาลึกๆ ว่า ‘ทักษะ’ ที่เรามี มันสามารถ ต่อยอด และ ปรับเปลี่ยน ไปทำอะไรได้อีกมากมาย


เริ่มเลย ‘หาจุดแข็งเราว่า คือ ทักษะอะไร’ 


จากนั้น ‘ต่อยอด เพิ่มความรู้ในเรื่องที่เราอยากจะทำเข้าไป ผสมผสาน’ 


...จากนั้น ก็มุ่งมั่นสร้างผลงานให้ปรากฏ ..แค่นี้เราก็จะได้ อาชีพใหม่ อาชีพเสริม โอกาสก้าวหน้าได้แล้วครับ


#ภาววิทย์กลิ่นประทุม


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ