วันพุธที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2553
ฝรั่ง(Fund Flow)..มันเดินบนน้ำแข็งหรือ ทำไมรายย่อย “อย่างเราๆเสียวจัง !!”
ไหลมาเรื่อยๆครับ Fund Flow ..แต่มันเสียว วูบๆ วูบๆ ยังไงไม่รู้ ---แต่ยังไงก็เริ่มใจชื้น สำหรับกลุ่ม Blue Chip ที่ผมชอบ.. ตอนนี้ก็ค่อยๆไหลไปตาม ธารน้ำแข็งของฝรั่ง
ที่ผมบอกว่าเสียว คือ “เราอย่าพึ่งหลงดีใจ นึกว่าฝรั่งซื้อตอนนี้แล้วเขาจะมีต้นทุนเดียวกับรายย่อย” (ผิดแล้ว!!) เพราะฝรั่งมีต้นทุนปีที่แล้วเหลืออยู่ 30,000 กว่าล้าน ซึ่งเป็นต้นทุนเก่า (ตอนที่เขาเก็บปี 2009 ตลาดไม่ใช่ถูกธรรมดา มันถูกสุดขีด!! คิดดูต้นปี 2009 ที่ฝรั่งเริ่มเก็บ SET อยู่ที่ 400 จุดน่ะ)
จะเห็นได้ว่า การซื้อเพิ่มของฝรั่งตอนนี้ คือ การซื้อเพิ่มเพราะเขามองว่าตลาดน่าจะขึ้น “ดังนั้นประเด็นที่ต้องจับตาดู คือ จำนวนเงินที่ไหลเข้า มันเป็นตัวชี้ความมั่นใจต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ” แสดงว่า ยิ่งมากยิ่งดี ---แต่ถ้าถามว่าผมคิดยังไง ผมกลับมองว่า ฝรั่งก็ยังเข้าแบบ กั๊กๆ ..จากที่เรารู้ว่าปีที่แล้วเขาเก็บต้นทุนต่ำไว้ประมาณ 3 หมื่นกว่าล้าน --ซึ่งถ้าเข้าเพิ่มแบบฉลาด เขาก็ต้องเข้าน้อยกว่าเดิม.. “จริงไหมครับ!!”
คือ ถ้าปีนี้ฝรั่งเข้าเพิ่มอย่างหรู ก็น่าจะไม่เกินอีก 2 หมื่นล้าน (ถ้าเกิน 2 หมื่นล้าน เรามองได้ 2 มุม คือ อย่างแรก “มั่นใจสุดโต่ง” อย่างสองคือ “เล่นโง่..หุ หุ หรือ ไม่ก็เล่นระยะสั้นแล้วออกปลายปีหลังรับปันผล”) ..ถ้าเอาตัวเลข Fund Flow จากต้นปีมาดู จะเห็นได้ว่า เงินที่เข้ามา peak ที่เดือนเมษายน 4.6 หมื่นล้าน --จากนั้นก็ panic sell “ขายหมู” ไปตอนเดือนมิถุนายน 7 หมื่นกว่าล้านบาท (สรุปเงินที่เข้ามาตอนต้นปี ฝรั่ง “ขายหมู” ออกไปเกินกว่าที่เข้ามา คือไปกินต้นทุนต่ำที่มีอยู่ใน port “แต่เขาก็ พูดแก้เขินว่า อ๋อ!! ขายทำกำไรบ้าง…หุ หุ “ฝรั่งขายหมูล่ะไม่ว่า”)
ดังนั้นให้จับตัวเลข Fund Flow ให้ดี ทิศทางมันค่อนข้างชัด แต่เดี๋ยวนี้มันหวือหวา “เกือบทั้งหมดที่เข้ามาใหม่ อาจจะเป็นเงินสั้น เหมือนตอนต้นปีก็ได้” --เอาเป็นว่า ถ้าฝรั่งกลับมาซื้อเป็นบวก ถ้าเลย 2 หมื่นล้าน เมื่อไหร่ต้องเริ่มระวัง เพราะส่วนที่เกินผมว่า ฝรั่งถอนออกหลังจากรับปันผลแน่ !!
งั้นเดี๋ยวไว้ผมจะ “จับตาดู Fund Flow แล้วมา Update ให้ต่อไป” ..ตอนนี้ตามน้ำไปก่อนคร้าบ…..
แปลเป็นภาษามนุษย์ก็คือ “ผมมองว่ากลุ่ม Blue Chip ที่ฝรั่งเล่นกำลังมาแล้ว รอบนี้พวกเจ้ามือที่กำลังปั่นหุ้นเล็กๆอยู่ ก็จะเลิกปั่น ปล่อยคนที่หลงกลติดดอย จากนั้นเขาก็จะโยกเงินมาอัดกันตามหุ้นที่ Fund Flow เล่น… จากนั้นถ้าตลาดจะแผ่ว หรือ Correction ก็น่าจะหลังจ่ายปันผลไปแล้วครับ” ..จบข่าว ณ วันที่ 4 สิงหาคม 2553!!
(ปล. ใครว่างช่วย Vote "Blog"--ให้ผมด้วยครับ ใกล้จะเข้ารอบแล้วอีกนิดเดียว!!..(คลิ๊กที่ link ทางด้านขวามือ)-- ยังเหลืออีก 6 วัน"ขอบคุณครับ")
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
7 ข้อ หุ้นก่อนดี มันซ่อนอยู่ตรงไหนกัน ? ซื้อหุ้นก่อนดี คือ ซื้อตอนที่มันยังไม่ดี พอมันดีเราก็รวยแล้ว 1. ‘เป็นหุ้นที่อยู่ในจุดที่โตได้‘ …จุ...
-
เข้าใจกลไกเศรษฐกิจที่ซับซ้อน แบบง่ายๆ ใน 6 ข้อ 1. ‘เงินเฟ้อ คือ ศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดในระบบทุนนิยม‘ …เงินเฟ้อแปลว่า เงินที่เราหาได้เก็บสะส...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
7 เรื่องเงิน ที่เปลี่ยนแปลง ตามโลกยุคใหม่ 1. ’เงินใช้แก้ปัญหาได้ง่ายและถูกที่สุด’ …ปัญหาต่างๆ จะง่ายขึ้น ถ้าใช้เงินแก้ (พูดโคตรแรง!!) 2. ‘...
-
6 กลโกง ในตลาดหุ้นที่ใช้หลอกคนมีความรู้แบบง่ายๆ เวลาเสียเงินเองนี่ก็ว่าหนักแล้ว …แต่ถ้าโดนหลอกนี่มักจะหนักกว่า ’เพราะ ความโลภ + เชื่อใจ’ ใ...
-
6 สิ่ง ที่ผมได้เรียนรู้จากนักลงทุนเก่งๆ 1. ‘การบริหารเงินสำคัญที่สุด‘ …หัวใจของการลงทุนคือ Money Management …มันไม่ใช่ว่าแค่หาหุ้นเก่ง เรา...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ขอบคุณครับ จะคอยตามติดสถานการณ์ วันนี้เผลอกดโหวตให้โดยที่ยังไม่ได้ล็อกอิน ก็เลยส่งคะแนนให้ได้แค่ +1 ยังไงพรุ่งนี้แก้ตัวใหม่นะครับ ขอให้โชคดีครับ :)
ตอบลบขอบคุณครับ
ตอบลบให้คะแนนไปแล้ว บทความเขียนดีครับ แต่อยากให้พูดถึงเรื่องของเงินทำเงิน สี่ด้าน พ่อรวยสอนลูก กับ ธุรกิจขายตรง หน่อยครับ เพราะ ผมไปฟังเค้าบรรยาย ขายตรง จะชอบพูดยกเรื่อง เงินสีด้าน มาอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งผมก็เคยอ่านในหนังสือเค้าแถบจะไม่ได้พูดถึงเรื่อง ขายตรงเลยนะ
ตอบลบเออแล้วอีกเรื่อง หนึ่ง ของธุรกิจ ประกัน เห็นเดียวนี้ ทางธนาคารหลายแห่งจะอ้างว่า ฝากเงินครบ ห้าปี สิบปี แล้วรอผลตอบแทนในปีที่ ยี่สิบ จะได้ถึง สามสิบ ถึงห้าสิบ เปอร์เซ้น นี้มันจริงหรือครับ อะไรมันจะดีขนาดนั้น แล้วทำไม ทางธนาคารไม่เอาไว้สะเองจะมาชวนเราลงทุนทำไม ไม่รู้ว่าทางคุณ ภาววิทย์ คิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
ผมเขียนเกี่ยวกับ Rich Dad อยู่ใน http://pawawitbook.blogspot.com ลองคลิ๊กดู(อยู่ในคลังบทความครับ)
ตอบลบที่ธนาคารบอกว่าได้นู่นได้นี่ ไม่มีใครการันตีครับ ส่วนตัวผมไม่เชื่อในการบริหารของธนาคารหรือกองทุน (ไม่ใช่เขาไม่เก่ง) แต่มันมีข้อจำกัดที่ทำให้ผลตอบแทนมันไม่ดี "กฏระเบียบที่เขาต้องเล่นไม่ make sense" ...ดูบริหารเองดีกว่าครับ
ขอบคุณครับ
ตอบลบเหอๆ ไม่เหนแม่นเลย
ตอบลบโม้ขริงๆ