วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553
เรื่องเล่าจาก Banker โดย ภาววิทย์ (ตอนที่ 2)
ผ่านเรื่องหนาวๆของเครื่องปั๊มเงิน คราวนี้มาดูจุดแข็งของธนาคารว่ามันคืออะไร!! ..ไม่เดาก็ถูกใช่ไหมครับ มันก็คือ "มั่นคง!!" เนื่องจากธนาคารเป็นเครื่องปั๊มเงินของระบบทุนนิยม ทำให้ทุก Boom & Bust จะมีธนาคารหรือสถาบันการเงินมีเอี่ยวด้วยเสมอ แต่ความแจ๋วก็คือ "มันเจ๊งยาก..ถึงยากสุดขีด" (ยิ่งถ้าธนาคารใหญ่ๆ ไม่ต้องพูดถึง มันเจ๊งไม่ได้!!)ถึงกับช่วงนึง อเมริกามีการออกมาตีแผ่ "รายชื่อลับ Too Big too Fail ของรัฐบาลอเมริกัน" ช่วงนั้นก็มีการฮือฮา!! กันยกใหญ่
เพราะถ้ามองจริงๆแล้วหลักการสำคัญที่สุดในการลงทุน คือค้องดูความมั่นคงของกิจการ ..ถ้าเรารู้แน่ว่ากิจการนี้มันไม่เจ๊ง "ผมบอกเลยว่า ยังไงเล่นหุ้นนี้ก็ไม่เสียเงิน!!" เพราะถ้าเราสังเกตให้ดีตลาดหุ้นก็แบ่งเป็นแค่ 2 ช่วงใหญ่ๆ ก็คือ Bull กับ Bear (ช่วง Bull มันก็คือ Bubble งั้นพูดได้เลยว่า ถ้ากิจการนั้นๆมั่นคงพอ มันก็ต้องสามารถผ่าน Bear มาเจอ Bull-- ก็อย่างที่รู้ๆกันว่า Bull Market ใครๆก็ได้กำไร "หลักการซื้อแบบ Too Big too Fail ก็คือซื้อทุกรอบ ที่มันเข้าสู่วิกฤตนั่นเอง"
ถ้าจะให้พูดกันจริงๆ บ้านผมนี่เป็นคอหุ้นธนาคาร(ก็เล่นรับใช้ธนาคารมา 3 ชั่วอายุคน ยังไงก็เกมบังคับน่ะครับ) แต่ซื้อตอนถูกเท่านั้นนะ ไอ้ตอนที่ชอบสุดๆก็ช่วงปี 2000 ที่หุ้นธนาคารกรุงเทพลงไปแตะ 20 บาท SCB เหลือ 10 กว่าบาท Kbank ก็ประมาณ 10 บาท ..เฮอะๆ!! Too Big too Fail ..บ้านผมอัดเต็มแม็ค!!(ยิ้ม) "ก็ช่วงนั้นก็อิ่มกันตามยถา กันเลยทีเดียว!!"
(แต่มีข้อควรระวัง ช่วงต้มยำกุ้ง ตลาด Crash แบบ "W Shape"นะ คือปี 1998 หุ้น BBL ลงไปแตะ 20 กว่าๆ จากนั้นพอปี 1999 มันก็ Rebound ขึ้นถึงเกือบ 90 แล้วพอปี 2000 ก็ร่วงลงมาใหม่ที่ 20 กว่าบาท..) แต่คุณเห็นไหมละครับว่าทั้ง "W" ในครั้งนั้น--ไม่ว่าจะเข้าตรงไหนมันก็ยัง "โคตรถูก" ..ถึงคุณห่วยจริงๆดันไปเข้าปี 1999 ที่ราคา 90 บาท (คุณลองดูราคาตอนนี้ซิ 140 บาทแล้ว..ยิ้มทั้งนั้น)
จะเห็นได้ว่า W ครั้งก่อน ถูกกว่า "ตลาดหุ้นปี 2010 อีก" แต่ทำไมตอนนี้นักวิเคราะห์ออกมาฟันธงกันว่าตลาดปี 2010 ยังไปได้อีก "แพงได้อีก"-- ก็เพราะ Inflation ไงครับ!! และเจ้า inflation มันก็คือผลิตผลของ "ระบบทุนนิยม + ธนาคาร --ร่วมทุนสร้าง..ว่างั้น!!)
ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กมาก ดังนั้น ระบบเศรษฐกิจทั้งหมด หากถ้าเอาสายมาลากเชื่อมกัน จะล้วนมีจุดกำเนิดจาก 3 ธนาคารใหญ่ทั้งนั้น เรียก Connect จุดนี้ว่า "ชนวนแห่งเศรษฐกิจ" ฮ่าฮ้า!! มันก็การเชื่อมโยงของระเปิดเวลานั้นเอง และเป็นที่มาของ Cycle ของธุรกิจต่างๆ ที่ผลัดกัน Boom & Bust วนเวียนกันไปเรื่อยๆ อาศัยธนาคารเป็น เครื่องกระตุ้น ผ่อนแรง หรือ ชี้ขาด
(เรื่องสมมุติ)
ภาววิทย์ : "คุณสมชาย ธุรกิจคุณแย่มากๆ เราคงไม่สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มให้คุณ!! ดังนั้น Go to Hell!!"
คุณสมชาย : ""What!! the..(FucXX!!)" (ในใจคุณสมชายรู้ดีว่า ถ้าได้เงินต่อ มันก็เปรียบเสมือน การต่ออายุสายชนวนทางเศรษฐกิจของกิจการคุณสมชาย ..แต่!!ธนาคารไม่คิดเช่นนั้น-- "ตัดชนวนเศรษฐกิจเส้นนั้นทิ้งไป!!")
นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เป็นประจำ เพราะถ้าเรามาวิเคราะห์กันให้ดี ไม่ว่าธุรกิจใดมันก็ย่อมมี Cycle ทั้งนั้น ดังนั้น หากคุณเป็นธนาคารจอมโหด (ฉายา:"นักล่าแห่งทุนนิยม") คุณก็สามารถใช้ทุก Downturn ของ Cycle "ตัดน้ำเลี้ยง ..ไปเชิญกลุ่มหมาป่ามา ..จากนั้นก็รุมกินโต๊ะ" สนุกสนานจริงๆ
จุดนี้หลายคนอาจ งง ว่า "หมาป่าของระบบเศษฐกิจ คือใคร" ..มันก็คือกลุ่ม Shadow Banking ไง ที่จริงๆแล้วมันก็คือ Sub set ของธนาคารซึ่งแยกตัวออกมาเพื่อหากำไร "อย่างสุดโต่ง" แล้วนำกำไรเหล่านี้กลับคือสู่ เศรษฐีผู้ชักใยอยู่ข้างหลังระบบ "ชนวนแห่งเศรษฐกิจ" (กลุ่ม Shadow Banking ที่ผมพูดถึงก็คือ Investment Banker, Private Equity , Hedge Fund ต่างๆ ..จริงๆมันก็ตั้งชื่อให้มันต่างกัน แต่สุดท้ายพวกนี้ก็คือ หมาป่าของระบบเศษฐกิจ อยู่ดี)
Goldman Sachs เป็นผู้จุดชนวน Sub prime แต่ตัวเองรอด "คนจุดมันก็รู้ซิ มันถึงหนีทัน!!" หรืออย่าง The Carlyle Group กลุ่ม private equity ที่รวมเอาผู้นำระดับสูงของโกลอย่างอดีตประธานาธิปดีไอ้กัน Bush ผู้พ่อหรืออดีต CEO ใหญ่ๆอย่าง Louis Gerstner (จริงๆช่างมันเถอะ จะเป็นใครก็ตาม ...คือสรุปว่า เป็นการรวมตัวของนักล่า
"หมาป่าของระบบเศษฐกิจ" ละกัน)
นี่แหละครับภาพคร่าวของ "ชนวนแห่งเศรษฐกิจ" ซึ่งเข้าใจในแบบชาวบ้านว่า มันคือระเบิดเวลาที่เกือบทุกธุรกิจในโลก เชื่อมสายต่อมายัง "ธนาคาร(รวมถึง Shadow Banking)"..ฮึ ฮึ รู้สึกว่าธนาคารนี่มันมีอะไรลึกกว่า "ฝาก-ถอน-กู้" จริงๆนะครับ
เอ๋อ!! ธนาคารกรุงเทพกำลังรับสมัครพนักงานอยู่อย่างเมามันส์ ลองมาเป็นหมาป่ากันบ้างไหม!! ว่าแต่ อย่าไปมองเงินเดือนล่ะ กั๊ก กั๊ก!! เมืองไทยทำไมหมาป่ามีแต่ซี่โครงล่ะ ฮ่า ฮ่า...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 ความแตกต่างระหว่าง ลงทุนหุ้นไทย กับ หุ้นโลก 1. ‘Level Playground’ …เดิมทีคนที่สามารถไปลงทุนต่างประเทศต้องเป็นคนรวยมากๆ ใช้เงินเยอะ แต่ปัจ...
-
7 สิ่ง ที่จะต้องดูในการเล่นหุ้นไทยขาขึ้น รอบใหม่ 1. ‘เด้งจากหุ้นใหญ่‘ …ในการเริ่มขาขึ้นรอบใหม่ จะเริ่มจากหุ้นใหญ่ เพราะ เม็ดเงินต่างๆ จะเข้...
-
7 ข้อควรรู้ การลงทุนยาว กับ การเทรดสั้น อะไรรวยเร็วกว่ากัน 1. ‘การเทรดได้เงินเร็วกว่า’ …แต่ข้อเสียก็คือ เสียเงินเร็วพอๆ กัน ถ้าจับจังหวะไม่...
-
7 เรื่อง เบื้องลึกเบื้องหลังของคำว่า ‘เงิน’ ในโลกปัจจุบัน 1. ‘เงินในปัจจุบัน เป็นเงิน Fiat’ …เงิน Fiat สร้างจากหนี้ แปลว่า เงินในปัจจุบัน ไ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"ฉันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" นั่นคือ ความปรารถนาอันดับหนึ่ง จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ใช่!! ใครๆ ก็อยากเป็น ...
-
ถ้าเทียบ 2 ประเทศนี้ ผมชอบจีน มากกว่า เพราะจีน ถึง แม้จะมีความแตกต่างระหว่าง "คนรวย"กับ "คนจน"มาก แต่ก็ไม่มากเท่าอินเดีย...
-
“อยากเอาเรื่อง Alpha มาเล่าให้ฟัง” ...ในทุกสิ่งมีชีวิต จะมีจ่าฝูง มีหัวหน้า เช่น ฝูงลิง ฝูงหมาป่า ก็จะมีจ่าฝูง ...เรื่องที่น่าสนใจก็คือ ไ...
-
8 ข้อต้องดู นักเล่นหุ้นสาย growth เดิมทีเล้นหุ้น value ก็ปันผลดีอยู่แล้ว ...แต่ยุคนี้ ควรคัดหุ้น growth เข้าพอร์ตด้วย เพื่อเร่งให้พอร์ตเราโ...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น