แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เรื่องเล่าจาก Banker โดย ภาววิทย์ (ตอนที่ 1)


เล่าเริ่มตั้งแต่สมัยคุณตาเลยละกัน ..เรื่องมันมีอยู่ว่า ตระกูล "รมยะรูป" ทางด้านคุณตาผม รับใช้ธนาคารกรุงเทพมาถึง 3 ชั่วอายุคน...คุณตาเป็นมือขวาท่านเจ้าสัวชิน บุกเบิกธนาคารกรุงเทพตั้งแต่เป็น "แบงค์ห้องแถว" ทุนตั้งแต่ไม่กี่สิบล้าน ..จนวันนี้มูลค่าธนาคารปาเข้าไป 2 แสนกว่าล้านบาท (เอ๋อ!! ลองดูๆ Growth รู้สึกว่ามันโตอย่าน่าใจหาย ดังคำกล่าว "จากสิบเป็นแสนล้าน จากงาน 60 ปีแห่งอาณาจักรบัวหลวง..เท่ห์ไหม!!")

รุ่นที่สองรุ่นรับใช้คุณ ชาตรี โสภณพนิช.. แม่+ลุง+ป้า+น้า (ทำธนาคารกรุงเทพเกือบทุกคน)..จนถึง "ยุคผม"รับใช้คุณโทนี่ (นายธนาคารที่หน้าใสที่สุดในวงการ..ไม่เชื่อไปดูรูปได้!!) ..โอเค เรื่องราวของธนาคารก็จบลงเพียงเท่านี้..(งง)

แฮะ แฮะ!! ล้อเล่น ..(ความมันส์มันเริ่มตรงจุดนี้ต่างหาก)-- หลายคนสงสัยว่าทำงานธนาคารทำอะไร วันๆฝากถอน ปล่อยกู้ ใช่หรือไม่ "ใช่ !!" แต่ความมันส์มันอยู่ที่ Logic ของธุรกิจต่างหาก ..ผมว่าหลายคนตั้งคำถามในใจอยู่แล้วว่า ธนาคาร กับ ความรวย มันเป็นของคู่กันหรือเปล่า!!

"ถูกต้อง" Logic ของธนาคารมันเริ่มจาก "เครื่องผลิตเงิน -- Money Printing Machine!!" ..เอ๋อ!! ไม่ใช่เครื่องพิมพ์เงินแบบโรงกษาปณ์นะครับ แต่ไอ้เครื่องพิมพ์เงินที่ว่านี่ "มันคือเครื่องที่สร้างเงินจากอากาศ และก็ให้กู้เป็นอากาศ" --ถามหน่อยว่าวันนี้คุณทำ Transaction โดยที่ไม่ได้จับเงินเลย มากน้อยเพียงใด (มากสุดๆ)

Transaction ของธนาคารส่วนใหญ่กว่า 90% "คุณไม่ได้สัมผัสเงินเลย มันคือตัวเลขที่วิ่ง ไหลไปมา" หลายคนตั้งคำถามว่า เอ๋!! อย่างนี้ถ้าเกิดคอมพิวเตอร์เจ๊ง แล้วระบบมันเกิดรวน จากนั้นมันก็โอนเงินมาใส่บัญชีผม 1 พันล้าน "ถามว่าจะทำยังไง!!"

..ถามได้ ผมก็ก็รีบถอนอย่างไว แล้วหายตัวไปเลยไง อิ อิ ...เอาเป็นว่าประเด็นนี้ เรารอให้เกิด Hacker เทพ กับสงครามเคลื่อนแม่เหล็กก่อน ตอนนี้อย่าเพิ่งก้าวไปคิดถึงขั้นนั้น เดี๋ยวคนจะแห่มาถอนเงิน มีหวังผมได้ตกงานแน่!!

หลายคนสงสัยว่า "อ้าว!! แล้วถ้าทุกคนเกิด Panic แล้วมาถอนเงินออกจากธนาคารพร้อมกัน อะไรจะเกิดขึ้น" --"เจ๊ง!! ก็เพราะธนาคารไม่ทางที่จะมีเงินพอ..ทำไมล่ะ!!"-- คุณลองคิดดูนะ สมมุติผมเริ่มต้นจากเงิน 100 บาท ฝากเข้าธนาคาร ..ธนาคารต้องสำรองเงินตามกฏของแบงค์ชาติไม่ถึง 10% นั่นหมายความว่า อีก 90 บาท ธนาคารสามารถปล่อยกู้ต่อไปได้ --ถึงจุดนี้ผมถามคุณว่า ถ้าธนาคารปล่อยกู้ทั้ง 90 บาทออกไป จะทำให้เงินทั้งหมดเป็นเท่าไหร่!!

"ถูกต้อง" ถ้าธนาคารปล่อยกู้ไปทั้งหมด 90 บาท มันหมายความว่า ในระบบเศรษฐกิจตอนนี้เงินที่มี ทั้งหมดรวมกันจะเป็น 190 บาท (พูดอย่างนี้หลายคนตกใจว่า เฮ้ย!! ตอนแรกมี 100 บาท แล้วตอนนี้เพิ่มเป็น 190 บาท ...จุดนี้ก็เพราะทุกคนที่กู้ไป 90 บาท จริงๆแล้วเขาต้องคืน "ดังนั้นในอนาคตเขาต้องเอาเงินมาคืน พร้อมดอกเบี้ย") ..ขอย้ำนะครับ ว่าคนที่กู้เงินธนาคารไปต้องเอามาคืนพร้อมดอกเบี้ย นั้นแสดงว่า จริงๆแล้วเงินที่ธนาคารจะได้กลับคืนมาในอนาคตมันคือ 90 บาท บวกดอกเบี้ย!!

คุณเข้าใจภาพที่ผมพูดไหม!! สรุปเงิน 100 บาท ธนาคารสร้างให้เป็น 190 บาท++ จากนั้นคนอื่นๆก็ทำอย่างนี้บ้าง ทุกคนทำ ธนาคารสร้างเงิน ..คนมาฝาก ..ธนาคารสร้างๆๆๆ ..คุณเห็นหรือยังว่า ธนาคารสามารถสร้างเงินจากอากาศ ..เท่ห์ไหม!!

"ไม่เลย..ไม่เท่ห์เลย" เพราะประเด็นมันอยู่ที่ว่า ทุกๆจำนวนเงินที่สร้างขึ้นมาใหม่ มันหมายถึง Supply ของเงินที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ Asset ในโลก ไม่ว่าจะเป็น ที่ดิน ,ทอง , อาหาร, น้ำมัน คือทุกอย่างน่ะ มันโตตามเงินที่มัน multiply เพิ่มขึ้นไม่ทัน!!-- ผลก็คือ "เงินเฟ้อ--Inflation"(เงินลดค่า แต่ของแพงขึ้นเรื่อยๆ)

ถามว่าวันนี้ผมในฐานะ Banker ผมรู้แล้วผมจะแก้ไขอย่างไร (แก้ไม่ได้!! จะไปแก้อย่างไรเล่า!!) นี่คือรากฐานของทุนนิยม คือมันสร้างให้เงินลดมูลค่า ซึ่งจะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับ Inflation ยิ่งถ้าการบริโภคเพิ่มขึ้น แต่พืชผล อากาศบ้าบอ เกิดภัยธรรมชาติ รถยนต์มาแย่งอาหารคน ข้าวโพด อ้อย ไปทำ Ethanol ผนวกกับภาพของธนาคารกลางทั่วโลกอัด Supply ของเงินใส่เข้ามาในเศรษฐกิจ ที่เขาเรียกว่ากระตุ้นเศรษฐกิจ..จริงๆมันก็คือการกระตุ้น inflation ให้มันแรงๆ ๆ (ฆ่าตัวตายชัดๆ)

ทางแก้มีอยู่ทางเดียว นั่นก็คือ "การลงทุน เพื่อรักษาสถานะความรวยของคุณไว้" ..ผมใช้คำว่า แค่รักษานะ (ยังไม่ง่ายเลย!!) เพราะคนที่ลงทุนเก่งที่สุดในโลกอย่าง Warren Buffet ยังทำผลตอบแทนต่อปี Average ในระยะยาว( 40 กว่าปี) ยังไม่ถึง 25% ต่อปีเลย ..ดังนั้นตอนนี้ ใครที่กำไรอู่ฟู่ (คุณรักษามันให้อยู่นะ) ..โจทย์นี้ไม่ต้องตอบผม อีกสิบปี Port ที่คุณบริหารมันจะตอบคุณเองว่า "คุณเดินทางถูกหรือเปล่า"

ความมันส์ มันอยู่ตรงที่ การลงทุนจริงๆ คุณแทบไม่มีเวลาฝึกฝนเลย เพราะทุกช่วงเวลาคุณเจอเหตุการณ์หรือ Scenario ที่เปลี่ยนไปตลอดนะ ตอนนี้เข้าสู่ Commodity Cycle ผมพูดอย่างนี้หลายคนยัง งง อยู่เลยว่าผมพูดอะไร!!(เพราะวันก่อนแม่ยังสอนอยู่เลยว่าจะรวยต้องซื้อที่ดิน ..เชื่อแม่ดีไหมเนี่ย เอ๊ะ!! หรือไม่เชื่อดี..)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ