Case Study ของ BP เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ตอนนี้ BP ตั้ง CEO ใหม่คือนาย Robert Dudley (ชาวอเมริกัน) ขึ้นมาแทน Tony Hayward ...จุดนี้เริ่มจากความตลก คือบริษัท BP ใช้วิธี "Blame ไอ้กัน..ใช้ไอ้กัน..ก๊ากขำ"
--วิธีการที่นาย Dudley ใช้แก้ปัญหาคือ การเพิ่มความเสี่ยงให้กับ BP (คือพูดง่ายๆว่า ทำเหนือความคาดหมาย โดยแทนที่ BP จะลดความเสี่ยง เลิกขุดเจาะน้ำมันในน้ำลึก กลายเป็นว่า ต่อไปนี้ BP จะ Focus ไปที่การขุดเจาะน้ำลึก ..โดย BP จะทำการตัดขายส่วน Cash cow ในปัจจุบัน"ส่วนขุดเจาะน้ำมันบนพื้นดินปกติ" -- เพื่อเอาเงินมาชดเชยค่าเสียหายในส่วนของน้ำมันรั่ว จากนั้นเงินที่เหลือก็จะเอามาสร้างความแข็งแกร่ง ในส่วนขุดเจาะน้ำลึกของ BP
ถ้ามองผิวๆ เราอาจจะบอกว่า Dudley "บ้าไปแล้ว!! แก้ปัญหาโดยการเพิ่มความเสี่ยงมากขึ้นไปอีก" ..แต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะถ้ามองกันให้ดีแล้ว อนาคตของธุรกิจน้ำมันต้องพึ่งพา การขุดเจาะน้ำลึกเป็นหลัก(เนื่องจากปัจจุบัน น้ำมันที่ขุดเจาะง่ายๆ เราได้ขุดเจาะออกมาเกือบหมดแล้ว ดังนั้น อนาคตน้ำมันจาก Source ปกติจะมี yield ที่ลดลงเรื่อยๆ)
อย่างในประเทศ Brazil ในปัจจุบัน เราก็ได้เห็นแล้วว่า ได้มา Focus ที่การขุดเจาะน้ำมันในน้ำลึกเป็นหลักแล้ว ..อีกประเด็นที่มองข้ามไม่ได้ ก็คือ น้ำมันที่อยู่ภายใต้ผืนน้ำแข็งขั่วโลก (ซึ่งคาดกันว่าจะมีอยู่อย่างมหาศาล ทั้ง Russia และประเทศแถบขั่วโลกเหนือ"Arctic Ocean" เหล่านี้กำลังแย่งดินแดนกันอยู่ ..เพราะคาดการณ์กันว่า น้ำแข็งจะละลายมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้อนาคตแล้ว การขุดเจาะน้ำมันหลักๆของโลกจะมาจาก Source นี้แทน) -- "จะเห็นได้ว่า พูดไปพูดมา ก็ต้องอาศัยเทคโนน้ำลึก ซึ่ง BP เป็น Leader อยู่"
จุดนี้ผมมองว่านาย Dudley กำลัง "พลิกวิกฤติน้ำมันรั่วครั้งนี้ให้เป็นโอกาส โดยการตัดธุรกิจที่เป็น Cash Cow แบบไร้อนาคตออกไป แล้ว Focus ในส่วนของ Future opportunity จริงๆ" ....แต่!! (มันเสี่ยง ..มาก!!)
ช่วงที่น้ำมันรั่วของ BP "หุ้นตกกระจาย" ...จากนี้ไป มันต้องดูว่าหุ้นจะ Turn around อย่างไร เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจยิ่ง
แต่ส่วนตัวผมเชื่อในการผลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส มองในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้มอง ...มันช่างน่าสนใจจริงๆ!!
ปล.โค้งสุดท้าย!! ช่วย vote ให้ blog ผมด้วยครับ ตอนนี้ไต่ขึ้นที่ 2 แล้ว--แต่"ชะล่าใจไม่ได้" ...ขอบคุณครับ!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น