จะเห็นได้ว่า คนที่เจ๊งจริงๆ มันอยู่ที่ว่า คุณสามารถใช้อาวุธได้เหมาะกับ สถานการ์ณหรือไม่ เช่น หากคุณต่อสู้ในที่แคบ การใช้มีด อาจดีกว่าปืนด้วยซ้ำ ..แน่นอน ระเบิดมันได้ผลจริง แต่ถ้าใช้ในวงแคบ “คนใช้ก็ไม่รอดเหมือนกัน…เอิ๊ก ๆ ๆ”
ผมจะยกตัวอย่างการใช้อาวุธ (ในมุมมองของผมนะครับ ..เป็นความเห็นส่วนตัว อาจจะผิดก็ได้นะ..ดูๆกันไป)

(จุด Peak ของตลาดในยุค Asian Miracle 2 นี้มีโอกาสที่ SET วิ่งเลย 2,000 จุด จากการดู Fibonacci ที่ลากขึ้นไปแตะ Target ที่ SET 2,800 จุด ซึ่งการใช้ Technical ประกอบกับ Fundamental ในประเด็นของเงินเฟ้อที่กำลังก่อตัว ..มันจึงเป็นการทำนายตลาดที่ไม่ Over สักเท่าใด "แต่ไม่มีใครรู้อนาคต ถ้ารู้เป็นเทพไปแล้ว..อิ อิ ก็รอดูกันไป จะผิดจะถูกก็ช่วยกันขำ เอิ๊ก ๆ ๆ")
(อย่างในกราฟ) ผมเห็นว่า เวลาขาขึ้น “ถ้าคุณมั่นใจว่าตลาดจะขึ้น ก็ควร Buy & Hold แนว Value Investor (VI) นั่นแหละครับ” ….แต่ถ้าตลาดมันเข้า ขาลง หรือ อยู่ในภาวะไม่แน่นอน ก็ควรจะใช้ Technical
อย่างปี 2008 เป็นต้นมา ผมมองว่า “ตลาดอยู่ในขาขึ้น” (จริงๆเศรษฐกิจมันไม่ได้ดีหรอกครับ เพียงแต่ เงินมันลดมูลค่า รัฐบาลพิมพ์เงินออกมาเยอะ ..ค่าเงินดอลล่าห์ก็อ่อนลงเรื่อยๆ ..สรุปเงินไม่มีที่ไป ก็เลย มีนักลงทุนมากมาย โยกเงินเข้ามาในตลาดเอเชีย (ก็เพราะเศรษฐกิจเราดีกว่า อเมริกาและยุโรป).. ดังนั้น ตั้งแต่ปี 2008 เป็นต้นมา “ผมเลยมองว่า ตลาดเข้าสู่ขาขึ้น …ดังนั้น ผมก็จะใช้วิธี Buy & Hold สำหรับเงินส่วนใหญ่ของผมนั่นเองครับ”
ฮึม!! แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Technical จะไม่ดีนะครับ “อย่างที่บอก คุณเลือกที่เหมาะกับคุณ ถ้าใช้มีดไม่เป็นก็อย่าใช้ ..เดี๋ยวมันบาดมือครับ (ส่วนมากเวลาใช้ไม่เป็น มันบาดคอขาดเลย..อิ อิ)”
พี่วิทครับ qe2 ทีออกมาเหมือนเมกาทำสงครามเงิน สร้างฟองสบู้ลูกเบิ้มๆๆโยนใส่ asia เราชิมิ๊ครับ แบบนี้ถ้าดอกเบี้ยไทยขึ้น หุ้นกะคอมมโม จะเบรคขึ้นไปต่อได้มั๋ยครับ
ตอบลบใช่ครับ หุ้นกับ Commodity พุ่งกระจายแน่ปีหน้า เพราะ QE2 นั่นแหละสาเหตุหลักของการพุ่งเลยครับ!! ..รอลุ้นกัน
ตอบลบ