แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

“ภาววิทย์” คุยกับ “ป๋ากิ้ง” ตอนที่ 3 รู้ทันเศรษฐกิจ New Economy ก็รวย!!


ป๋ากิ้ง : ปีนี้ข่าวจากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ บอกว่าปี 2553 มูลค่าการ Take Over กิจการแตะ 8.3 หมื่นล้าน ..อย่างนี้ป๋าแพ้ท คิดอย่างไร

ภาววิทย์ : ประเด็นขอเกริ่นนิดนึง ช่วงนี้ธนาคารกรุงเทพทำเป็นเก็บตัวเงียบ ทำชิว..ล่าสุดไปคว้า มือเศรษฐกิจระดับเทพ ดร.กอบศักดิ ์ภูตระกูล (พี่กอบ) นัก Economist ชื่อดังจาก แบงค์ชาติ ผู้มีประสบการณ์ โชคโชน ในตลาดทุน โดยเขาไปทำวิจัยในตลาดหลักทรัพย์อยู่ช่วงหนึ่ง พร้อมกับจัดรายการ Monkey Channel “ผมเชื่อว่าหลายคน คุ้นหน้าคุ้นตาพี่กอบดี”

…โชคดีตกเป็นของภาววิทย์ ฮ่า ฮ่า ที่ได้เข้าไปศึกษา Project ใหม่ของธนาคารกรุงเทพ ในการ Explore โอกาสของการที่บริษัทไทยจะได้ประโยชน์ จากการรวมตัวของ AEC (ASEAN Economic Community) “คือ จุดเด่นของธนาคารกรุงเทพ คือ สาขาต่างประเทศ เพราะธนาคารกรุงเทพ ถ้าเทียบแล้วใน ASEAN เรามีเครือข่ายสาขาครอบคลุม รวมทั้งล่าสุด เราได้รับอนุญาตจากจีน ให้เปลี่ยนสถานะจาก ธนาคารนอก ให้เป็นธนาคารท้องถิ่น ( จุดนี้ธนาคารต่างๆ ทั่วโลกอยากได้แต่ทำไม่ได้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณ ท่าน ประสงค์ อุทัยแสงชัย ท่านรอง ของธนาคารกรุงเทพ ที่พาเราไปจนได้เป็นธนาคารท้องถิ่น …นี่แหละ Value แฝง ที่สามารถเปลี่ยนเป็น ทอง ฮ่า ฮ่า)

กลับมาที่พี่กอบ แกเข้ามาเป็น “ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ EVP ..ใหญ่โคตรว่างั้น!!” ..ผมก็ถือโอกาสนี้ ฮ่า ฮ่า ตีซี้ หาข้อมูลทำวิจัยของผมต่อ …สรุป จากการงมโข่ง วิจัยข้อมูลแบบของผม ก็ได้รับการ ช่วยเหลือในเรื่องมุมมอง โดยพี่กอบ (เกริ่นซะยาวเลย เดี๋ยวจะ มาว่า การวิเคราะห์ของผม เป็นศิษย์ไม่มีครู …ฮ่า ฮ่า ไม่ใช่ “มีครูครับ!!”)

สิ่งที่ผมกับพี่กอบคุยกัน มันค่อนข้างจะ Agree ในมุมที่ว่า “เศรษฐกิจในภาพใหญ่มันจะไปอีกเยอะ” …ผมเองไม่ใช่คิดอย่างเดียวนะ ผม Bet กับการ Boom ในครั้งนี้ด้วย …ถ้าใครเคยอ่านหนังสือผม แกะรอยหยักสมอง รวยหุ้นหมื่นล้าน ไม่ว่าจะเป็น เล่ม 1 หรือ 2 จะรู้เลยว่า ผมนี่หลักๆ ลงทุนแบบ Value Investor คือ ถือยาว … “อันที่จริงแล้ว สารภาพเลยว่า ผมเป็นคนใจร้อน แต่ไอ้ที่สามารถทนถือยาวได้ เพราะ ภาพเศรษฐกิจที่เรามองไป มันชัดเจน คือ มัน Bullish สุดขีดว่างั้นเถอะ”

มุมที่พี่กอบ เสริมมา คือ พี่กอบมองว่า การรวม AEC (ASEAN Economic Community) มันมีนัยยะต่อการเติบโตแบบก้าวกระโดดไปอีกขั้นของเอเชียอย่างแน่นอน “ว่าแล้วพี่กอบแก ก็หยิบ แผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติฉบับที่ 11 ออกมาวางบนโต๊ะ แล้วบอกว่า ..แพ้ท แกเอาไปอ่าน !!”

“คุณอยากรู้ไหมล่ะว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 ด้านเศรษฐกิจ เขาพูดว่าอะไร !!” (ไม่อยากรู้ !!.. อ้าว ซะงั้น) โดยภาพมัน เป็นอะไรที่ผมพอจะสรุปในภาพรวม ก็คล้ายๆกับที่ผมนำเสนอในหนังสือ แกะรอยหยักแหละว่า ตอนนี้ใครๆก็มองว่า “เงินมันล้นระบบ มันกงเต็ก” แต่ประเด็นคือ มันยังได้เงินเฟ้อ เพราะมันยังไม่ได้ถึงมือประชาชน ..แต่ไอ้การที่รัฐบาลพยายาม เร่งประชานิยม (แจกเงินๆ) มันหนีไม่พ้นเงินจะต้องถึงมือ ประชาชนอยู่ดี และเมื่อวันนั้นมาถึง “ก็สยองกันล่ะ” ….ทุกวันนี้ราคาทอง และ Commodity มันวิ่งหนี เงินเฟ้อ หลายคนก็โดดเข้าไปเล่นทอง ตามๆกันไป มันก็ดีอยู่หรอก แต่ประเด็นคือ มนุษย์เราไม่เคยจำ ว่าอะไรที่มันร้อนแรง ไม่เคยมีอะไรเลยที่รอดพ้น จากเลือดสาดในตอนจบ (ถูกต้อง มันรวมถึงทอง และหุ้น และที่ดิน และทุกอย่าง ..ประเด็นคือ อะไรที่คนส่วนใหญ่ชอบ “ให้คุณอยู่ให้ห่าง”)

ผู้ใหญ่ชอบสอนให้เดินตามผู้ใหญ่หมาไม่กัด แต่ผมสังเกตุนะ เวลาหมามันกัด มันดันไม่กัดผู้ใหญ่ “มันกัดเราซะงั้น” (ก็ทำไงได้ ผู้ใหญ่เขาอยู่วงใน มีอะไรเขารู้ก่อน มีอะไรเขาหนีทัน แต่เราดันหนีไม่ทัน สรุปใครซวย!! ฮ่า ฮ่า ขำ) ดังนั้น “ยุคนี้ผมเชียร์เลย คนรุ่นใหม่ คุณต้องคิดต่างและทำต่าง ยิ่งทำต่างจากคนส่วนใหญ่ ผมว่ายิ่งปลอดภัย ..อย่างการลงทุนนี่ ตราบใดที่คนส่วนใหญ่ ยังเล่นสั้น ซื้อๆขายๆ ผมก็จะถือยาว …. “แต่วันใดที่ทุกคนในตลาดมีความเชื่อม่ัน และอยากจะถือหุ้นยาวๆ ..วันนั้นแหละ ผมจะขนเงินทั้งหมดออกนอกตลาด เอาไปฝากธนาคาร” …คิดง่ายๆ แค่นี้ว่า ราคา ของทุกสิ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับ Demand & Supply คุณเข้าใจ “ชาตินี้ไม่มีจน ..ไม่ว่าตลาดจะผันผวนเท่าใดก็รวย”

นอกเรื่องซะยาว ..สรุปเลยว่า การ Take Over ของกิจการต่างๆ มันแสดงว่า ตลาดของเรามี Potential อย่าง จีน ที่เข้ามาซื้อ ACL หรือ อย่าง มาเล เข้ามาซื้อ CIMBT “คุณว่าเขาโง่ จะขนเงินมาทิ้งเหรอ …ไม่มีหรอก นั่นแสดงว่า เขาเห็นโอกาส ของการรวมตัวของ AEC ดังนั้น ถ้าเขามาใช้เราเป็นฐาน มันก็ทำให้เขาได้ประโยชน์จากโอกาสของเอเชียที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2015 “ใครตกรถ การลงทุนรอบนี้ ชาติหน้าก็ไม่รวย คุณจำ Asian Miracle ครั้งที่แล้วได้ไหม ..นุ่น!! เกือบ 20 ปีก่อน จนบัดนี้ ประเทศยังไม่ไปไหนเลย …รอบนี้เอเชียราคาจะ Miracle ของจริง และแรงกว่ารอบแรก …ขอย้ำนะว่าว่ารอบนี้ “ของจริง” คุณรอดูละกันว่า … “ผมคิดจริง และผมก็เอาเงินทั้งหมด ของทั้งครอบครัวผม ลงทุนจริง” ดังนั้น ผมไม่ใช่ นักวิเคราะห์ แนวน้ำไหลไฟดับ พูดมั่วๆเผื่อถูก ก็ดัง ..นั้นไม่ใช่ผม “อย่างผมมันต้องกล้า คุณกล้าพูด คุณก็ต้องกล้าทำ”

ป๋ากิ้ง : โอโห!! ฟังแล้วอยากลงทุนตามเลย ป๋าแพ้ท ลงทุนอะไรบ้าง บอกได้ไหม

ภาววิทย์ : โถ!! ไม่ต้องบอกหรอก ไปอ่าน Blog ผม หรือ จะซื้อหนังสือ แกะรอยหยักสมอง ทั้งภาค 1 และภาค 2 ผมก็บอกไม่มีกั๊กอยู่แล้ว ….เอ้า!! เรามารวยด้วยกัน

แต่คุณรู้ไหม เคล็ดลับความรวยที่แท้จริงอย่างสุดโต่งที่ผมเพิ่งจะเข้าใจ มันคืออะไรรู้ไหม “ใช่!! มันคือ คนที่จะรวยได้คุณต้องกล้าที่จะรวย …ไอ้ลงทุนแบบหุ้นขึ้น 5 บาท แล้ววิ่งขาย คุณคิดว่ากี่ชาติ ถึงจะรวยอย่าง Warren Buffett “ไม่มีทาง” ประเด็นมันคือ Timing คือ คุณต้องเข้าใจ Cycle ใหญ่ และถ้าคุณเล่นได้ตรงรอบของ Cycle ใหญ่ ..ผมบอกได้เลย คุณจะรวยแบบ โคตรๆ ๆ (ขอกระซิบนิดนึงนะ ..ปี 2010 มันเพิ่งเร่ิมต้นของ Cycle รอบใหญ่ “ถ้าใครไม่เชื่อพรุ่งนี้คุณมาพนันกับผม คุณไปตลาดหุ้นเลยนะ แล้วคุณลองเปิด short สวนทางผม … “มันส์แน่!!””

และอีกเคล็ดลับสุดยอดเลย คุณรู้ไหมอะไร “ฮึม!! ใช่ถูกต้อง ..ไอ้เงินที่สามารถจะทำกำไรได้สูงสุด คือ เงินที่เป็นเงินนอนเท่านั้น และยิ่งจะดีกว่านั้น ถ้านั้นเป็นเป็นเงินที่คุณสามารถตัดมันไปจากชีวิตคุณได้”
ดังนั้น ยิ่งคุณสามารถ ปล่อยวางได้ ..คุณยิ่งได้ นั่นเอง!! (มันคือสัจธรรมของโลก ที่ผมเชื่อว่า Warren Buffett เข้าใจเป็นอย่างดี)

3 ความคิดเห็น:

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ