วันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
การทำงานต้องใช้สมองจริงหรือ(..สู่งานที่ใช้สมองและสร้างความมั่งคั่งอย่างแท้จริง!!)
คนรุ่นใหม่ๆหลายๆคน(เรียกว่าส่วนใหญ่ก็ได้) ที่ได้เริ่มชีวิตการทำงาน "พ้นสภาพการเป็นนักศึกษาสู่ชีวิตการทำงานจริง" มักพบว่า "ตัวเองกำลังสงสัยว่า การทำงานจริงๆ ต้องใช้สมองด้วยหรือ" .."และตรงไหนล่ะ!!"
จากทฤษฎีที่เรียนมาอย่างล้ำลึกในมหาวิทยาลัย ไม่ได้สอนว่า "ต้องชงกาแฟให้อร่อยอย่างไร" .."หลายคนเรียนรู้ Skill ใหม่ในการตรวจอักษร , ถ่ายเอกสาร ..แล้วเรียนรู้ว่า การโดนเบรคแรงๆ สำหรับการเสนอความคิดมันเซ็งเพียงใด" --หลายคนถึงกับวิ่งออกไปบนดาดฟ้าแล้วตะโกนว่า "เบื่อเว้ย!!"
ประเด็นนี่จะบอกว่า ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่องค์กร เพราะองค์กรมันเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ก่อนคุณจะเข้ามา ..แต่การศึกษาต่างหาก ที่สอน Skill ที่มันใช้ไม่ได้จริง ถ้าเขาสอนวิธีชงกาแฟอร่อย ,Service Mind, การปรับตัวและความ Friendly และการตรวจอักษร อาจทำให้เขาเหล่านั้น พร้อมต่อการทำงานมากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
ปริญญาโท ในสาขา "ชาวสวน" อาจทำให้คุณประสบความสำเร็จในการเล่นหุ้น มากกว่า ปริญญาโททาง Finance เสียด้วยซ้ำ ...ปริญญาโทสาขา "Know Who" อาจทำให้คุณไต่เต้าในองค์กรในเมืองไทยได้มากกว่า "Know How" ...ปริญญาโทสาขา "สมบัติผลัดกันชม + ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร" อาจทำให้ท่านรุ่งเรืองในการเมืองมากกว่า สาขาสื่อสารการเมือง หรือ รัฐศาสตร์ ก็เป็นได้
บางคนหลีกหนีงานเหล่านี้ไปสร้างกิจการของตัวเอง กลับพบว่า งานที่ทำยิ่งใช้แรงงาน หนักยิ่งกว่าเดิมอีก --"คุณสงสัยไหมว่า แล้วงานอะไรที่จะทำให้คุณใช้สมอง"
ประเด็นมันมีอยู่นิดเดียว ที่หลายคนตีไม่แตก เพราะแท้จริง การทำงานโดยใช้สมองมัน "มี" แต่เมื่อคุณผมขาวแล้ว!!(รอไปก่อน) --- แต่การที่คุณจะได้ใช้สมอง(ตอนนี้!!เลย)... มันได้เปิดแล้วที่ ตลาดการลงทุน ตั้งแต่ หุ้น, ทอง, กองทุน ไปจนถึง Real estate
ผมเป็นคนนึงที่เจอปัญหาเดียวกับทุกคน ..ผมพบว่า "ยิ่งผมทำงาน ผมยิ่งโง่" นับแต่นั้นมา ผมได้ซื้อหนังสือต่างๆมาอ่านมากมาย(เดือนนึงผมเสียเงินหมื่นกว่าบาท ซื้อหนังสือ-- บ้าไม่บ้า คุณคิดดู!!) จากนั้นผมก็เริ่มลงทุน อย่างจริงจัง-- เริ่มจาก port ตัวเอง จากนั้นก็ไปบริหารให้ พ่อแม่ น้อง (เดี๋ยว!! คุณต้องทำให้เขาเชื่อในความสามารถ ..ขั้นแรกถ้าพ่อแม่หรือ พี่น้อง ไว้ใจให้คุณบริหารเงินเขา --"ผมว่าคุณผ่านขั้นแรกของความเจ๋งแล้ว...หุ หุ" ..เพราะมันไม่ง่ายแน่นอน--นี่คือขั้นแรกของ OPM (Other People Money) "ลองดูซิ!!")--- จากลงทุนจริง ก็เลยเขียน Blog ระบายความรู้และข้อมูลที่อัดในสมอง (กลายเป็นยิ่งให้ ก็ยิ่งได้รับ)จริงๆ!!...
โอกาสใหม่ๆ ได้เข้ามาหลังจากที่ผม(เริ่มให้).. วันนี้ผมได้ Feed back และรู้จักคนมากมายในวงการหุ้น .. Web board ที่ผมเข้าไป Share ความรู้ (stock2morrow) ก็เปิดเวทีให้ผมให้ไปในสังคมนั้น ..ซึ่งเร็วๆนี้ผมก็จะมีหนังสือของตัวเอง (โอกาสใหม่ๆ สำหรับหน้าที่การงานก็กว้างขึ้น ) Limit ของการทำงาน มันเริ่มไกลกว่า การตลาด และ ธนาคาร ..ตอนนี้ผมได้ก้าวขาเข้าสู่ โลกของ "การใช้สมองอย่างแท้จริง" --ใช่แล้วครับ ผมกำลังพูดถึง "การลงทุน"
นี่แหละครับ อาชีพที่ ไม่มี limit ในการเรียนรู้ และ รายได้ รวมทั้งโอกาสที่จะเข้าสู่งานอุตสาหกรรมใหม่ๆ เพราะการลงทุนสอนให้คุณกว้าง สอนให้รู้จักการปรับตัว และนี่แหละครับ "งานที่เริ่มจากสมองอย่างแท้จริง!!"...
(ใครอึดอัดในหน้าที่การงาน ผมก็ขอแนะนำให้ คุณเริ่มศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง และร่วมกันเผยแพร่ถ่ายทอด เช่น เขียน Blog หรือ เข้ามา post ในกระทู้ต่างๆ ..
..."ถ้าใครสนใจ วิธีเรียนรู้และ แบ่งปัน .." ผมขอเรียนเชิญมาที่ www.stock2morrow.com ---" เริ่มจากการอ่าน จากนั้น ก็คือ การให้กลับ ..ส่วนใครต้องการคำแนะนำ ก็ Facebook หรือ email มาหาผมได้นะครับ.." เพราะตอนนี้ทางเจ้าของ Web(พี่ looking) และผมก็กำลังมองหา นักลงทุน และนักเขียน นักถ่ายทอดรุ่นใหม่อยู่ครับ) ---"สังคมและโอกาสในการสร้างรายได้เปิดกว้างเสมอ สำหรับคนที่ไม่ท้อต่อความเฉี่อยของสังคม")
จากที่ผมเคยนำเสนอ การทำงาน กับ การทำเงิน มันคนละประเด็น --เมืองไทยคนรวยส่วนใหญ่(99.99%) ไม่ได้เกิดจากที่เขา เก็บเงินเดือน แต่เป็นการที่เขารวยจาก การลงทุนและ Asset ที่เขาถือครองต่างหาก (ถึงเงินเดือนเป็นแสนๆ แต่ถ้าคุณเอาแต่ฝากธนาคาร ไม่รู้จักบริหาร ชาตินี้ คุณก็ไม่มีทางรวยได้!!) เอ้า..สู้ สู้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ นอกจากนั้นแล้วยิ่งให้ก็จะยิ่งได้ ผมเคยอ่านหนังสือเล่มนึง " ยิ่งให้ยิ่งได้" บอกว่า ถ้าเราค่อยๆให้ผู้อื่น ผลนั้นจะกลับมาหาเราอย่างน่าอัศจรรย์ เป็นกำลังใจให้คุณ
ตอบลบประภาวิทย์นะคับ
ถูกต้องครับ ยิ่งให้ยิ่งได้จริงๆครับ
ตอบลบ"ยิ่งให้ ยิ่งหมด"(ตังค์) จิงๆคับ
ตอบลบ