ก้าวย่างของโอบามาใช่ว่ามันปูด้วยพรม

Obama กลายเป็นกรณีศึกษาไม่รู้กี่เรื่อง มันตบหน้าตั้งแต่ วงการเมือง , การตลาด รวมถึง การตบหน้า แนวคิดและสีผิว ที่เป็นรากฐานของสังคมอเมริกันมาช้านานแล้ว

ประธานาธิปดีผิวสีผู้นี้ มีหลายๆมุมที่น่าศึกษา เพราะการก้าวขึ้นสู่ เบอร์ 1 ของโลก มันย่อมไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน …ผมย้อนรอยดูประวัติของโอบามา จะเห็นความหลากหลายของ Background ทั้งที่เคยถูกเลี้ยงดูในประเทศด้อยพัฒนาอย่างอินโด และมาโตใน ฮาวาย ซึ่งเป็นเกาะของอเมริกา ที่ไม่ใช่ วัฒนธรรมของอเมริกา จากนั้นการเข้าสู่งานด้านมนุษย์และสังคม การออกไปทำงานเกี่ยวกับ องค์กรท้องถิ่นที่ไม่แสวงกำไร มันทำให้โอบามา ได้เข้าไปรับรู้ปัญหา ในระดับรากหญ้า แบบที่เรียกว่า “เข้าไปนั่งในใจของผู้คนนั่นเอง” จนก้าวสู่มหาวิทยาลัย Harvard ที่ซึ่งบ่มเพาะ วิทยาการชั้นสูง และประสบการณ์เขียนของเขา ในวารสาร Harvard

โอบามา ถูกบ่มเพราะให้เป็นนักพูด จากงาน ช่วยเหลือสังคมเป็นเวลาถึง 6 ปี และประสบการณ์เขียน ในมหาวิทยาลัยที่ดีสุดในโลกอย่าง Harvard ทั้งหมดนี้เป็นการปูทางสู่ ความไม่ธรรมดาของชายผิวสีผู้นี้
ถ้าวิเคราะห์อย่างตรงประเด็นและแรง อาจพูดได้ว่า โอบามาเป็นชนชั้นต่ำ ที่ได้รับการศึกษาแบบชนชั้นสูง มันทำให้เขาเข้าใจ และปรับตัวเข้าได้กับ คนทุกชนชั้น และสิ่งนี้ทำให้เขาติดดิน และเข้าได้ถึงปัญหาแบบรากหญ้า ที่ชนชั้นสูงไม่เคยเข้าถึง

จุดนี้จึงไม่แปลกที่ทำให้ Obama มีนโยบายที่โดนใจทุกชนชั้น ..มีการหาเสียงที่ต้นทุนต่ำ (เขาไม่ต้องพิมพ์นโยบายแจก เพราะเขาเขียนเป็นหนังสือขาย(รวยจากหนังสืออีกต่างหาก) หรือถ้าไม่ซื้อ ก็เข้ามาอ่านเองที่ Web Site ) สิ่งสำคัญที่ โอบามาเข้าใจก็คือ Product is Everything หรือ PULL เพราะหาก นโยบายหรือ Product ของเขาโดนใจตลาด ทุกคนก็จะพยายามเข้ามาหาไปอ่านเอง โดยที่เขาไม่ต้องไปพยายาม Push ให้ลูกค้า ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่ ฮิลลารี่ คลินตันไม่เข้าใจ

นอกจากนี้การ Raise Fund ผ่าน Facebook ก็ทำให้เขาได้รับเงินบริจาค รวดเร็วและต้นทุนต่ำ ในขณะที่คู่แข่งทำไม่ได้ --สิ่งที่สำคัญไม่ใช่ โอบามาเก่ง IT แต่เขา เก่งใช้คนต่างหาก เพราะคนที่ช่วยด้าน Online Marketing ให้โอบามา ก็คือ หนึ่งในผู้ก่อตั้ง Youtube นั่นเอง

ด้วยวัยเพียง 40 กว่าๆ มันเป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะเก่งทุกเรื่อง แต่สิ่งที่โอบามา เก่งมันคือ การรู้จักใช้คน และการสร้างทีมต่างหาก วันนี้คู่แข่งตัวฉกาจ อย่าง ฮิลลารี่ คลินตัน ก็กลายเป็นหนึ่งในทีมงานผู้ซื่อสัตย์ของเขาไปเสียแล้ว ชายผู้นี้นำคำสอนของ เนลสัน แมนเดอลา มาใช้ที่ว่า “การกำจัดศัตรูให้หมดไป ที่ดีที่สุด ก็คือ การเปลี่ยนศัตรูผู้นั้นให้กลายมาเป็นมิตรนั่นเอง” และนี่ก็คือ สิ่งที่ โอบามา ทำจริงๆ

แม้วันนี้ เส้นทางผู้นำของเขา ยังเพิ่มเริ่มต่นเท่านั้น แต่ผมกลับมองว่า เส้นทางที่ชายผู้นี้ผ่านมาต่างหาก ที่น่าศึกษายิ่งนัก..ผมฝันว่า วันนึงการเมืองในบ้านเรา จะมองโอบามาเป็นแบบอย่าง การเข้าใจปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริงต่างหาก ที่เป็นสินค้าทางการเมืองที่ดีที่สุด ไม่ใช่การซื้อเสียงหว่านเงินอย่างที่เราทำกันอยู่ ..การสร้างทีมงานที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่ One Man show …การกำจัดความขัดแย้ง ที่ดีที่สุด คือ คือ การเปลี่ยนให้เป็นมิตรกัน

---ผมว่าสิ่งเหล่านี้แหละคือ “เส้นทางของผู้ยิ่งใหญ่ ที่ผู้นำประเทศไทยไม่เคยเข้าใจ”