วันเสาร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
Tesla รถหรูบริษัทเดียวใน Silicon Valley
บริษัท Tesla ได้เป็นข่าวฮือฮามาหลายปีแล้ว เพราะเนื่องจากได้ทั้ง ผู้ว่ารัฐนักกล้ามอาโน และก็ จอร์ส คูนี่ ต่างก็เข้าคิวจองรถสปอร์ตหรู ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ล้ำสมัยที่สุดของโลก ...รถ Tesla ใช้เทคโนของ แบตคอมพิวเตอร์ แต่ที่เด็ดคือ ความเร็วและอัตราเร่งของรถ Tesla ไม่ได้ด้อยไปกว่า Ferrari แต่อย่างใด ผนวกกับรูปลักษณ์ และการออกแบบที่ "เท่ห์มาก" ทำให้"เซเลบ"ต่างเข้าคิวจอง
ย้อนดู Tesla เป็นบริษัทรถ แห่งเดียวที่ตั้งอยู่ใน Silicon Valley ซึ่งข้อดีก็เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์รวม Talent ของคนที่ไม่ธรรมดาของโลกมารวมตัวกัน ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆ ที่พลิกโลก...วันนี้ Tesla กำลังประสบปัญหา เนื่องจากเจ้าของ Elon Musk กำลัง"ถังแตก" (จาก Entrepreneur of the Year ปี 2007 เริ่มจากก่อตั้ง Paypal(บริษัทการโอนเงินชื่อก้องโลก)กลายมาเป็น Serial Entrepreneur โดยใช้เงินของตัวเอง Funding ธุรกิจ Innovation ใหม่ๆมากมาย ตั้งแต่ บริษัทผลิตยานอวกาศ ไปยัน รถไฟฟ้า Tesla)
ปีนี้ Tesla กำลังจะทำ IPO ขายหุ้น 178 ล้านเหรียญ (ซึ่งมี Toyota เป็นนักลงทุนหลักในการ IPO ครั้งนี้ ที่จะลงทุนประมาณ 50 ล้านเหรียญ) --ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การที่ Tesla สามารถดึงเอา Toyota เข้ามาสนใจ ถือเป็น Key Success Factor ของบริษัท Innovation เลยก็ว่าได้
ถ้าเรากระโดดไปที่จีน บริษัท BYD ก็เดินในแนวทางที่ไม่ต่างจาก Tesla แต่ที่เด็ดกว่า คือ BYD สามารถดึง Warren Buffet ให้เข้ามาซื้อหุ้นของ BYD ได้ถึง 20% (ซึ่งการดึง Buffet เข้ามาทำให้ บริษัท No nameอย่าง BYD กลายเป็นที่สนใจของนักลงทุนทั่วโลก) ผลลัพธ์ก็คือ ปี 2008 เจ้าของ BYD (นาย Wang Chuanfu)ถูกจัดอันดับให้เป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในจีนเลยทีเดียว!!(น่าทึ่ง)
จะเห็นได้ว่า ผมยกประเด็นของสองบริษัท ที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เหมือนกัน คือ "รถไฟฟ้า" ...สิ่งที่ทั้งสองบริษัทสอนเราคือ ให้รู้จักดึง "Big Name"ให้เข้ามาร่วมหัวจมท้ายกับเรา ...ก็เรียกได้ว่า เกือบจะ การันตี ความสำเร็จได้เลยทีเดียว
วันนี้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยเฉพาะ ธุรกิจ Innovation ต้องไม่มองข้ามเรื่องเงินทุน และผู้ร่วมทุน เพราะหากคุณมองข้ามโอกาสความสำเร็จอาจแทบไม่มีก็ได้ --ทุกกิจการล้วนเกินจาก "คน + ทุน" ทั้งสิ้น.."ยิ่งคนดัง(เจ้าของ)อย่าง Elon Musk ผนวกกับทุนดังอย่าง Toyota"ย่อมไม่แปลกที่ Tesla จะผ่านวิกฤตอย่างสบายและสำเร็จในที่สุด --ดังนั้น ผู้ที่คุมสองปัจจัยนี้ได้ ผู้นั้นย่อมชนะ!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
7 ข้อ ทำไมมนุษย์เรา ถึงแย่มากๆ ในการจัดการเงิน ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เราทำนายอนาคตได้แย่มากๆ …สิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่าจะดี มันจะแย่ …แต่...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
ตลาดหุ้น จะแบ่งออกเป็น ตลาด Bull & Bear Market Bull Market ก็คือช่วงที่นักลงทุน มองว่าเศรษฐกิจดี และ โอกาสที่หุ้นจะขึ้นมีเยอะ ทำให้ทุ...
-
'ขายของอย่างไรในยุคขายยาก' คนที่จะขายสินค้าและบริการได้เก่งในยุคนี้แบบ Steve Jobs คือ สามารถสร้างสินค้าและบริการที่ 'โดน' มา...
-
เรื่องนี้เป็นประเด็นสอนใจ Brand ระดับโลกอย่าง Starbucks ที่เข้าไปบุกแดนจิงโจ้ ..ในที่สุด กระอัก “ไม่รุ่ง” ด้วยเหตุที่ Australia นับเป็นหนึ่ง...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ผมว่าก็เหมือนหุ้นในเมืองไทยที่มีขาใหญ่จอง IPO แหละครับ
ตอบลบขอบคุณที่นำความรู้และสาระดีๆ มาแบ่งปัน
ตอบลบเดี๋ยวนี้ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลย
แล้วจะแวะเข้ามาบ่อยๆ จ้า../K.