'อาชีพ ยุคใหม่ อะไรที่จะรุ่ง ?'
วันก่อนนั่งคุยกับเพื่อน ..เขาถามลูกว่า 'โตขึ้นลูกอยากเป็นอะไร ?'
ถ้ายุคเรา ก็คงอยากได้ยินว่า 'ผมอยากมีอาชีพเหมือนพ่อครับ ..อาชีพอะไรก็ว่าไป ..เราก็พอจะไกด์ได้ว่า ลูกควรเรียนอะไร เตรียมตัวยังไง จริงไหม ?'
แต่คำตอบที่ได้ เพื่อนผมถึงกับไปต่อไม่ถูก ลูกมันบอกว่า 'อยากเป็นยูทูปเบอร์ครับพ่อ!!'
- เด็กยุคใหม่ เขาไม่ได้ดูทีวีเหมือนเรา เขาไม่ได้ตามดาราทีวีแบบเรา เขาตามยูทูปเบอร์ ..เขามี Idol ในแบบของเขา ...เขาเห็นบางคนเล่นเกม มีสาวกติดตาม ประมาณว่า ทำสิ่งที่ชอบ แถมได้เงินเยอะกว่าเราอีก ...นั่งเล่นเกมส์โชว์ แต่ได้เงินมากกว่าผู้บริหารองค์กร (ได้ไงอ่ะ!!)
- เด็กยุคนี้ เขาเกิดมาในโลกที่ไม่ต้องรอให้เรียนจบ ก็หาเงินได้แล้ว ..บางคนขายของออนไลน์ ..ทำสิ่งที่ชอบแล้วได้เงิน ได้รับการยอมรับในกลุ่มของเขา
- วันนี้เราเห็นองค์กรใหญ่ๆ ไล่คนออกเป็นว่าเล่น ..บางคนทำงานมาเป็นสิบๆ ปี คิดว่างานมั่นคง ..อยู่ดีๆ ก็ถูกเชิญออก
(แล้วกรูจะทำยังไงต่อ?)
- สิ่งที่พ่อแม่หลายๆ คนทำ ก็คือ พยายามส่งลูกไปเรียนที่แพงที่สุด ค่าเทอมเป็นล้าน ..โดยหวังว่า เด็กเหล่านี้จะได้มีโอกาสในชีวิตดีกว่าที่เขาเป็น ..ได้เป็นเพื่อนกับลูกคนรวยๆ เพื่ออย่างน้อยอาจจะได้โอกาสดีๆ ..โดยที่ยังนึกไม่ออกเลยว่า ค่าเรียนที่จ่ายไปมันจะคุ้มหรือเปล่า
(ก็รักลูกอ่ะ มีโอกาสต้องทำให้ดีที่สุด จริงป่ะ)
วันนี้เด็กหลายๆ คนเริ่มเรียนจบ เริ่มทำงาน แล้วมาพบว่า 'สิ่งที่เขาคิด กับโลกการทำงานจริง มันตรงกันข้าม'
1. พ่อแม่สอนว่า เขาเปลี่ยนโลกได้ เขาเป็นอะไรก็ได้ที่เขาอยากเป็น แต่ความเป็นจริง เขาพบว่า บริษัทที่เขาไปทำงานด้วย มันไม่ได้เปลี่ยนโลก ..แค่ให้บริษัทอยู่รอดในธุรกิจปัจจุบันยังทำไม่ได้เลย
2. บางคนขอเงินพ่อแม่ ไปลองทำธุรกิจส่วนตัว เพราะคิดว่า เขาจะลองเป็น Mark Zuckerberg แต่กลับพบว่า Start-Up ที่เขาสร้าง ไม่เคยรู้จักกำไรเลย มีแต่ Burn Rate คือ 'อัตราการละลายเงิน'
3. หลายคนเริ่มพบอีกว่า 'การทำเงินในเมืองไทย มันไม่ได้ง่ายเหมือนที่เขาเคยเรียนมา เพราะมันมีกฏระเบียบ และข้อจำกัดมากมาย' ..บางคนผ่านบททดสอบเบื้องต้นได้ เพื่อจะพบว่า ธุรกิจบ้านเราไม่สามารถขยาย Global ได้เหมือนอเมริกา (ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ขยายออกนอกประเทศ ส่วนใหญ่ขาดทุนมากกว่าได้เงิน)
คำถาม คือ 'เราในฐานะพ่อแม่ หรือ รุ่นพี่ จะแนะนำน้องๆ เหล่านี้อย่างไร ?'
เอ้า!! เอาคำคม และ แรงบันดาลใจ ไปสู้ต่อ ...'เฮ้ย!! แล้วเงินล่ะพี่ ไม่เติมเงินเหรอ ?'
- 'ไม่!!' ธุรกิจพี่ต้องกลับมาที่จุดแข็ง เราไม่สามารถหว่านเงินลงไปในสิ่งที่การันตีอนาคตไม่ได้อีกต่อไป ..ตื่นเถอะน้อง !! - (ไอ้น้องแมร่ง ถึงกับ งง ..อะไรวะ ? ...แล้วไงต่อล่ะ ?)
เย็นวันนั้นเอง ไอ้น้องก็เหลือบมองไปที่รถสปอร์ตคันหรู ที่มันยังผ่อนไม่หมด ..เข็มขัด Brand Name ราคาแพง และก็กลุ่มคนที่มาร่วมเปลี่ยนโลกด้วยกัน ...ทุกคนจ้องมาที่ไอ้น้อง - เป็นไรพี่ ? ...พี่ดูลอยๆนะ
(นี่คือ เหตุการณ์จริง ในโลกธุรกิจปัจจุบัน ที่ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง ..ปลาใหญ่กินปลาเล็ก ..ปลาเร็ว กินปลาช้า ...และล่าสุด ปลาเร็วเริ่มสงสัยว่า กรูทำอะไรอยู่นี่ ?)
กลับมาที่เรื่องของเพื่อนผม ที่มันยังคิดไม่ออกว่า จะแนะนำลูกของมันอย่างไร ถ้าอยากรุ่งในอาชีพยูทูปเบอร์ ...มันเลยบอกลูกว่า
'บทเรียนที่หนึ่ง เอ็งลองไปขับ UBER ก่อน ...แล้วช่วยพ่อวิเคราะห์ระบบของ UBER หน่อยว่า ทำไมคนไทย ถึงคิดแบบนี้ไม่ได้ ...และก็ช่วยวิเคราะห์จุดอ่อนด้วยว่า ถ้า UBER ไม่มีเงินมา Burn ..คนขับจะยังขับอยู่ แล้วคุ้มหรือไม่ - เพราะพ่อนั่งเกือบฟรี ..แถมพ่อไม่ได้มี Royalty กับแอฟไหนเลย ...อะไรฟรี อะไรถูก ลูกค้าพร้อมเปลี่ยนทันที'
ทันใดนั้น ลูกมันก็พูดขึ้นมาว่า 'พ่อครับ ผมเพิ่ง 10 ขวบ จะขับ UBER ได้ไงอ่ะ ? ...พ่อโอเคหรือเปล่าครับเนี่ย ?'
เออว่ะ .....
'อาชีพยุคใหม่ อะไรรุ่ง ?'
1. ถ้าอาชีพนี้ต้องรอเรียนจนจบปริญญาแล้วค่อยมาคิดว่า จะเริ่มหาเงินจากอาชีพนี้ยังไง ...อาจต้องเตรียมปั้นอาชีพเสริมเอาไว้ด้วย เพราะวันที่ลูกจบปริญญา อาจไม่มีอาชีพนี้ให้ลูกทำแล้วก็ได้
2. อาชีพยุคใหม่ที่มันเงินดี มีอนาคต มันไม่สามารถไปสมัคร ...แต่มันต้องสร้างขึ้นมาเอง จากการสังเกต จากประสบการณ์จริง ที่เราสามารถแก้ปัญหาและสร้างประโยชน์อะไรบางอย่าง ที่ลูกค้ายอมจ่ายเงินให้กับสิ่งที่เราทำ - ใช่!! มันคือโจทย์เปิด Open
(ข้อสอบคำถามเปิด ไม่ใช่ กากบาท เหมือนยุคเรา)
3. อาชีพยุคใหม่ ไม่ได้ก้าวหน้า ตามเวลาที่ทำ ทำมานาน ทำงานหนัก ไม่ได้การันตีว่า เราจะก้าวหน้า แต่เขาวัดที่ผลลัพธ์ คือ วัดกันที่การตอบโจทย์ลูกค้าได้โดนมากกว่า
- เล่นเกมส์ก็เป็นอาชีพได้ / ทำอาหารโชว์ก็เป็นอาชีพได้ / ออกกำลังกายก็เป็นอาชีพได้ / รักษาสุขภาพก็เป็นอาชีพได้ / พูดเก่งก็เป็นอาชีพได้ / มีเพื่อนเยอะ Connection ดี ก็เป็นอาชีพได้ ...เอาว่า ทุกอย่าง ถ้ามีคนยอมจ่ายเงินให้สิ่งที่เราทำ มันเปลี่ยนเป็นอาชีพยุคใหม่ได้หมดแหละ
สิ่งที่อยากแนะนำ นักธุรกิจยุคใหม่ ให้ Focus มีดังนี้
1. ต้นทุน - ถ้าธุรกิจคุณใช้ทุนมาก คุณจะเป็นคนแรกที่ต้องปิดธุรกิจ
2. Brand - ถ้าคุณไร้ Brand ..คุณจะขายได้แต่ของราคาถูก ที่ไม่มีกำไร ..คุณจะอยู่ใน Price War และเป็นคนที่สองที่ต้องปิดธุรกิจ
3. Trust - อันนี้สูงกว่า Brand มันคือ สิ่งที่กุมหัวใจของลูกค้า ..ปราศจาค Trust ...คุณคือ คนที่สามที่ต้องปิดธุรกิจ
4. ความภูมิใจในสิ่งที่ทำ - อันนี้คือตัวคุณ ...ถ้าคุณยิ่งทำ ยิ่งทุกข์ ไร้ความภูมิใจ ..คุณคือ คนที่สี่ที่จะออกจากธุรกิจ
5. ความจำเป็นในการมีอยู่ของสิ่งที่คุณทำ - ปราศจากสิ่งนี้ ก็ไม่มีความจำเป็นที่ลูกค้าต้องการคุณ
ใช่!! โหด ...โลกเปลี่ยน ...การแข่งขันเปลี่ยน ...องค์ความรู้เปลี่ยน ...แล้วเราล่ะพร้อมเปลี่ยนไหม ?
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น