แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันพุธที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

วิธีซื้อหุ้นตัวแรกในชีวิต ภาววิทย์เลือกให้หน่อย


7 ขั้นตอน 'เริ่มซื้อหุ้นตัวแรกในชีวิต' 

การซื้อหุ้นแล้วถือ ก็ทำให้เรามีสถานะเป็นนักลงทุน เหมือนเศรษฐีใหญ่ที่เราเห็น เขาเป็นเจ้าของบริษัทใหญ่ๆมากมาย ..เราก็ได้เริ่มจากเงินหลักพัน หลักหมื่นของเรานี่แหละ ค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อย

'อย่าหมิ่นเงินน้อย' นี่แหละที่คนส่วนใหญ่ปิดโอกาสตัวเอง ..พอเงินน้อยก็ไม่เริ่ม ..ก็เลยไม่เคยมีโอกาส 'วางเงินทำงาน' ..ซึ่งหุ้นนี่แหละ เปิดโอกาสให้คนธรรมดา สามารถวางเงินทำงานได้อย่างเศรษฐีเลยแหละ 

ค่อยๆ เริ่ม 'อย่าหมิ่นเงินน้อย' มี 7 ขั้นตอน ดังนี้

1. 'เปิดพอร์ตหุ้นของตัวเอง' ..ยกตัวอย่างแบบง่ายสุด ไปที่สาขาธนาคารกรุงเทพทุกสาขา ขอเปิดบัญชีหุ้น แบบ บัญชีเงินสด (Cash Balance) แปลว่า พอร์ตนี้จะซื้อหุ้นจากเงินที่เรามี มากน้อยได้หมด ...หลักฐานที่นำไปด้วย คือ 1.บัตรประชาชน 2.ทะเบียนบ้าน 3.บัญชีธนาคาร (เอาบัญชีธนาคารเราไปผูกกับ พอร์ตหุ้นที่เราจะเปิด เอาไว้จ่ายเงินซื้อหุ้น รับเงิน และรับปันผล)

2. 'เตรียมเครื่องมือซื้อหุ้น' ...พอเปิดพอร์ตหุ้นของตัวเองเสร็จ เราสามารถซื้อหุ้นได้ 2 ทาง คือ 1.โทรสั่งซื้อผ่านโทรศัพท์ (ที่เรียกว่า ซื้อขายผ่านเจ้าหน้าที่การตลาด หรือ Marketing นี่แหละครับ) 2. กดซื้อขายหุ้นด้วยตัวเอง (อันนี้คือซื้อขายผ่านมือถือหรือคอมพิวเตอร์เราเองเลย ก็เข้าเว็บของ โบรคเกอร์บัวหลวง แล้วก็ใส่ Username กับ Password เข้าล็อคอินในเว็บ ก็ใช้เครื่องมือซื้อขายหุ้นด้วยตัวเองได้เลย)

3. 'เตรียมเงินเพื่อทดลองซื้อหุ้น' ...ในการซื้อขายหุ้น มีกำหนดขั้นต่ำคือ ซื้ออย่างน้อยครั้งละ 100 หุ้น ..สมมุติว่าหุ้นตัวนึงราคา 20 บาท ...ก็แปลว่า เราต้องซื้อขั้นต่ำ 2,000 บาท (เห็นไหมล่ะ จะเริ่มเล่นหุ้น ไม่เห็นต้องเป็นเศรษฐี เริ่ม 2,000 บาท ก็ยังได้ ...ยิ่งหุ้นบางตัวราคาไม่กี่บาท ก็มีมากมาย)

4. 'เลือกหาหุ้นที่อยากทดลองซื้อ' ..ครั้งแรกเราไม่ได้จะซื้อเพื่อรวย แต่เราจะทดลองซื้อเงินจริงให้เราเรียนรู้กระบวนการซื้อ ...ก็เริ่มจากค้นหาหุ้น ซึ่งในตลาดมีหุ้นอยู่ 800 ตัว (บริษัทชั้นนำ ที่เรารู้จักทั้งนั้น เช่น เซ็นทรัล , ซีพี , ปตท. , AIS , ธนาคารกรุงเทพ , MK สุกี้ , คอนโด LPN , สนามบิน AOT , ...เอาตัวไหนดี ?)

5. 'ซื้อเลยตัวนี้' ...เลือกมา หนึ่งตัว แล้วกดซื้อเองเลย ...ไม่ลองก็ไม่รู้อยู่นั่นแหละ ...ให้ผมเลือกให้ก็ได้ เอา ธนาคารกรุงเทพละกัน ..เพราะตอนนี้ ซื้อที่ราคานี้ก็ได้รับเงินปันผลประมาณปีละ 4% ...'เสี่ยงไหม ?' 

6. 'เสี่ยงคืออะไร ?' ...สมมุติเราจะลองซื้อหุ้นธนาคารกรุงเทพ ตัวย่อคือ BBL ..เราเสี่ยงไหม ? ...เทียบแบบนี้ ปกติเราฝากเงินได้กี่ % ..ตอนนี้ได้แค่ 0.50 % ..เราก็ยังฝาก ในฐานะลูกค้าเราได้ 0.50 % จากเงินที่เราฝาก ....แต่ถ้าวันนี้ซื้อ BBL เรากลายเป็นเจ้าของ วันนี้ในฐานะเจ้าของหรือผู้ถือหุ้น คุณได้ปันผล ปีละ 4% นั่นหมายความว่า ...ความเสี่ยงวันนี้ถ้าเราจะ 'วางเงินเฉยๆ ให้มันทำงาน หรือ ซื้อหุ้นแล้วไม่ขาย ถือรับแต่ปันผล เราจะได้ 4% ต่อปีนั่นเอง'

7. 'ซื้อแล้วเมื่อไหร่จะรวย' ..ใจเย็นๆ ที่เล่ามาทั้งหมด อยากให้ทดลองซื้อ ขั้นต่ำ 100 หุ้น ให้คุณรู้ขบวนการมีพอร์ตหุ้น ภาพความเสี่ยงคร่าวๆ และซื้อหุ้นตัวแรก ...จากนี้ไปลองค่อยๆ หาความรู้เพิ่ม ยิ่งความรู้และประสบการณ์เพิ่ม พอร์ตเราก็ค่อยๆ โตตามครับ

ถ้าซื้อหุ้นแบบเจ้าของ ก็คือ คิดแบบเศรษฐี ค่อยๆ ศึกษาและออมหุ้น เหมือนออมเงิน ซื้อแล้วไม่ขาย ..ถือรับปันผล ให้หุ้นเลี้ยงเรา ...บริษัทที่เราซื้อโตขึ้น เราก็รวยขึ้นตาม ปันผลก็ค่อยๆ มากขึ้น 

สุดท้าย หุ้นจะเลี้ยงเรา ...นี่คือ 'การเริ่มออมในหุ้นแบบเศรษฐีครับ'

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ9 ตุลาคม 2560 เวลา 22:16

    พี่แพทครับ ผมซื้อ etf bmscith เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีปันผลให้ แล้วถ้าผมออมยาวๆไปทุกเดือนผมซื้อทีล่ะ 300 หุ้น สะสมไปเรื่อยๆ ซื้อแบบไม่ขายอย่างที่พี่เคยแนะนำสิ่งที่ผมอยากรู้คือ ผมจะได้รับเงินปันผลไหมครับ

    ตอบลบ

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ