วันอังคารที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
คนโม้เรื่อง Passive Income เยอะ แต่พอทำจริงทำได้น้อย
"คนโม้เรื่อง Passive Income เยอะ แต่พอทำจริงทำได้น้อย"
ไม่!! มันไม่ใช่แค่คุณไปฟังสัมมนา พอสมัคีปั๊บ ชีวิตเปลี่ยน ..มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
แต่!! มันก็ไม่ได้ยาก แบบที่ใครหลายๆคนคิดขนาดที่ว่า "ไม่มีหรอก Passive Income"
จะบอกว่ามีครับ "เพราะ ผมเอง การันตีว่าทำได้ และ ก็ทำอยู่ แล้วก็รู้ว่าดี ..แล้วก็พยายามเขียนหนังสือ ..จัดสัมมนาทั้งออดฟไลน์ และ ออนไลน์สอนอยู่นี่ไง"...มาดูหลักการเบื้องต้นก่อนว่า มันต้องเริ่มจากตรงไหน
"เริ่มจากมนุษย์เงินเดือน" ..คุณว่า ทำไมมนุษย์เงินเดือน ถึงก้าวไปสู่การสร้าง Passive Income ได้ยาก
(ขยายความนิด ..บางคนยังเข้าใจคำว่า Passive Income ว่าคืออะไร ..ง่ายๆ แบบนี้ คือ "ทำยังไงก็ได้ ให้เงินวิ่งมาหาเราเรื่อยๆ เหมือนมีเครื่องผลิตเงิน โดยเราไม่ต้องเอาแรงงานไปแลก นี่จึงจะเรียกว่า Passive Income ที่แท้จริง ..ที่ต้องบอกว่า แท้จริง เพราะ ที่คนส่วนใหญ่เอาไปพูดกัน มันไม่ใช่ของจริงอ่ะดิ ทำงานตัวเป็นเกลียว ทุกบาททุกสตางค์แลกกับหยดเหงื่อของเราเลย ...อันนั้นไม่ใช่!!)
มาดูกันก่อนว่า "ทำไมมนุษย์เงินเดือน สร้าง Passive Income ไม่ได้"
1. "มนุษย์เงินเดือน จะถนัด ทำงานแลกเงิน เลยทำแค่ที่ตัวเองถนัด" ...ก็ทุกคนที่ได้เงินเดือน หรือ คนที่รับจ้างรู้ว่า จะได้เงินก็ต้องทำงานแลก ..พอแลกเสร็จก็จบ เราได้เงิน นายจ้างได้งานเรา
...ก็นี่แหละปัญหา เพราะ ไอ้สิ่งที่มันจะเอาไปสร้าง Passive Income ได้ก็คือ "ผลงานที่เราขายนายจ้าง หรือ ขายให้บริษัทไปเรียบร้อย นั่นแหละ ที่มันจะเอาไปสร้างเงินได้ต่อ"
...อันนี้อย่างแรก คือ คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า งานที่เขาทำให้บริษัท ...บริษัทเอางานนั้นไปทำรายได้มากกว่าที่เขาจ่ายค่าจ้างเรา
...หรือ คนรับจ้างเย็บเสื้อผ้า ..อาจไม่ได้มองว่า คนที่มาจ้างเย็บ เขาเอาไปขายได้กำไรอีกเยอะมาก โดยที่เขาไม่ต้องออกแรง เขาใช้แรงเราแทน
...หรือ อย่างเกษตรกร ปลูกอะไรมาอย่างยากเย็น แต่ขายได้ราคาต่ำ ...ก็ลืมนึกไปว่า คนที่เขาซื้อผลผลิตราคาต่ำ เขาเอาไปแปลรูปเป็น สินค้าราคาสูง ทำกำไรมหาศาลบนคนอีกเป็นหมื่นแสนล้านคนอย่างเราๆ
2. "มนุษย์เงินเดือน มัวแต่ทำงาน เหนื่อยจนลืมวางแผนอนาคตให้ตัวเอง" ...อันนี้เจ็บปวดมาก ..เคยได้ยินคำพูดนี้ไหมว่า "คนส่วนใหญ่ทำงานหนัก จนเหนื่อย และ ยุ่งจน ทำงานให้คนอื่นรวย จนลืมไปเลยว่า ตัวเราเอง ยังไม่มีใครดูแลเลย !!" ...คนเหล่านี้พอใกล้ๆ เกษียณก็จะสะดุ้งรู้สึกตัว ...เฮ้ย!! กรูยังไม่มีเงินเก็บเลย ..ผ่อนบ้างยังไม่หมด ...เพิ้งซื้อรถคันใหม่ ..เอ้า!! ลูกมาขอยืนเงินไปสร้างตัว ..โรงพยาบาลส่งบิลค่ารักษาปู่ย่าตายาย แพงจนหมดตัว ...แถมโรคประจำตัว ที่เกิดจากการทำงานหนัก ให้บริษัทแบบไม่ดูแลตัวเอง ก็ช่วยให้ค่ารักษาพยายาลพุ่งทะลุฟ้า
- "เอ่อ !! เฮ้ย!! กรู ทำอะไรอยู่วะเนี่ย ...ทำงานไปวันๆ ขายแรงงาน และเวลาชีวิตตัวเอง แบบขายขาด ขายราคาถูก ...ถูกชิบหาย ...ขายชีวิตตัวเองราคาถูก ดันแดกแพง อย่างกาแฟ Starbucks นี่กินทุกวัน ...ใช้จ่ายนี่สุดแพง ...นี่คือ วิถีชีวิตที่เรียกว่าอะไรดี"
โอเค !! แค่ 2 สอง ข้อนี้ก็แย่เต็มที่แล้ว มาหาวิธีแก้ไขดีกว่า ว่า "ถ้ามนุษย์เงินเดือนคนนึงจะเริ่มสร้าง Passive Income ให้ได้บ้าง จะต้องเริ่มจากอะไร" มาดูจุดเริ่มง่ายๆ ดังนี้
1. "สร้างผลงานตัวเองบ้าง ไม่ต้องขายให้บริษัทหมด" ...เราต้องทำงานอะไรบ้าง ที่เราไม่ได้ขายให้บริษัทหมด ..สมมุติผมมีอาชีพรับจ้างทำเว็บ ...ผมก็ควรสร้างเว็บ ของตัวเอง เอาไว้เป็นช่องทางหาเงินบ้าง ...จริงอยู่ ถ้าเรารับจ้างทำเว็บ เราได้เงินทันที แต่ถ้าเราทำเว็บของเราเอง ช่วงแรกอาจไม่ได้เงิน ..เราต้องฝึกมองระยะยาวบ้าง นอกจากหาเงินทันทีตรงหน้า จึงจะเริ่มสร้าง Passive Income ได้
สมมุติเรามีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง เราก็รับจ้างสร้างบ้านไปเรื่อยๆได้ ...แต่ถ้าอยากรวย หรือ อยากมี Passive Income ก็ต้องพัฒนาโครงการเล็กๆ ของตัวเองไปควบคู่
การสร้าง Passive Income มันคือ การฝึกมองระยะยาว จากงานที่ทำ ...เพราะ ถ้ามองสั้น เราก็ทำขาย รับจ้างทำ มันจบได้เงิน แต่มันก็จบตรงนั้น
...การที่จะได้รายได้ระยะยาว ต่อเนื่อง ให้มันเลี้ยงเรา ต้องเป็น Project เป็นโครงการ เป็นผลงาน ที่มันสร้างประโยชน์และแก้ปัญหาบางอย่างให้กับคนอื่นในระยะยาว ...นั่นถึงจะสร้าง Passive Income ได้
เริ่มฝึก ต้องฝึกมอง การณ์ไกล ...มองยาวๆ ...มองเห็นประโยชน์จากงานอดิเรกที่เราทำ ให้เป็นประโยชน์ต่อคนอื่น ...พัฒนาอย่างจริงจัง สร้างงาน สร้างรายได้ ...ต้องค่อยๆ ฝึกคิด แล้วเริ่มทำจากเล็กๆ ต้นทุนต่ำๆ ขยายผลไปเรื่อยๆ
2. ฝึก "ออมในหุ้น" อันนี้ให้ Passive Income แต่ต้องเล่นแบบถูกวิธีนะ ...ถ้าออมในหุ้นถุกต้องตามหลักการ ซื้อหุ้นพื้นฐานดีเวลาวิกฤต แล้วออมแบบเงินฝาก ...ระยะยาวหุ้นเลี้ยงเราได้แน่ แค่รับปันผลก็อยู่ได้ทั้งชีวิต ...ผมเองทำ 10 ปี ก็เห็นผลแล้ว ...แต่ตรงนี้ ใครสนใจต้องศึกษาจริงจังนะครับ ...คลุ๊กอยู่ตรงนี้สักระยะ ลองอ่านหนังสือ ลองเข้าสัมมนา ลองเรียน แล้วลองปฏิบัติจริง ...เข้าตลาดหุ้นจริง ทยอยซื้อหุ้นจริง ..สักพักภาพที่เราไม่ค่อยเข้าใจ จะเริ่มเข้าใจ ...คุณจะเริ่มเข้าใจหุ้น / เข้าใจคน / เข้าใจการแกว่งของหุ้น แล้วเมื่อคุณเข้าใจ คุณจะสามารถจัดการกับความผันผวนได้ในที่สุดครับ
ใช่!! มันมีทางเดินอีกหลายทางสู่ Passive Income แต่ผมขอแนะนำ สองทางนี้ก่อน เพราะ ผมลองแล้ว และ ก็ทำได้ทั้งสองข้อ ก็เลยอยากแนะนำเพื่อนๆ ว่า ลองศึกษาเอาจริงกับมันครับ
สุดท้าย "ความรู้ + ความมุ่งมั่น" จะค่อยๆ เปลี่ยนชีวิตเรา ...อย่านั่งรอความสำเร็จ แต่ให้เราวิ่งไปหาความสำเร็จด้วยตัวเอง
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
‘เป็นล้านเลยเหรอพี่ ?‘ …ทำอะไรมีเงินเป็นร้อยล้าน !! 1. อยากได้เงินล้าน …ต้องทุ่มพัฒนาทักษะ เพราะ ทักษะจะทำให้เราได้งาน ได้ธุรกิจ ได้โอกาสให...
-
10 ข้อควรรู้ เพื่อเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น 1. ตลาดหุ้นสามารถเล่นแบบการพนัน และก็สามารถเล่นแบบการลงทุน คนกำหนดคือคนเล่นเอง ไม่ใช่ตลาด ..คน...
-
ทำไมคนที่รายได้มั่นคง ควรลงทุนให้เสี่ยง ? 1. รายได้ที่มั่นคงมักจะมีข้อจำกัด คือ มีรายได้เรื่อยๆ แต่ไม่โต …ดังนั้น การลงทุนควรหาโอกาสที่เสี่...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 เคล็ดลับ หาจุดเปลี่ยนชีวิตที่นานๆ จะมาสักทีนึง สำหรับผม ผมเจอจุดเปลี่ยนชีวิตมา 3 ครั้งใหญ่ๆ …ครั้งแรก สมัยเรียน จากเด็กเรียนธรรมดา ..ผมไป...
-
7 ข้อ ทำไมผมถึงชอบตลาดหุ้นไทยในเวลาที่ใครๆ ก็ไม่เอาแล้ว 1. หุ้นไทยเป็นหุ้นอุตสาหกรรมเก่า ที่เข้าใจง่ายกว่า …’หุ้นที่ใครๆ มองว่าดี ส่วนใหญ่ไ...
-
7 ข้อ ความเชื่อในการลงทุนที่เปลี่ยนไป ในตลาดวันนี้ 1. ยิ่งเสี่ยงยิ่งโชคดี …จริงๆ ไม่ใช่ …ต้อง ‘ออกแบบให้ตัวเองมีโอกาสเสี่ยงได้เรื่อยๆ’ อัน...
-
10 อันดับ สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 1. ทอง มีมูลค่ารวม 20.5 Trillion 2. Microsoft มูลค่ารวม 2.6 T 3. Apple มูลค่ารวม 2.59 T 4. N...
-
8 ข้อคิด จาก The Psychology of Money 1. ความมั่นคงทางการเงิน คือ ความยืดหยุ่นในชีวิต 2. ความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ การได้เยอะ แต่คือ การไม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น