เสริฟอาหารจนซื้อบ้าน 20 ล้าน ใครว่าทำไม่ได้ !!
นั่งรอกินอาหารที่ London เห็นคนเสริฟเดินไปเดินมา ก็นั่งนึกไปเพลินๆ ว่า 'เอาแค่งานเสริฟอาหาร ทำไมฝรั่งถึงได้เงิน เยอะกว่าเสริฟอาหารที่เมืองไทย ?'
ผมนั่งสังเกตว่า ..คนเสริฟทำไมหน้าตาดีจัง !! -- 'เฮ้ย!! ไม่ใช่ครับ ..ชักนอกเรื่องแล้วนี่'
ผมนั่งสังเกตว่า ...เขารับ ลูกค้ายังไง ..รับ order ยังไง ..แต่งตัวยังไง ..เสริฟอาหารเป็นยังไง ..คนนึงดูแลกี่โต๊ะ ..ระบบร้านอาหารเป็นยังไง ..(ประมาณว่า ฝรั่งคงนึกในใจ ไอ้คนเอเชียคนนี้มันมองอะไรของมันวะ..55)
จริงๆ ก็อยากถามเขาตรงๆ นะ ว่า 'ทำไม you ถึง มีค่าจ้างแพง.. you เจ๋งยังไง ?' ..แต่ไม่ได้ถาม ลองคิดๆ เอาเอง
ก็ประมาณนี้
1. 'ค่าครองชีพ' ที่นี่ค่าครองชีพแพงกว่าเมืองไทยประมาณ 5 เท่า ..ค่าเช่าบ้าน / ค่ากิน / ค่าเดินทาง มันคูณห้า ..ดังนั้น 'ค่าจ้าง' จึงสูงกว่า
2. 'หนึ่งคน หลายหน้าที่' ..ถ้าเรามองระบบโรงงาน หรือ พนักงาน Low Skill ก็มักให้ หนึ่งคน หนึ่งหน้าที่ ...แต่งานที่นี่สังเกตว่า หนึ่งคนทำหลายหน้าที่ ..เช่น ขับรถด้วย มีไมค์ลอยติดตรงปาก แล้วทำหน้าที่ไกด์ไปด้วย แล้วก็เป็นเด็กยกกระเป๋าไปในตัว
3. 'งานหมุนเวียนกันได้ ลดค่าใช้จ่ายเจ้าของร้าน' ..พอพนักงานทำงานบางอย่างแทนกันได้ ความปวดหัว และค่าใช้จ่ายเรื่องคนก็ลดลง เลยเอามาจ่ายค่าแรงได้เพิ่มขึ้น
4. 'โปร' ...ผมว่าตรงนี้ขึ้นกับคน แต่ส่วนใหญ่เราจะรู้สึกว่า ฝรั่งโปร หรือ มืออาชีพกว่า ..ขนาดเด็กเสริฟเรายังรู้สึกว่า 'เขารู้เรื่อง และมืออาชีพ(เก่งในงานของตัวเอง)' ..ตรงนี้คือ ความใส่ใจในสิ่งที่ตัวเองทำ ก็สมควรมีรายได้สูงกว่า (เคยไป บางที่ ที่พนักงานเสริฟ ยืนกระจุกคุยกัน ไม่สนใจลูกค้า พอเรียกก็ไม่ค่อยสนใจ ถามอะไรก็ไม่รู้เรื่อง ..แบบนี้ไม่ควรจ้างเลย)
5. 'พัฒนาตัวเอง' ..เด็กเสริฟฝรั่งส่วนใหญ่ มักเป็นนักศึกษาด้วย คือ เสริฟไปแล้วก็เรียนเพื่อพัฒนาอาชีพและโอกาส ..แปลว่า คนเหล่านี้เขาต้องการพัฒนาตัวเองไปสู่สิ่งที่ดีขึ้น ..ก็ไม่แปลกที่คนแนวนี้มักมีค่าจ้างที่สูงกว่า
6. 'คนไม่ค่อยเกี่ยงอาชีพ' ..ดูประเทศเหล่านี้ เขาทำงานแบบไม่ค่อยแบ่งชนชั้น ..ไม่ค่อยมีงานกระจอก งานที่แยกชนชั้นแบบบ้านเรา ..ลูกคนมีเงินก็ทำงาน part-time ...เมื่อไม่แบ่งชนชั้นตามงาน ทุกอาชีพก็ทำงานตัวเองได้ภูมิใจ มีรายได้ เลี้ยงครอบครัวได้ทุกงาน ...เลยมีโอกาสในทุกอาชีพ ขอให้ทำให้ดี ..เป็นช่างไฟ , ทำถนน , ก่อสร้าง ...ทุกคนรวยได้หมด ก็น่าสนใจดี
7. 'มีสถาบันการศึกษามาช่วยพัฒนาอาชีพ' ...ยกตัวอย่างชัดๆ เชฟ ในบ้านเรา ถ้าเป็นร้านอาหารตามสั่งทั่วไปมักใช้คนงาน ผัดผิด ผัดถูกก็ผัดๆ ไป ...แต่ฝรั่งนี่ขนาดร้านอาหารเล็กๆ ยังมีเชฟ ซึ่งเรียนการทำอาหาร ต้องมี certificate ...เรียนรู้การจัดการอาหาร บริหารครัว บริหารร้านอาหาร ...'ใช่!! ความรู้ มันยกระดับรายได้ ไม่เกี่ยวว่าต้องอาชีพไหน ได้หมด'
8. 'การใช้เครื่องทุ่นแรง เครื่องอำนวยความสะดวก ยกระดับรายได้' ...เมื่อทุกอาชีพ อยู่ได้ คุณภาพชีวิตโดยรวมของคนก็ดี ..คนที่นี่ต้องทำทุกอย่างเอง ไม่มีคนใช้แบบบ้านเรา ..ก็มีส่วนให้คนที่นี่ต้อง ใช้เครื่องทุ่นแรง และ เรียนรู้ที่จะทำอะไรเอง ...ผมสังเกตว่า สังคมที่มีเครื่องทุ่นแรง และคนใช้เป็น จะมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ..ค่าแรงจึงสูงตาม
9. 'จะซื้อบ้านที่อังกฤษ ต้องมีเงินประมาณ 500,000 ปอนด์ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 20 ล้านบาท' ...หมายความว่า ชนชั้นกลางของที่นี่ สุดท้ายถ้าผ่อนหนี้หมด จะมีทรัพย์สินหลักๆ ก็คือ บ้าน มูลค่าประมาณ 20 ล้านนั่นแหละ (แต่ต้องทำทุกอย่างเองนะ งานบ้าน ตัดหญ้า ซ่อมแซมเล็กๆน้อยๆ)
10. 'คิดไปคิดมา ..บ้านเราสบายกว่า' ...สรุปว่าไม่ว่าอาชีพไหน หากอยากมีรายได้เพิ่มขึ้นให้ทำดังนี้
หนึ่ง ศึกษาในสิ่งที่ทำให้เรารู้จริง เก่ง เป็นมืออาชีพ
สอง ทำงานตัวเองที่รู้จริง ด้วยความใส่ใจ พิถีพิถัน และไม่หยุดเรียนรู้พัฒนาตัวเอง
สาม 'จ้างหนึ่งเหมือนได้สาม' เรียนรู้งานที่เกี่ยวข้อง ช่วยขยายโอกาสตัวเอง
สี่ 'รับผิดชอบ' ..หลักๆ คือ ต้องทำงานเหมือนเราเป็นเจ้าของร้าน
เอาแค่นี้ได้ ใครๆก็อยากจ้าง ..แล้วเชื่อหรือไม่ โอกาสอื่นๆ จะเข้ามาอีกจนเราอาจตกใจ
'คนที่ตั้งใจ ทำงานตัวเองให้ดี ศึกษาให้รู้จริง แล้วพัฒนางานตัวเองให้ดีขึ้น มักจะเป็นคนโชคดี เพราะจะมีโอกาสดีๆ เข้ามาเยี่ยมเสมอๆ'
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ขอบคุณสำหรับแนวคิดดีๆนะคะ ตอนนี้กำลังศึกษาเพื่อจะเป็นมือใหม่ในการเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเองในต่างแดน. จากฝันอันสวยงาม และยิ่งใหญ่ ต้องมองเปลี่ยนมุมใหม่
ตอบลบไม่มีประสบการณ์ แต่ยังคงมีความฝัน ตัวคนเดียวค่ะ ซึ่งค่อนข้างเสี่ยง ยังไงก็ขอบคุณนะคะ