เรื่องการลงทุน หลายๆคนบอกมันเป็น Common Sense คือ ใช้ความรู้สึก แล้ว ไปพัฒนาที่ดวง และ ไสยศาสตร์ ..."ไร้สาระจริงๆ"
วันนี้ผมพลิกไปดู ราคาคอนโดกลางเมืองวันนี้ ราคาขึ้นไปเกิน 200,000 บาท ต่อ ตร.ม. ... "คุณเคยคิดไหมว่า ใครจะโง่จ่ายเงินแพงๆ ซื้อคอนโดที่แพงขนาดนั้น ...คุณว่าใคร?"
วันนี้เราเดินผ่านร้านกาแฟ Starbucks คนต่อคิว ยาวเหยียด ..เคยถามไหมว่า ทำไมต้องจ่ายเงินแพงขนาดนั้น เพื่อซื้อกาแฟ ?
บางคนเสียเงินแพงๆ เพื่อเข้าสัมมนา หรือ เรียนพิเศษ ...เขาจ่ายไปเพื่ออะไร ?
คำถามนึงที่ผม ถามคนฟังตลอดคือ ในโลกนี้มีอะไรฟรีบ้าง ?
ใช่ !! โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ... การที่ใครทำอะไรให้เราฟรี มันต้องมีอะไรแอบแฝง ..อาจจะไม่เสมอไป แต่บอกได้ว่า ส่วนใหญ่มันเป็นอย่างนั้น ..จริงไหม ?
แต่ที่แปลกกว่านั้น คือ "ทุกคนก็ยังชอบของฟรี ..พยายามหาของฟรี ของลดราคา ..แล้วที่เด็ดก็คือ หากเราสามารถซื้อของลดราคาได้ถูกกว่าคนอื่น ยิ่งรู้สึกดี !!"
โอเค ..ผมขอตอบคำถามแรก คือ ทำไมคนรวยยอมจ่ายเงินแพงๆ เพื่อ ค่าเรียนลูก / ค่าบ้าน / ค่าคอนโด / ค่า Sport Club ก็เพราะ เขาวิเคราห์แล้วว่า จ่ายแล้วคุ้ม ...คนทั่วไปจะมองการจ่ายเงินเป็นเพียงการเสียเงิน จึงพยายามประหยัด แต่คนรวย เขามองจ่ายเงินทุกครั้งว่า เป็น "การลงทุน" ก็เลยทำให้คนรวยและคนจนใช้เงินต่างกันมาก
ถูกต้อง !! "คนรวยเขามีหลักการคือ 'จ่ายเงินให้รวยขึ้น' เพราะ การจ่ายเงิน คือ การลงทุน" ...แต่ "คนจน เขารู้จักแต่ 'เก็บเงินอย่างไรให้รวย' ดังนั้น ทุกครั้งที่จ่ายเงิน แม้ว่าจะประหยัดแค่ไหน มันก็เป็นการใช้เงินที่ศูนย์เปล่า"
"การจ่ายเงินให้รวยขึ้น" คือ การมองเรื่องการจ่ายเงินเป็นการลงทุน อะไรสักอย่าง ..เช่น ถ้าเรายอมซื้อคอนโดแพงๆ ก็เพื่อ ลงทุนที่จะเปลี่ยนสภาพแวดล้อม ..และ การเปลี่ยนสภาพแวดล้อมก็คือ การเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนโอกาส ..เขาจ่ายเงินเพื่อซื้อโอกาสนั่นเอง
วันนี้นักการตลาด เริ่มเข้าใจเรื่อง การตั้ง Pricing ...ว่าคือ หนึ่งใน Key Success Factor ในการดึงดูดและเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
"ถ้ากาแฟ Starbucks แก้วละ 10 บาท คงไม่มีคนกินขนาดนี้ ...ถ้ากระเป๋า Hermes ราคาไม่กี่พัน ผู้หญิงคงไม่แย่งกันซื้อ .."
นั่นแหละ "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" ..ก่อนที่เราจะ ใช้อะไรฟรี หรือ แย่งกันซื้อของถูก ของลดราคา ให้คิดให้ดีว่า ..คนขายเขามีวัตถุประสงค์อะไร ...เพราะ ถ้าไม่ระวัง สุดท้ายเราอาจตกเป็นเหยื่อ
"คนฉลาด เขาชอบซื้อของแพง" ..ไม่ใช่เพราะเขาโง่ แต่เขารู้ว่า เมื่อเขาจ่ายซื้อของแพง แล้วเขาได้มากกว่า สินค้า
...แปลกดี โลกนี้ ...น่าศึกษา ..น่าค้นหา
เพราะ ความรู้ส่วนใหญ่ที่เราเชื่อตามๆ กันมา มันคือ ความเชื่อที่ทำให้เราจนลง ..ไม่ประสบความสำเร็จ
ต้องเปลี่ยน "ความเชื่อ" นั้นให้ได้ครับ !!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น