‘คนยุคนี้มักพูดว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือ การหาประสบการณ์’ ..ใช่ไหม ?
ใช่!! ....แต่จะบอกว่า คนที่พูดแบบนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าใจแก่นจริงๆ ว่า ‘การหาประสบการณ์คืออะไร’
คนส่วนใหญ่มักคิดว่า ‘อ๋อ!! การหาประสบการณ์ คือ การเก็บเงินเพื่อเดินทางครับพี่ ...เราจะทำงานเก็บเงินเพื่อไปท่องเที่ยวเห็นโลก !!’
เราจะเห็นเด็กเดี๋ยวนี้ ทำงานเพื่อจะไปเที่ยว ทำงานเก็บเงินเพื่อจะซื้อประสบการณ์ ได้เจอนักร้อง idol ..หรือ แม้กระทั่งเก็บเงินเพื่อซื้อรองเท้าแพง , นาฬิกาหรู และ กระเป๋า ที่อยากได้
..แล้วมันผิดตรงไหนล่ะ ?
ไม่ผิดเลย ...แต่ต้องเข้าใจก่อนว่า ‘ไอ้ที่บอกว่า หาประสบการณ์จริงๆ คือ หาอะไร?’
ถ้าเราคิดว่า การท่องเที่ยวคือ การไปดูทะเล ช้อปปิ้ง หรือ ไปเทศกาลดนตรี คือ ประสบการณ์ ...จริงตรงนั้นมันคือ เปลือก !!
แก่นจริงๆ ของการหาประสบการณ์ ก็คือ ‘เราหาประสบการณ์เพื่อที่เราจะเข้าใจตัวเองต่างหาก’
สมัยเด็กๆ เราไม่รู้หรอกว่า จริงๆ เราต้องการอะไร ..ชอบอะไร ...เราแค่ทำเพราะ สังคมบอกว่ามันดี ก็แค่นั้น ...ก็ไม่แปลกที่คนอายุน้อย ต้องลองทำหลายๆ อย่าง ....แต่ต้องเข้าใจว่า ที่เราทดลองทำหลายๆ อย่างมันไม่ใช่เพื่อจมอยู่กับสิ่งนั้น หลงอยู่กับสิ่งนั้น
1. ‘เวลาเราไปเที่ยว’ คือ เวลาที่เราต้องพยายามค้นหา และ รู้จักตัวเอง ...สถานที่จะสอนว่า ตัวเราชอบที่แบบไหน ...ส่วนคนที่เราเจอ จะสอนเราว่า ทุกคนแตกต่างกัน มันขึ้นกับสภาพแวดล้อม ...การท่องเที่ยวจึงเป็นกระจก ที่สะท้อนให้เรารู้จักตัวเอง
มันจะเสียเงินและเสียเวลามากๆ ถ้าการท่องเที่ยวของเรา คือการนับแต้ม เน้นปริมาณ ...หรือ ไปแค่ได้ถ่ายรูปว่า มาถึงแล้ว
2. ‘เวลาซื้อของ’ ต้องถามว่า เราซื้อสิ่งนี้เพื่อโชว์คนอื่น หรือ เราชอบมันจริงๆ ...วัดง่ายๆ ก็คือ ถ้าเราซื้อแล้วไม่ได้โชว์ใคร เราจะยังซื้อสิ่งนี้ไหม
การซื้อเพื่อโชว์ มันอาจทำให้เรารู้สึกดี แต่มันรู้สึกดีไม่นาน คือ มันไม่คุ้ม ...เพราะผลเสีย คือ การซื้อเพื่อโชว์ มันไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้น เพราะ นอกจากเราจะเสียเงินเยอะ , สร้างหนี้ ...เรายังดึงดูดคนที่ไม่ใช่ คนที่ไม่จริงใจ คนที่เราอาจไม่ได้ชอบ มาหาเรามากขึ้น
การซื้อโชว์ จึง เป็นการดึงดูดพลังงานลบ หรือ ประสบการณ์ที่ไม่ดีมาหาเราเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ต่างกับการซื้อของที่เราชอบจริงๆ มันจะส่งพลังงานบวก ...เมื่อชอบ จึงเชี่ยวชาญ ...แล้วดึงดูดคนที่คิดแบบเรามาเจอกัน
3. ‘เราทำงาน เพื่อเราจะรู้จักตัวเอง’ ...ผมมักพูดเสมอว่า งานแรกมักเป็นงานที่เราไม่ชอบ เงินน้อย งานไม่ใช่ ก็เพราะ เรายังไม่มีทางเลือก ....แต่เราทำงานแรก เพื่อเป็นสะพานสู่งานถัดไป ที่มันใช่มากขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งเราทำงานมากขึ้น เราก็จะรู้จักตัวเองมากขึ้น คือ
หนึ่ง รู้ว่าอะไรที่เราไม่ชอบ
สอง เมื่อรู้ข้อแรก ต้องมาคิดว่า ‘ถ้าเราจะพาตัวเอง ไปสู่สิ่งที่ชอบ เราต้องเรียนรู้อะไรเพิ่ม’ ...อันนี้แหละ คือ การเพิ่มประสบการณ์ที่ดีกับเรา
สาม เมื่อความรู้ และ ประสบการณ์ ของเรามากพอ ...โอกาสมันจะเปิดขึ้น
ที่เราเห็นคนที่เขาได้ทำงานที่ชอบ เงินดี งานโดน ก็เพราะ เขาผ่านขั้นตอนทั้ง 3 ขั้น ที่กล่าวมา ...แปลว่า จริงๆ แล้ว คนที่ชีวิตดี งานใช่ เงินเยอะ น่าอิจฉา ก็เพราะว่า ‘เขามุ่งมั่น สร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง ก็เท่านั้นแหละ’
พูดแรงๆ ก็คือ ‘ที่เรายังไปไม่ถึงจุดนั้น เพราะ ความสามารถและประสบการณ์ เรายังไม่ถึง!!’ (พยายามต่อ)
ที่เล่าเรื่องนี้ขึ้นมา เพื่อจะบอกว่า ‘ประสบการณ์ที่เราพยายามหากัน ก็คือ การค้นหาตัวเราเอง’
ทุกอย่าง คือ กระจกสะท้อน
ไม่มีใคร นั่งเฉยๆ แล้วจะรู้จักตัวเอง
แต่การค้นหา ต้องออกไปหาประสบการณ์ โดยตั้งโจทย์ครั้งนี้ใหม่ ให้ถูกต้อง
แล้ววันใดก็ตาม ที่เราเข้าใจตัวเองมากขึ้น ...โอกาสในชีวิตจะเพิ่ม ...เราจะสามารถสร้างโอกาสในชีวิตขึ้นมาเอง ...สุดท้ายเงินก็จะเพิ่ม พร้อมทำในสิ่งที่มันใช่จริงๆ สำหรับเรา
‘มันหมดยุคแล้ว ที่เราจะคิดว่า สิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับเรา ...มันเป็นยุคที่ เราเองนั่นแหละ ที่ต้องสร้างสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตของเราเอง โดยการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ที่เป็นกระจกสะท้อน ให้เรารู้จักตัวเอง’
ไม่ง่ายเลย ที่คนๆ นึงจะรู้จักและเข้าใจตัวเอง ...สิ่งนี้แหละ ที่เรียกว่า แก่นของการหาประสบการณ์
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น