วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2559
งานอะไรที่ "เหนื่อยมาก หนักจริง" แต่เงินน้อย ตอบงานกรูไง..เฮ้อ
งานอะไรที่ "เหนื่อยมาก หนักจริง" แต่เงินน้อย ตอบงานกรูไง..เฮ้อ
เป็นคำตอบที่น่าคิดมากว่า ...แล้วทำไม งานของฉัน มันต้องเหนื่อย มันต้องหนัก ทำแล้วเงินน้อย ทำแล้วไม่ก้าวหน้า ..ยิ่งทำยิ่งจน ...เฮ้ย!! ถามจริงๆ เถอะ "คุณว่างานคนอื่น เป็นเหมือนงานของฉันหรือไม่?"
โลกนี้มีขาวก็มีดำ ..มีสว่างก็มีมืด ...มีขึ้นก็มีลง ...มีรวยก็มีจน ...เอาล่ะ ดังนั้น เรื่องงานก็ไม่ต่างกัน ในเมื่องานฉัน คือ "งานหนัก เงินน้อย" ฝั่งตรงข้ามก็ย่อมมี "งานน้อย เงินมาก" อยู่จริงๆ
เรามาดูกันว่า "งานหนัก เงินน้อย" คือ งานอะไร
1. งานที่ทำสิ่งเดิมซ้ำๆ
2. ใช้แรงงานเยอะ แต่ใช้ความคิดน้อยๆ
3. งานนี้มักมีคู่มือในการทำงาน ...มีคนมาสอนงาน ..บางงานมีโรงเรียนสอนเลย ว่าต้องทำงานยังไง
4. งานนี้มีคนทำได้เยอะ เพราะ เป็นงานยอดฮิต ..งานนี้บริษัทจ้างใครก็ได้
ถ้างานใครมีครบ ทั้ง 4 ข้อ ...ผมเสนอให้ พยายามหาโอกาสเปลี่ยนงานเถอะ ...เพราะ งานแบบนี้ "หนัก เงินน้อย และ ไม่มีอนาคต"
เรามาดู "งานน้อย เงินมาก" คือ งานอะไร
1. งานที่ให้เราใช้สมอง มากกว่าใช้แรงงาน
2. งานที่วัดผลงาน จากกำไรและยอดขายของบริษัท ..ไม่ได้วัดตามชั่วโมงการทำงาน
3. งานที่ไม่มีคู่มือในการทำงาน ..เราต้องเขียนคู่มือการทำงานขึ้นมาเอง
4. งานมันซับซ้อน เพราะ มันอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ยากว่า "ฉันทำงานอะไร" จึงไม่มีใครมาทำงานแทนคุณได้ (อันนี้มีข้อควรระวังอยู่ที่ว่า งานฉันอธิบายให้คนอื่นฟังไม่รู้เรื่องจึงไม่มีใครทำงานแทนฉันได้ ...แต่ในมุมลูกค้า ลูกค้าต้องเข้าใจชัดแจ้งว่า ฉันทำอะไร)
ถ้าใครมีครบ 4 ข้อ ...งานจะเบา เงินจะเยอะ
ที่เล่าให้ฟังไม่ได้จะกวน แต่จะชี้ให้เห็นว่า "งานส่วนใหญ่ คือ งานหนัก เงินน้อย" ...แต่งานส่วนน้อย คือ "งานเบา เงินมาก" ...ส่วนสาเหตุที่คนส่วนน้อยได้ทำงานเบาเงินมาก เพราะ งานแบบนี้มันต้องออกแบบขึ้นมาเอง ...มันไม่ใช่งานสำเร็จรูป ที่สามารถหาได้จากเว็บ หรือ ใบปลิว สมัครงาน
"เหมือนสินค้าสำเร็จรูป ย่อมสู้สินค้า ที่ Hand-Made ทำเพื่อคุณโดยตรงไม่ได้" ....เราต้องเลือกว่า "ตัวเราคือ สินค้าสำเร็จรูป คิดเหมือนกัน ทำเหมือนกัน ซื้อเหมือนกัน ขายเหมือนกัน" หรือ "ตัวคือ สินค้าเฉพาะ ที่ไม่เหมือนใคร และ ไม่มีใครเหมือน"
ในโลกนี้ทุกคนอยากทำงานง่ายๆ สิ่งนั้นจึงไร้อนาคต
คนเก่ง คือ คนที่วิ่งหาและทำ สิ่งที่คู่แข่งน้อย ...เพราะ การแข่งขัน คือ การแข่งลดกำไร แข่งลดราคา
"งานหนัก หรือ งานเบา" ไม่ใช่ โชคชะตา แต่คือ "ทางเลือก"
คนเราเลือกอย่างไร ก็ได้อย่างนั้น
"เลือกสบาย งานก็ง่าย แต่จน และไร้อนาคต" ..."เลือกความแตกต่าง มันน่ากลัว มันดูไม่แน่นอน แต่คู่แข่งน้อย มีโอกาสรวย และ มีอนาคตเปิดกว้าง"
คำเตือน "การมีความเฉพาะตัว" ทำยาก เพราะ ต้องใช้ความกล้า คือ กล้าที่จะออกนอกกรอบ กล้าที่จะไม่เหมือนใคร และ ต้องมีความพยายาม ...สุดท้าย เราเลือก ไม่ทำก็ได้ ก็ทำงานหนัก เงินน้อยต่อไป -- ไม่เห็นยาก ชีวิตทุกคน ...เราทุกคนเลือกเองทั้งนั้นแหละ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม #ออมในหุ้น
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสไปออกรายการวิทยุ Business Line & Life ของคุณม่อน .. มีคนสัมภาษณ์ผมเป็น คนหนุ่มรุ่นใหม่ ทายาทกลุ่ม ธุรกิ...
-
6 ข้อ ปฏิบัติของการเป็น ’นักลงทุนแบบทางสายกลาง’ หลังจากผมลงทุนมานานพอสมควรก็พบว่า ’ทางสายกลาง‘ คือ หลักปฏิบัติที่สำคัญที่ทำให้เราประสบความ...
-
ท่านธนินท์มักกล่าวในงานสัมมนาต่างๆ ถึงแนวคิด "สองสูง" ของท่าน -- ซึ่งสูงแรกก็คือ ขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และสูงที่สอง คือขึ้นราคาพื...
-
5 ข้อควรรู้ ‘การคิดเผื่อคนอื่น‘ ทำไมทำให้เราเป็นนักลงทุนที่มีโอกาสสำเร็จมากขึ้น 1. ’คน Gen ก่อน โดยรวมรวยกว่าคน Gen ใหม่ เพราะ เขาคิดสร้างใ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
6 ข้อ หลักคิดที่ทำให้เราไม่สามารถซื้อหุ้นในจุดที่ราคาถูกที่สุด และ ขายหุ้นในเวลาที่แพงที่สุด 1. ‘หุ้นไม่มีจุดต่ำสุด‘ …หลายคนคิดว่า ซื้อหุ้น...
-
AEC ย่อมาจาก ( ASEAN Economic Community ) ..ประเด็นที่น่าสนใจคือ เมื่อ ASEAN รวมตัวกันได้ ก็จะทำให้เกิด Win-Win นั่นก็คือ ภาพรวมเศรษฐกิจในปร...
-
"QE2" ตอนนี้กลายเป็นประเด็นร้อนแรงไปทั่วโลก เนื่องจากลึกๆแล้ว หัวใจของนโยบายนี้ก็คือ "การเปลี่ยนเงินดอลล่าห์ให้เป็นแบงค์กงเต๊...
-
ตอนนี้แนวทางที่พิสูจน์ตัวเอง ได้สวยในระยะยาวก็เห็นจะเป็นแนว Value Investor (จริงๆแนวอื่นก็สวย แต่เผอิญนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก คือ Warren B...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ