วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
อายุเท่าไหร่จึงจะประสบความสำเร็จ(ใช้ Compounding interest!!)
ผมว่าอายุ มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับเป้าหมาย ผมอ่านหนังสือ ของหนูดี แล้วชอบมากที่ว่า ทุกคนมีกล่องอยู่ 1 ใบ ซึ่งกล่องก็เปรียบเสมือนเป้าหมายที่ทุกคนหวังไว้
-- ซึ่งคนที่กล่องเล็กกว่า ก็สามารถหาสิ่งต่างๆมาเติมเต็มได้ง่ายกว่า เช่น บางคนกล่องเล็ก อาจหวังแค่มีรถเก๋งดีๆสักคัน มีบ้านเล็กๆ งานธรรมดา ซึ่งก็ทำได้ไม่ยาก แต่บางคนกล่องใหญ่อยากเป็น นักธุรกิจพันล้าน ดังนั้น เวลาที่จะถึงจุดหมายก็ยากขึ้นตามมา
ผมชอบนั่งคิดว่า ทำอย่างไรถึงจะมีพันล้าน -- เริ่มจากถ้าจบจาก U top ของโลก อาจ Start เงินเดือนที่ หลายหมื่น ทำสัก 5 ปี เงินเดือนน่าจะเลย แสน -- ถ้าลองคิดว่าอยากเก็บเงินได้ปีละล้าน ต้องมีเงินเหลือ เกือบแสน ต่อเดือน นั่นหมายถึงเงินเดือนคุณ ต้องเกือบ 2 แสน
--ซึ่งในเมืองไทย การได้เงินเดือนระดับ 2 แสน ต้องทำงานไม่ต่ำกว่า 15 -20 ปีขึ้นไป -- เพื่อจะเก็บให้ได้ เงินล้านนี่ ยากจริงๆ
ในที่สุดผมก็ถึงบาง อ้อ ว่า การจะมีเป็นร้อยล้านได้ ถ้าไม่เป็นเจ้าของกิจการก็ต้องลงทุน -- การเป็นเจ้าของกิจการ ถ้าสร้างเอง ยากโคตร (ผมลองมาแล้ว แทบอวก) ..ส่วน ถ้าลงทุน มันต้องฉลาด และมันต้องมีเงินทุน -- หลังจากนั้น ผมพยายามศึกษาว่า พวกนักลงทุนที่สำเร็จ รวยเป็น Billionaire ในต่างประเทศ มัน Self made เป็นส่วนใหญ่ แล้วมันหาเงินจากไหนมาลงทุน?
OPM ไง -- Other people Money!!! เอาเงินคนอื่นมาลงทุน (แล้วทำไมคนอื่นมันไม่บริหารเอง วะ งง มาก) ก็อีกนั่นแหละ เพราะพวกมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ ทำงานตัวเป็นเกลียว จะเอาเวลาที่ไหนมาบริหารเงิน ดังนั้น ก็ต้องตกเป็นหน้าที่ของ Fund Manager ทั้งหลาย ที่ Charge ทั้ง Fee และ Capital Gain ซึ่งแพงมาก แต่ถ้าเทียบกับเงินฝากที่เกือบ 0% ผมว่าไม่ต้องมีความรู้มากก็ยังสามารถ beat เงินฝาก ไม่ยากนัก
Startegy ที่ Bull shit น้อยสุด ผมมองที่เงินต้น ประมาณ 3 ล้าน และ "ผลตอบแทน แบบ Compounding ที่ 15% ต่อปี" --ถ้าทำได้จะมี 10 ล้านเมื่อครอบ 10 ปี --จะเป็น 42.5 ล้าน เมื่อ ครบ 20 ปี ---จะเป็น 172.1 ล้าน เมื่อครบ 30 ปี ซึ่งถ้าเริ่มลงทุน จาก 3 ล้าน ตอนอายุ 30 ปี ก็จะได้ 172.1 ล้านเมื่อเกษียณนั่นเอง
แต่ถ้าลงต่อด้วย (15% Compounding เท่าเดิม) พอ 40 ปี ก็จะเป็น 696.4 ล้าน และ พอ 50 ปี ก็จะมี 2,817.5 ล้านบาท -- ตอนนั้นคุณคงอายุ 80 ปี
(ซึ่งถ้าเทียบ เทคโนโลยีการแพทย์ ในอนาคต อายุ 80 ปี อาจจะคล้ายกับคน 60 ปี ในปัจจุบัน เพราะอีก 50 ปี ผมเชื่อ ว่า Life expectency ของมนุษย์ น่าจะสูงเลย 150 ปี ไปแล้ว เท่ากับว่า เมื่อคุณเลิกลงทุนในอีก 50 ปี ข้างหน้า คุณจะเป็นแค่ วัยกลางคนอีกคนที่รวยเป็นพันล้านบาทนั่นเอง --- น่าคิดไหมครับ???)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 สิ่ง ที่จะต้องดูในการเล่นหุ้นไทยขาขึ้น รอบใหม่ 1. ‘เด้งจากหุ้นใหญ่‘ …ในการเริ่มขาขึ้นรอบใหม่ จะเริ่มจากหุ้นใหญ่ เพราะ เม็ดเงินต่างๆ จะเข้...
-
7 ความแตกต่างระหว่าง ลงทุนหุ้นไทย กับ หุ้นโลก 1. ‘Level Playground’ …เดิมทีคนที่สามารถไปลงทุนต่างประเทศต้องเป็นคนรวยมากๆ ใช้เงินเยอะ แต่ปัจ...
-
7 ข้อควรรู้ การลงทุนยาว กับ การเทรดสั้น อะไรรวยเร็วกว่ากัน 1. ‘การเทรดได้เงินเร็วกว่า’ …แต่ข้อเสียก็คือ เสียเงินเร็วพอๆ กัน ถ้าจับจังหวะไม่...
-
7 เรื่อง เบื้องลึกเบื้องหลังของคำว่า ‘เงิน’ ในโลกปัจจุบัน 1. ‘เงินในปัจจุบัน เป็นเงิน Fiat’ …เงิน Fiat สร้างจากหนี้ แปลว่า เงินในปัจจุบัน ไ...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"ฉันอยากเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว" นั่นคือ ความปรารถนาอันดับหนึ่ง จากการสำรวจความคิดเห็นของคนรุ่นใหม่ ใช่!! ใครๆ ก็อยากเป็น ...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
“อยากเอาเรื่อง Alpha มาเล่าให้ฟัง” ...ในทุกสิ่งมีชีวิต จะมีจ่าฝูง มีหัวหน้า เช่น ฝูงลิง ฝูงหมาป่า ก็จะมีจ่าฝูง ...เรื่องที่น่าสนใจก็คือ ไ...
-
8 ข้อต้องดู นักเล่นหุ้นสาย growth เดิมทีเล้นหุ้น value ก็ปันผลดีอยู่แล้ว ...แต่ยุคนี้ ควรคัดหุ้น growth เข้าพอร์ตด้วย เพื่อเร่งให้พอร์ตเราโ...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...