แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อายุเท่าไหร่จึงจะประสบความสำเร็จ(ใช้ Compounding interest!!)


ผมว่าอายุ มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับเป้าหมาย ผมอ่านหนังสือ ของหนูดี แล้วชอบมากที่ว่า ทุกคนมีกล่องอยู่ 1 ใบ ซึ่งกล่องก็เปรียบเสมือนเป้าหมายที่ทุกคนหวังไว้

-- ซึ่งคนที่กล่องเล็กกว่า ก็สามารถหาสิ่งต่างๆมาเติมเต็มได้ง่ายกว่า เช่น บางคนกล่องเล็ก อาจหวังแค่มีรถเก๋งดีๆสักคัน มีบ้านเล็กๆ งานธรรมดา ซึ่งก็ทำได้ไม่ยาก แต่บางคนกล่องใหญ่อยากเป็น นักธุรกิจพันล้าน ดังนั้น เวลาที่จะถึงจุดหมายก็ยากขึ้นตามมา

ผมชอบนั่งคิดว่า ทำอย่างไรถึงจะมีพันล้าน -- เริ่มจากถ้าจบจาก U top ของโลก อาจ Start เงินเดือนที่ หลายหมื่น ทำสัก 5 ปี เงินเดือนน่าจะเลย แสน -- ถ้าลองคิดว่าอยากเก็บเงินได้ปีละล้าน ต้องมีเงินเหลือ เกือบแสน ต่อเดือน นั่นหมายถึงเงินเดือนคุณ ต้องเกือบ 2 แสน

--ซึ่งในเมืองไทย การได้เงินเดือนระดับ 2 แสน ต้องทำงานไม่ต่ำกว่า 15 -20 ปีขึ้นไป -- เพื่อจะเก็บให้ได้ เงินล้านนี่ ยากจริงๆ

ในที่สุดผมก็ถึงบาง อ้อ ว่า การจะมีเป็นร้อยล้านได้ ถ้าไม่เป็นเจ้าของกิจการก็ต้องลงทุน -- การเป็นเจ้าของกิจการ ถ้าสร้างเอง ยากโคตร (ผมลองมาแล้ว แทบอวก) ..ส่วน ถ้าลงทุน มันต้องฉลาด และมันต้องมีเงินทุน -- หลังจากนั้น ผมพยายามศึกษาว่า พวกนักลงทุนที่สำเร็จ รวยเป็น Billionaire ในต่างประเทศ มัน Self made เป็นส่วนใหญ่ แล้วมันหาเงินจากไหนมาลงทุน?

OPM ไง -- Other people Money!!! เอาเงินคนอื่นมาลงทุน (แล้วทำไมคนอื่นมันไม่บริหารเอง วะ งง มาก) ก็อีกนั่นแหละ เพราะพวกมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ ทำงานตัวเป็นเกลียว จะเอาเวลาที่ไหนมาบริหารเงิน ดังนั้น ก็ต้องตกเป็นหน้าที่ของ Fund Manager ทั้งหลาย ที่ Charge ทั้ง Fee และ Capital Gain ซึ่งแพงมาก แต่ถ้าเทียบกับเงินฝากที่เกือบ 0% ผมว่าไม่ต้องมีความรู้มากก็ยังสามารถ beat เงินฝาก ไม่ยากนัก

Startegy ที่ Bull shit น้อยสุด ผมมองที่เงินต้น ประมาณ 3 ล้าน และ "ผลตอบแทน แบบ Compounding ที่ 15% ต่อปี" --ถ้าทำได้จะมี 10 ล้านเมื่อครอบ 10 ปี --จะเป็น 42.5 ล้าน เมื่อ ครบ 20 ปี ---จะเป็น 172.1 ล้าน เมื่อครบ 30 ปี ซึ่งถ้าเริ่มลงทุน จาก 3 ล้าน ตอนอายุ 30 ปี ก็จะได้ 172.1 ล้านเมื่อเกษียณนั่นเอง

แต่ถ้าลงต่อด้วย (15% Compounding เท่าเดิม) พอ 40 ปี ก็จะเป็น 696.4 ล้าน และ พอ 50 ปี ก็จะมี 2,817.5 ล้านบาท -- ตอนนั้นคุณคงอายุ 80 ปี

(ซึ่งถ้าเทียบ เทคโนโลยีการแพทย์ ในอนาคต อายุ 80 ปี อาจจะคล้ายกับคน 60 ปี ในปัจจุบัน เพราะอีก 50 ปี ผมเชื่อ ว่า Life expectency ของมนุษย์ น่าจะสูงเลย 150 ปี ไปแล้ว เท่ากับว่า เมื่อคุณเลิกลงทุนในอีก 50 ปี ข้างหน้า คุณจะเป็นแค่ วัยกลางคนอีกคนที่รวยเป็นพันล้านบาทนั่นเอง --- น่าคิดไหมครับ???)

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ