ช่วงนี้ Product ทางการเงินที่ร้อนแรงคงหนีไม่พ้น Futures ..ผมเลยจะยกมาเล่าให้ฟัง เพราะหลายๆคนเล่นไปยังไม่รู้เลยว่า "แล้วจริงๆไอ้ตัว Futures มันต่างกับหุ้นอย่างไร"
ก่อนอื่นต้องแยกภาพให้ชัดเจนระหว่าง หุ้น กับ Futures ...คือ หุ้นนี่เป็นตราสารทุน ดังนั้น การซื้อหุ้นก็เท่ากับว่าเราเข้าไปเป็นเจ้าของ ส่วนหนึ่งของกิจการ มากน้อยตามจำนวนหุ้นที่เราถือ ..แต่อย่าง Futures นี่มันเป็นหนึ่งในตราสารอนุพันธ์ ที่สร้างขึ้นมาลดความเสี่ยง (แต่พวกเราเอามาเพิ่มความเสี่ยง คือใช้เก็งกำไรกันมากกว่า แบบว่าใช้เงินน้อยเก็งกำไร Futures ที่แต่ละสัญญามีมูลค่าสูงกว่าเงินที่เราเอามาเก็งมากนัก..หุ หุ)
สมัยก่อนเวลาเราซื้อหุ้นเราซื้อได้อย่างเดียว ดังนั้น เราจะเล่นได้เฉพาะขาขึ้น แต่พอมีตราสารอนุพันธ์อย่าง Futures ก็ทำให้เราเล่นขาลงได้ ซึ่งก็คือ การ Short ตลาด "งง ไหมครับ ..ใช่ๆ งง" (เอ้ามาทำความเข้าใจกัน)
เดิมทีตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ประเทศเราเริ่มเอามาใช้กับพืชผลทางการเกษตร ตลาด AFET ..หลักการก็คือ เดิมทีเวลาชาวนา ชาวไร่ เพาะปลูกก็ต้องพึ่งพาชีวิตกับไสยศาสตร์เพียงอย่างเดียว นั่นก็คือ เมื่อชาวนา ชาวไร่ลงทุนเพาะปลูก ก็ไม่สามารถรู้ได้เลยว่า การเพาะปลูกนั้น จะกำไรหรือขาดทุน เพราะไม่รู้ว่า เวลาเก็บเกี่ยวพืชผลเสร็จแล้วเอามาขาย จะขายได้ราคาเท่าไหร่ ..."สรุปพอขายจริง ก็โดนกดราคา"
..นี่จึงเป็นที่มาของตลาด AFET (คือเราไป Copy ต่างประเทศมา คือ ชาวนา ชาวไร่ ของต่างประเทศเขารวย ก็เพราะเขาสามารถรู้ราคาขายได้ก่อนเพาะปลูก ทำให้รู้แน่นอนว่า การเพาะปลูกแต่ละครั้งจะมีกำไรเท่าไหร่)... นี่มันเป็นทฤษฎี เพราะพอเอาเข้าจริง ชาวนา ชาวไร่ของไทย ไม่ได้ใช้ตลาด AFET เพราะไม่มีความรู้ เงินก็ไม่มี สรุปก็เลยไม่ work กลับไปสู่ กลไกประกันราคา หรือประกันรายได้ แนวทางคนจนเหมือนเดิม
"เอาละครับ นี่ก็เป็นที่มาของการพัฒนาตราสารอนุพันธ์ขึ้นมาในประเทศไทย" เพราะหลังจากตลาด สิ้นหวังกับ ตลาดซื้อขายล่วงหน้าทางการเกษตรของไทย ก็เลยเบนเข็มมาพัฒนา ตลาดซื้อขายล่วงหน้าในตลาดการเงินบ้าง(เผื่อรุ่ง!!) ..นี่แหละเป็นที่มาของ TFEX ตลาด Futures ทางการเงินแห่งแรกในประเทศไทย
"หลายคนถามว่า เปิดมาทำไม เห็นในตลาดมีแต่ Broker มาอัดกันไปมา อย่างกับเล่นโป๊กเกอร์ ..ส่วนรายย่อยก็ไม่ค่อยกล้าเข้ามาเล่น ..(ก็แน่ละครับ ตลาดนี้มีแต่เสือ สิงห์ กระทิงโหด อย่างเจ้าหนุ่ม Wizard kid นี่คอย เชือดนิ่มๆ ฟันบรรดาหมู ที่หลงเข้ามา..เอิ๊ก ๆ ๆ )" ฮึม!! ฟังดูเลวร้าย แต่มันก็เป็นอะไรที่ต้องเรียนรู้ เพราะ Futures มันเป็นเครื่องมือสำหรับตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว ..เนื่องจากถ้าคุณเข้าใจ Futures คุณจะสามารถเล่นหุ้นได้ทั้งขาขึ้นและขาลง นอกจากนี้หากใครเข้าใจเครื่องมืออย่าง Futures ได้อย่างดีแล้ว มันจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง รวมทั้งสามารถยกระดับชีวิตของเกษตรไทยได้เลย "คำถามคือ ตอนนี้มีกี่คนที่รู้เรื่อง Futures!!"
งั้นมาสรุปที่พูดมากันครับว่า ตลาดตราสารอนุพันธ์ (Derivatives ) ในประเทศไทยตอนนี้มีอยู่ 2 ตลาด คือ
- AFET เป็นตลาดซื้อขาย Futures ของ พืชผลทางการเกษตร ซึ่งตอนนี้ยังมีไม่กี่ตัว ก็คือ ข้าว , ยาง และ ก็มันสำปะหลัง
- TFEX คือ ตลาด Futures ทางการเงิน มีสินค้าให้ซื้อ 4 ตัวคือ ตัว SET50 Index Futures , หุ้นบางตัว เช่น Futures ของบริษัท , SET50 index option และก็ Gold Futures (คือ ไอ้ที่มันพอจะมีการซื้อขายบ้าง ก็คือ ตัว SET50 Index Futures และก็ Gold Futures นี่แหละ)
--นี่แหละครับ เป็นจุดมุ่งหมายของ Futures "ก็คือ คนที่คิดว่าจะขึ้น ก็สามารถเก็งกำไร โดยการซื้อ Futures ของ SET50 Index Futures ในขาขึ้น "เขาเรียกว่า Long" ...ส่วนอีกคนที่คิดว่าลง ก็สามารถซื้อ SET50 Index Futures ในขาลง "เขาเรียกว่า Short" --- ความมันส์มันอยู่ตรงนี้ !!
สิ่งที่มันส์ก็คือ Futures มันเป็น Zero Sum Game "คือ คนนึงได้เงิน ก็ต้องมีอีกคนเสียเงิน" ดังนั้น ถ้าคนที่ long Future ทายถูก ไอ้คนที่ Short Futures ก็ซวย ..ดังนั้น เงินจากกระเป๋าของคนที่มองผิด ก็จะมาเข้ากระเป๋าของคนที่เดาถูก (เหมือนเล่น Casino เลย มันส์จริงๆ)
แต่จริงๆ ถ้าเอาเครื่องมือ Futures มาใช้อย่างถูกวิธี คุณสามารถลดความเสี่ยงของ Port หรือ ในมุมของพืชผลทางการเกษตร คุณก็สามารถลดต้นทุนของ Stock สินค้า เพราะคุณสามารถขายล่วงหน้าแล้วถือกระดาษแทนสินค้าก็ได้ ..หรือใช้ลดความเสี่ยงคือ ถ้าชาวนา รู้ว่าจะขายได้ราคาเท่าไหร่ อาจเปลี่ยนใจ ไม่ปลูกข้าว ไปปลูกสินค้าที่ขายได้แพงกว่า
... ครับนี่คือ ภาพคร่าวๆของ Futures (ซึ่งทาง S2M จัดเปิดสัมมนา โดยเอาเจ้าหนุ่ม Wizard kid ผู้กรำศึกในตลาด Futures อย่างโชกเลือดมา ถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ที่สนใจ มาแฉกันว่า จะเล่น Futures อย่างไรถึงจะกำไร )... "ไว้เดี๋ยวมาเล่าเรื่อง Futures ในโอกาสต่อไปครับ"
เผยโฉม หนุ่ม Wizard kid ผู้จะมาไขกุญแจ Futures กัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น