วันศุกร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
"ข่าว" + ทุบ + "หุ้นตก" อะไรที่คุณเชื่อได้!!
วันนี้ตลาดปั่นป่วนอีกครั้ง "ทุบต่อ + ข่าว" .. ประเด็นคือ ทุบก่อนหรือข่าวมาก่อน (สังเกตุได้ว่า ทุบก่อน ..แสดงว่า เจ้ามือขายก่อนแล้ว ถือเงินสด จากนั้นค่อยมีการปล่อยข่าว) เหมือนแก็งค์ต้มตุ๋นอย่างเป็นระบบเลยนะครับนี่ (ฮา ซะ)
จริงๆแล้ว ถ้ามาวิเคราะห์ให้ดี คือ ใครก็ตามที่เล่นหุ้นตามกระแส มันโดนทุกคนแหละครับ จะเจ็บมากหรือน้อยอันนี้ก็แล้วแต่ โชคชะตา !!
ช่วงนี้จะมีข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์ธุรกิจ เช่น บอกว่าเศรษฐีผู้ถือหุ้นใหญ่ๆ ทยอยขายหุ้นของตัวเองออกมาทำกำไร ตรงตลาดแถวๆพันจุด เพื่อถือเงินสด ..ประเด็นที่ผมได้จากข่าวคือ เจ้าของเหล่านี้ขายหุ้นเป็นเปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ของหุ้นที่เขาถืออยู่ในมือ ..ไอ้เรื่องที่บอกว่าเจ้าของขายหุ้น มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่คนซื้อหุ้นก็ต้องทำกำไรเป็นระยะ ดังนั้น การที่เจ้าของต่างๆทยอยขายหุ้นในช่วง 1,000 จุดซึ่งเป็นจุดกลมๆ ผมก็มองว่า "ไม่ใช่เรื่องแปลก"
หากวิเคราะห์ให้ดี เจ้าของหุ้นเหล่านี้ ขายออกมาจริง แต่ถ้าเทียบเป็นสัดส่วนก็ถือว่าไม่มาก ..วิเคราะห์ต่อไป คือ ถ้าเจ้าของหุ้นเหล่านี้ ขายออกไปก็จะได้เงินสด กลับมาถือเป็นจำนวนมาก "คำถามคือ ถือเงินสดเพื่อไร" (ถูกต้อง!! ก็คือถือเพื่อหาจังหวะโอกาส ...พูดให้เห็นภาพคือ ถือเงินสดรอให้หุ้นตก จะได้เข้ามาซื้อหุ้นถูกๆไงครับ) ...คำถามคือ ราคาหุ้นขึ้นกับอะไร
ใช่!! ราคาหุ้นไม่ได้ขึ้นกับพื้นฐาน มันขึ้นกับ Demand & Supply ..ถ้ามีคนอยากซื้อเยอะ ราคาหุ้นก็จะขึ้น แต่ถ้ามีคนต้องการขายมาก ราคาหุ้นก็จะลง
กลับมาที่ประเด็นที่ผมพูดตอนแรกว่า ตลาดหุ้นเที่ยวนี้ขึ้นมาด้วยอะไร ..อย่างแรกก็ใช่ !! ขึ้นมาด้วยพื้นฐานบางส่วน แต่สาเหตุหลักๆที่หุ้นขึ้นมาตอนนี้คือ หนีแบงค์กงเต็กดอลล่าห์ ดังนั้น ในระยะยาวผมไม่เห็นสัญญาณ Improve หรือประเด็นที่ อเมริกาจะออกมา บอกว่าจะ หยุดพิมพ์เงิน(เฟ้อ) ...เมื่อไอ้กันพิมพ์ต่อ ภาพใหญ่ Asset ต่างๆรวมทั้งหุ้น ก็ยังคง Bullish ต่อไป
ดังนั้น การที่ตลาดหุ้นปรับฐานลงในเที่ยวนี้ถือเป็นโอกาสดี สำหรับคนที่จ้องจะซื้อให้เข้ามาซื้อ ..ประเด็นคือ คุณกำลังเล่นกับ Demand & Supply ของตลาดอยู่ ..ดังนั้น ใครเดาใจฝ่ายตรงข้ามได้ดี คุณก็จะชนะ ..ตอนนี้เศรษฐีหลายคน ทุบแล้วรอเก็บ จะเก็บจุดไหน!! ใครเข้าก่อนอาจเก็บแพง แต่ถ้าใครเข้าช้าก็ไม่ได้ของ "ยากโคตร!!"
อย่างไรก็ดี ในภาพใหญ่ ..ราคาต้องไปต่อ ตราบเท่าที่มีคน รอจะซื้อหุ้นคืน (ซึ่งตอนนี้ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น) ...คนถือยาวก็ชิวไป จะทยอยซื้อเพิ่มก็น่าสน ส่วนคนเล่นสั้นก็เดาใจฝ่ายตรงข้ามคุณให้ดีละกัน
ตลาดลงแรงคือ จังหวะที่คุณควรเข้าซื้อนั่นเอง ..แต่จะจังหวะไหน ขึ้นกับความสามารถของคุณ!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
7 จุด ในงบการเงินที่ใช้ในการจับผิด จับโป๊ะหุ้นเด็ด !! 1. ’Net Profit Margin’ …ขาย 100 บาท ได้กำไรกี่บาท ? …ยิ่งเยอะ ก็ยิ่งแสดงว่า การแข่งขั...
-
6 หลักการ คัดหุ้นปันผลดีเติบโตแล้วเลี้ยงเราได้ไปยาวๆ หลักการนี้สำหรับ คนชอบซื้อแล้วถือ กินปันผลยาวๆ 1. ‘หุ้นมี Market cap ขนาดใหญ่‘ …หุ้น...
-
7 ข้อ ‘มิตร’(ฉาชีพ) กับ การลงทุน 1. ‘คนที่โกงเราได้คือคนที่เราไว้ใจ’ …ถ้าเราไม่ไว้ใจเราคงไม่เอาเงินให้เขาตั้งแต่แรก 2. ‘ข้อเสนอของเขามัน T...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น