วันเสาร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2558
ทำไมบริษัท "สมองไหล" โดนซื้อตัว ?
ถ้าคิดในกรอบ เราก็จะมองว่า "บริษัทสมองไหล เพราะ คนเดี๋ยวนี้ มองแต่เงิน เห็นแก่ตัว ...ไม่เอาไหน ?" ...เฮ้ย!! ถามจริงๆ มองแบบนี้ มันทำให้บริษัทหยุดสมองไหลหรือเปล่า ...เปล่าเลย แถมมุมมองแบบนี้ ยิ่งทำให้ยิ่งแย่เข้าไปอีก !!
มามอง แบบ "แหกกฏ" บ้าง ...
การที่สมองไหล หรือ บริษัทโดนคู่แข่งซื้อตัว ให้เงินเดือนมากกว่า ให้อะไรมากกว่า ...ก็แปลว่า "เขาไม่พอใจที่เดิม"
...คำถามแรก ก่อน ที่เขาจะโดนซื้อตัว ผมเชื่อว่า คนๆนั้น คือ พนักงานที่เก่ง ที่เขารู้สึกว่า "เขาทำงานหนัก" แต่พอสิ้นปี เขาได้เงิน ได้โบนัส เท่าๆ กับคนที่ไม่ทำงาน ...อันนี้คือ เคส Classic ของบริษัทแบบไทยๆ เลย คือ คนเก่ง คนไม่เก่ง คนขยัน คนขี้เกียจ ทุกคนได้ผลตอบแทนเท่ากัน ...ถามหน่อย มันแฟร์ไหม? -- ใช่ ถ้าทำเท่าไหร่ได้เงินเท่ากัน มันก็คือ คุณเอาใจคนขี้เกียจ เพราะ คนขี้เกียจก็จะบอกว่า ดีแล้ว กรูขี้เกียจ ให้ไอ้พวกขยัน(แต่โง่) ทำงาน เพราะ เดี๋ยวปลายปี ก็ได้โบนัสเท่ากัน !!
คิดง่ายๆ.. แบบนี้คือ การสนับสนุนให้ทุกคนขี้เกียจ ...แล้วก็เป็นการบอกโดยนัยว่า คนเก่ง มรึงควรไปที่อื่น ...ไม่แปลก ที่พอมีบริษัทอื่น มาเสนอโอกาสงานที่ให้คนเก่งได้แสดงฝีมือ และ ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม เขาก็ยินดีที่จะไปที่ใหม่ --ตกลง "สมองไหล" เพราะใคร ?
ก็เพราะบริษัทเดิม ไม่ให้ความเป็นธรรมกับคนขยันไง !!
... เหมือน ระบบ คอมมิวนิสต์ น่ะ ...ทุกคนทำเท่าไหร่ก็ได้เท่ากัน ..สรุป มันก็เลยล่มสลาย เหมือน โซเวียด ...ใช่!! วันนี้เข้าสู่ยุคทุนนิยม แต่บริษัทไทยส่วนใหญ่ ยังคิดแบบ คอมมิวนิสต์ ...ก็ "สมองไหล" เลยเป็นเรื่องปกติ
-- มาสู่ทางแก้บ้าง ? ...ถ้าคิดในกรอบ ก็คือ "บริษัทดวงไม่ดี 'สมองไหล' เดี๋ยวไปเอาหมดดู หรือ หมอฮวงจุ้ย มาแก้จะได้ ไม่สมองไหล ... หมอดู ก็เอาตุ๊กตา มาตั้งให้หน้าบริษัท แล้ว บอกให้ย้ายเสาต้นนี้ออกไป ...หมอดูก็ขอค่าดู 10 ล้าน ...แล้วหมอดูก็เดินจากไป ...โดย คิดในใจว่า "ไอ้ควายเอ้ย !! หาสิบล้านโคตรง่าย..55"
ถ้าคิดนอกกรอบ ก็ต้อง มาดูว่าปัญหา อยู่ตรงที่ คนทำงานหนัก ได้ผลตอบแทน ไม่แฟร์ ก็ต้องหา ระบบวัดผลมาใหม่ ...ให้โบนัสตามผลงาน ...สร้างให้เกิดความยุติธรรมนั่นเอง
สุดท้ายคนเก่งอาจได้โบนัส 100 เดือน ในขณะที่คนไม่ขยันอาจไม่ได้โบนัสเลย ...เขาก็จะรู้ตัวเองว่า ต้องปรับปรุงตัวเอง หรือ คนไม่เก่งก็จะได้รู้ตัวว่า เขาอาจไม่เหมาะกับงานนี้ แล้วก็ให้โอกาสเขาได้ออกไปหางานที่เหมาะ ไม่ต้องนั่งทนทำงานที่ไม่ชอบและไม่เก่งต่อไป
...สุดท้ายในบริษัทก็จะเหลือแต่คนเก่ง ที่เหมาะกับงานที่เขาทำนั่นเอง
"ผมว่า การคิดแหกกฏ ก็คือ กล้าคิดนอกกรอบเดิมๆ แต่วางอยู่บนหลักการที่สมเหตุ สมผลนั่นเอง"
ใช่!! สร้างล้านแรกต้องแหกกฏ ....!!!
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
6 ข้อ ที่เราควรรู้ว่าทำไม VI ยัง work ในตลาดหุ้นไทย !! 1. VI คือ การมองยาวในขณะที่อื่นมองสั้น …การมองยาวซื้อแล้วถือ ส่วนการมองสั้นคือการซื้...
-
เข้าใจ Wealth vs Cashflow เพื่อการลงทุนระยะยาวที่ดีขึ้น 1. Wealth คือ ความมั่งคั่งของเราทั้งหมด รวมสินทรัพย์ทุกอย่างที่เราถือครอง บ้าน ที่...
-
เคยสงสัยไหมว่าบางคน ‘โคตรเก่ง โคตรฉลาด’ แต่ทำไมยังไม่รวยสักที ? 1. มี Lifestyle inflation …พอมีรายได้เพิ่ม ก็มีรายจ่ายเพิ่มมากกว่าตลอด …ใช้...
-
เลือกหุ้นให้แม่น ..ไม่ใช่ทำนายว่าอะไรจะเปลี่ยน ให้มองหา อะไรที่ไม่เคยเปลี่ยน !! 1. หุ้นที่ดีแล้ว ไม่เคยทำให้เรารวย ….หุ้นที่ดีแล้ว ก็แปลว่า...
-
8 ข้อสรุป The Almanack of Naval Ravikant Selfmade Billionaire ลูกครึ่งอินเดีย …อพยพมาอยู่อเมริกาตอน 9 ขวบ เลี้ยงโดยแม่เลี้ยงเดี่ยว …เป็นนั...
-
ความแตกต่างอย่างสุดขั้ว ‘พอร์ตเพื่อรวย‘ ต่างกับ ’เพื่อรักษาความรวย’ ยังไง ? 1. พอร์ตเพื่อรวย คือ มองหาโอกาส ’เชิงรุก’(Active) …ส่วน เพื่อร...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
ศิลปะของการปฏิเสธ ทำให้เรามีเวลามากขึ้น รวยเพิ่มขึ้น …สบายๆ ‘เรามักจะเก่งในการเลือกทำ ..ก็คือทำสิ่งที่ดีที่สุด ….แต่จริงๆ แล้ว สิ่งที่สำคั...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น