แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน

แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน
SE-ED Bestseller Series หนังสือ "แกะรอยหยักสมองรวยหุ้นหมื่นล้าน" โดย ผมเอง (ที่ SE-ED ทุกสาขาทั่วประเทศ!!)

แนะนำ Facebook ของผมครับ

แนะนำ Facebook ของผมครับ
คลิ๊กเข้ามาเป็นเพื่อนกันใน Facebook ครับ!!

วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

4 อาชีพ ควรรู้แบบ ESBI

4 อาชีพควรรู้ แบบ ESBI

หนึ่งในหนังสือที่เปลี่ยนความคิดผมในเรื่องการเงินเล่มแรก ต้องบอกเลยว่าคือ หนังสือ พ่อรวยสอนลูก Rich Dad Poor Dad

ครั้งแรกที่ได้อ่าน ก็ตอนผมยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ...เออ 20 ปี ก่อนนุ่น ..555

Robert kiyosaki ผู้เขียน เขาอธิบาย อาชีพในโลกใบนี้ แบบเข้าใจง่ายมาก เป็น 4 อาชีพ คือ ESBI

1. ‘E = employee คือ อาชีพ ลูกจ้าง’ ...อาชีพนี้มักเป็นอาชีพแรกของคนส่วนใหญ่ คือ ทำงานให้นายจ้าง ..หลักคือ เอาแรงงานและเวลาเราขายแลกเงินเดือน

ข้อดีของอาชีพแบบนี้ คือ หาเงินง่าย แต่รวยยาก...ที่ว่าง่าย เพราะ เราแค่เดินไปสมัครงาน ก็ได้แล้ว ...แต่รวยยาก เพราะ ‘ขายเวลา’ มันเป็นสิ่งที่เราใช้แล้วหมดไป จำกัด

2. ‘S = Self-employ คือ ทำธุรกิจส่วนตัว’ ...อาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัวฮิตสุดสำหรับยุคนี้ เพราะ คนรุ่นใหม่ ใครๆ ก็อยากเปิดธุรกิจส่วนตัว

ข้อดี ของทำธุรกิจส่วนตัวคือ มีโอกาสรวย แต่ข้อเสีย คือ มีโอกาสเจ๊ง ...ลูกจ้าง แบบแรก อย่างมากก็ตกงาน ก็หางานใหม่ แต่เจ้าของธุรกิจถ้าพลาดคือ เจ๊ง หมดตัว หรือ เป็นหนี้

แต่ข้อจำกัดของ ‘การทำธุรกิจส่วนตัว’ คือ รวยยาก ...เพราะ ใช้แรงงานตัวเองเข้าแลก เหมือนแบบแรก ดังนั้น หยุดทำงานไม่ได้ ...หยุดเมื่อไหร่เงินก็ไม่เข้าแล้ว

ตัวอย่างของ Self-employ ก็เช่น ธุรกิจ SME , ค้าขาย , มืออาชีพ เช่น หมอเปิดคลินิคของตัวเอง , ช่าง เปิดอู่ซ่อมรถของตัวเอง , พ่อครัวเปิดร้านอาหาร ...ก็มืออาชีพทั้งหมดแหละ ซึ่งคนเหล่านี้หาเงินได้มากกว่ากลุ่มแรก แต่ก็หยุดไม่ได้ เลยรวยยากนั่นเอง

3. ‘B = Business Owner คือ เจ้าของธุรกิจที่มีระบบ’ ...จริงๆ ก็คล้ายแบบที่สอง คือ เป็นเจ้าของธุรกิจเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ แบบที่สาม เป็น ธุรกิจที่สร้างระบบ

ตัวอย่างชัดๆ ของแบบที่สาม ก็คือ ‘เป็นเจ้าของธุรกิจที่สามารถเอาเข้าตลาดหุ้นได้’ ...หลายคนอาจจะคิดว่า ต้องเป็น อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบัน เราเห็น ธุรกิจทั้วๆไป ที่สร้างระบบได้ แบบร้านอาหาร , ร้านนวด ก็สามารถเข้าตลาดหุ้นได้ หากรู้จักการสร้างระบบ เช่น After You , MK สุกี้ , Com7 , SPA เป็นต้น

หัวใจของแบบที่สาม จึงเป็น ‘ระบบ’ ...ต้องออกแบบธุรกิจ ให้พึ่งระบบ ไม่ใช่พึ่งเจ้าของ แปลว่า ธุรกิจต้องทำเงินได้ แม้ไม่มีเจ้าของก็ตาม

ทุกวันนี้มี ผู้ให้คำปรึกษา วางระบบ และ พาธุรกิจเข้าตลาด เยอะแยะ ทำให้ เรื่องนี้ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมของคนปกติอีกต่อไป

4. ‘I = Investor คือ อาชีพนักลงทุน’ ..หลักๆ ของอาชีพนักลงทุน คือ การซื้อสินทรัพย์แล้วให้มันทำงานแทนเรา

ใช่!! ทุกอาชีพ สามารถผันตัวสู่ อาชีพนักลงทุนได้ทันที ไม่ต้องรอ ขอให้ มีเงินเริ่มต้นเล็กน้อย กับ มีความรู้ ...ก็สามารถเริ่มได้แล้ว

แต่คนส่วนใหญ่ มักเข้าใจผิดว่า แค่ซื้อขายหุ้น ก็คือ นักลงทุน แต่ไม่ใช่ครับ ...ถ้าซื้อขายหุ้นเร็วๆ แบบ Trader อันนั้น เป็น S ไม่ใช่เป็น I

เพราะ I หรือ Investor (นักลงทุน) คือ ต้องให้เงินทำงานแทน เช่น ออมในหุ้น แล้วกินปันผล , ออมในอสังหา แล้วกิน ค่าเช่า

อาชีพนักลงทุนนี่แหละ ถ้ามี ปันผล มากพอ ก็สามารถมีอิสรภาพทางการเงิน เรียกได้ว่า เกษียณได้แบบสบายที่สุดนั่นเอง

ลองสำรวจตัวเองว่าเราอยู่กลุ่มอาชีพไหน แล้วจะผันตัวไปสู่อาชีพอื่นได้อย่างไร ...เอาใจช่วยครับ !!

#ภาววิทย์กลิ่นประทุม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา

"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ