4 อาชีพควรรู้ แบบ ESBI
หนึ่งในหนังสือที่เปลี่ยนความคิดผมในเรื่องการเงินเล่มแรก ต้องบอกเลยว่าคือ หนังสือ พ่อรวยสอนลูก Rich Dad Poor Dad
ครั้งแรกที่ได้อ่าน ก็ตอนผมยังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย ...เออ 20 ปี ก่อนนุ่น ..555
Robert kiyosaki ผู้เขียน เขาอธิบาย อาชีพในโลกใบนี้ แบบเข้าใจง่ายมาก เป็น 4 อาชีพ คือ ESBI
1. ‘E = employee คือ อาชีพ ลูกจ้าง’ ...อาชีพนี้มักเป็นอาชีพแรกของคนส่วนใหญ่ คือ ทำงานให้นายจ้าง ..หลักคือ เอาแรงงานและเวลาเราขายแลกเงินเดือน
ข้อดีของอาชีพแบบนี้ คือ หาเงินง่าย แต่รวยยาก...ที่ว่าง่าย เพราะ เราแค่เดินไปสมัครงาน ก็ได้แล้ว ...แต่รวยยาก เพราะ ‘ขายเวลา’ มันเป็นสิ่งที่เราใช้แล้วหมดไป จำกัด
2. ‘S = Self-employ คือ ทำธุรกิจส่วนตัว’ ...อาชีพเจ้าของธุรกิจส่วนตัวฮิตสุดสำหรับยุคนี้ เพราะ คนรุ่นใหม่ ใครๆ ก็อยากเปิดธุรกิจส่วนตัว
ข้อดี ของทำธุรกิจส่วนตัวคือ มีโอกาสรวย แต่ข้อเสีย คือ มีโอกาสเจ๊ง ...ลูกจ้าง แบบแรก อย่างมากก็ตกงาน ก็หางานใหม่ แต่เจ้าของธุรกิจถ้าพลาดคือ เจ๊ง หมดตัว หรือ เป็นหนี้
แต่ข้อจำกัดของ ‘การทำธุรกิจส่วนตัว’ คือ รวยยาก ...เพราะ ใช้แรงงานตัวเองเข้าแลก เหมือนแบบแรก ดังนั้น หยุดทำงานไม่ได้ ...หยุดเมื่อไหร่เงินก็ไม่เข้าแล้ว
ตัวอย่างของ Self-employ ก็เช่น ธุรกิจ SME , ค้าขาย , มืออาชีพ เช่น หมอเปิดคลินิคของตัวเอง , ช่าง เปิดอู่ซ่อมรถของตัวเอง , พ่อครัวเปิดร้านอาหาร ...ก็มืออาชีพทั้งหมดแหละ ซึ่งคนเหล่านี้หาเงินได้มากกว่ากลุ่มแรก แต่ก็หยุดไม่ได้ เลยรวยยากนั่นเอง
3. ‘B = Business Owner คือ เจ้าของธุรกิจที่มีระบบ’ ...จริงๆ ก็คล้ายแบบที่สอง คือ เป็นเจ้าของธุรกิจเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ แบบที่สาม เป็น ธุรกิจที่สร้างระบบ
ตัวอย่างชัดๆ ของแบบที่สาม ก็คือ ‘เป็นเจ้าของธุรกิจที่สามารถเอาเข้าตลาดหุ้นได้’ ...หลายคนอาจจะคิดว่า ต้องเป็น อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ แต่ปัจจุบัน เราเห็น ธุรกิจทั้วๆไป ที่สร้างระบบได้ แบบร้านอาหาร , ร้านนวด ก็สามารถเข้าตลาดหุ้นได้ หากรู้จักการสร้างระบบ เช่น After You , MK สุกี้ , Com7 , SPA เป็นต้น
หัวใจของแบบที่สาม จึงเป็น ‘ระบบ’ ...ต้องออกแบบธุรกิจ ให้พึ่งระบบ ไม่ใช่พึ่งเจ้าของ แปลว่า ธุรกิจต้องทำเงินได้ แม้ไม่มีเจ้าของก็ตาม
ทุกวันนี้มี ผู้ให้คำปรึกษา วางระบบ และ พาธุรกิจเข้าตลาด เยอะแยะ ทำให้ เรื่องนี้ไม่ได้ไกลเกินเอื้อมของคนปกติอีกต่อไป
4. ‘I = Investor คือ อาชีพนักลงทุน’ ..หลักๆ ของอาชีพนักลงทุน คือ การซื้อสินทรัพย์แล้วให้มันทำงานแทนเรา
ใช่!! ทุกอาชีพ สามารถผันตัวสู่ อาชีพนักลงทุนได้ทันที ไม่ต้องรอ ขอให้ มีเงินเริ่มต้นเล็กน้อย กับ มีความรู้ ...ก็สามารถเริ่มได้แล้ว
แต่คนส่วนใหญ่ มักเข้าใจผิดว่า แค่ซื้อขายหุ้น ก็คือ นักลงทุน แต่ไม่ใช่ครับ ...ถ้าซื้อขายหุ้นเร็วๆ แบบ Trader อันนั้น เป็น S ไม่ใช่เป็น I
เพราะ I หรือ Investor (นักลงทุน) คือ ต้องให้เงินทำงานแทน เช่น ออมในหุ้น แล้วกินปันผล , ออมในอสังหา แล้วกิน ค่าเช่า
อาชีพนักลงทุนนี่แหละ ถ้ามี ปันผล มากพอ ก็สามารถมีอิสรภาพทางการเงิน เรียกได้ว่า เกษียณได้แบบสบายที่สุดนั่นเอง
ลองสำรวจตัวเองว่าเราอยู่กลุ่มอาชีพไหน แล้วจะผันตัวไปสู่อาชีพอื่นได้อย่างไร ...เอาใจช่วยครับ !!
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"เรื่องของการมองเวลาเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ ..คุณว่าประเทศอย่างอิสราเอล หรือคนยิว เขามีเคล็ดลับอย่างไรถึงเก่งและครองโลกเศรษฐก...
-
"คิดแบบภาววิทย์" ..คิดแต่เรื่องรวย ..เออ น่าคิด แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ก็คิดจะรวย แต่ไม่รวย!! -- เพราะไม่คิดมันก็ไม่รวยแน่นอน ..คุ...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
5 ลักษณะหุ้น ที่ทำกำไรสูงสุดในตลาดหุ้นไทย มีเซียนหุ้นเล่าให้ผมฟังว่า ถ้าอยากกำไรเยอะ ก็ต้องหาหุ้นที่กำไรเยอะ …แต่ต้องวางอยู่บนพื้นฐานที่เร...
-
6 ข้อคิด ไม่มีความชัวร์ในตลาดหุ้น มีแต่ความรวย บนความเสี่ยงที่ควบคุมได้เท่านั้นแหละ หลายคนอยากมาเล่นหุ้น แต่อยากได้หุ้นที่ซื้อแล้วรวยชัวร์...
-
7 ข้อ ‘ทำไมความรู้ก็เยอะ แล้วยังไม่รวย ?’ …ก็เพราะ ‘เราดันรู้แต่เรื่องที่มันไม่ทำเงินไง’ (กวนทีน!! ใช่!! แต่มันจริงไง) ‘เงิน’ ไม่ได้สนหรอก...
-
8 เรื่อง ในตลาดหุ้นเราจะรู้เมื่อเคยเสียหายหนักเท่านั้น 1. หุ้นที่เราไม่ได้เลือกเอง มักทำให้เราเสียหายในที่สุด 2. หุ้นยอดฮิต มักทำให้เราเจ็บ...
-
6 หลัก การตั้งเป้าหมายให้ชีวิตพุ่ง รุ่งเกินกว่าที่เราหวัง ได้อย่างไร ? ‘ชีวิตนี้อยากมีบ้านหรูสักหลัง นาฬิกาหรูสักเรือน มีรถสปอร์ตสักคัน …บล...
-
7 ข้อต้องรู้ ‘ทำไมบางคนหาเงินเก่ง แต่สุดท้ายเงินหายไปไหนหมด !!’ หลักๆ คือ ‘มัวแต่หาเงิน แต่ลืมวางเงินให้ทำงาน …สุดท้าย หาได้เยอะเท่าไหร่ ม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น