‘อาชีพไหนจะตกงานก่อนกัน ในปี 2020!!’
ปี 2020 เชื่อได้ว่า จะเป็นปีที่ มีหลายอาชีพที่จะตกงาน ...ตกงานเป็นเบือว่างั้น ...มาดูกันว่า อาชีพไหนเสี่ยงตกงานสูงสุด
เรามาแบ่ง ประเภทของคน ในทุกอาชีพก่อน ...เพราะ ทุกอาชีพ มีคนงานอยู่ 3 ประเภท ...ไอ้ที่เราเห็นคนพูดกันว่า อาชีพนั้น จะหายไป ..อาชีพนี้ตกงาน ...มันไม่ได้อยู่ที่อาชีพ !! ...แต่มันอยู่ที่ประเภทของคนงานต่างหาก
1. ‘คนที่บริษัทขาดได้ และ รู้ว่าจ้างมาทำอะไร’ ...ถ้ารู้ว่าจ้างมาทำอะไร งานแบบมีคู่มือ บอกชัดว่า ทำอะไร อันนี้เป็นงานที่บริษัท พยายามจะเอาเครื่องจักร หุ่นยนต์ และ AI มาทำแทน เพราะ มันทำถูกกว่าคน ...แล้วนี่บริษัทบริษัทขาดได้ แปลว่า เป็นงานระดับล่าง ...ประเภทนี้ ตกงานคนแรก ...เพราะ งานระดับล่าง งานแรงงาน งานซ้ำๆ สามารถแทนด้วยเครื่องจักรราคาไม่แพง งั้นใช้เครื่องจักรแทนเลย
2. ‘คนที่บริษัทขาดไม่ได้ แต่รู้ว่าจ้างมาทำอะไร’ ...อันนี้คล้ายแบบแรก เพียงแต่ มีความรู้ ความเชี่ยวชาญมากกว่า ...คือ ผู้มีประสบการณ์ ผู้เชี่ยวชาญในบริษัทนั่นแหละ ....พวกนี้ ถ้าจะใช้เครื่องจักรมาแทน จะเป็นเครื่องจักร หรือ AI ราคาสูง เลยตกงานช้าหน่อย ...ยิ่งประเทศกำลังพัฒนา(ด้อย) แบบบ้านเรา ก็จะเอาเทคโนโลยีมาช้ากว่าอเมริกา หรือ ประเทศพัฒนา ก็จะยังพอมีเวลาได้หายใจบ้าง ..ปี 2020 ยังไม่ตกงานครับ
3. ‘คนที่บริษัทขาดไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่าจ้างมาทำอะไร’ ...มีบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารในบ้านเรา ไม่ขอพูดชื่อ เดี๋ยวพาดพิง ...ตึกสำนักงานใหญ่ของเขาตั้งอยู่บนถนนรัชดา จะมีลิฟต์แยก ที่นำคุณขึ้นที่สูง เป็นชั้นที่คนธรรมดาขึ้นไม่ได้ ..คุณต้องไม่ธรรมดา ...บริษัทนี้จ้างคนจำนวนมาก ที่พนักงานทั่วไป จะไม่รู้ว่า คนเหล่านี้ทำอะไร ‘วันๆ มันทำอะไรวะ ?!?’ ...แต่ค่าจ้างคนเหล่านี้สูงมาก (สูงจนไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้)
คนเหล่านี้แหละ ที่จะไม่โดน Disrupt เพราะ บริษัทยังไม่รู้เลย ว่า ‘จ้างมันทำไมวะ ..555’
ล้อเล่น !! ...จริงๆ คนเหล่านี้แหละ ที่จ้างโคตรคุ้ม บางคนสามารถกอบกู้ ทั้งบริษัทเวลาเกิดวิกฤต ...บางคนทำรายได้ ให้บริษัทไม่รู้จักกี่เท่า
เล่ามาถึงตรงนี้ จะบอกว่า สมัยก่อนมีไม่มีบริษัทที่กล้าจ้างคนแบบนี้ ...แต่ยุคนี้ มีคนแบบนี้อยู่เกือบทุกบริษัท คนเหล่านี้ คือ ‘อาวุธลับของเจ้าของนั่นเอง’
พอเล่าเรื่องนี้แล้วสนุก เพราะ ทุกวันนี้ผมได้มีโอกาส พบปะ พูดคุยกับคนแบบนี้มากขึ้น ...ต้องบอกว่า เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน ตำแหน่งการใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นตาม
ไว้มีโอกาสผมจะมาเล่าต่อว่า คนเหล่านี้ เขาสมัครงานกันยังไง ...เขาทำอะไร ? ...เขาเรียนอะไรมา ? ...และ เขาพัฒนาตัวเองอย่างไร ให้มาถึงจุดที่เขายืน
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
หลายคนสงสัยว่า ตลาดหุ้นผันผวนสุดๆ ทำไมนักลงทุนระยะยาวถึงแทบไม่เคยดูราคาหุ้นขึ้นลงรายวันเลย ? "บ้าหรือ เงินแกว่งขึ้นลงเป็น แสน เป...
-
"ใครว่าเป็นนักธุรกิจยาก ..หากเทียบนักกีฬา เกมธุรกิจเล่นง่ายกว่าเยอะ -- เล่นแล้วรวยอีก!!" ..คิดดูนะ ถ้าเราเล่นกีฬาอะไรก็ต...
-
7 ข้อ ควรรู้ การเป็นนักลงทุนที่ ‘พอเพียง‘ ’พอเพียง‘ กับ นักลงทุน …มีด้วยหรือ ? 1. ‘เข้าใจ Need กับ Want’ …เริ่มด้วยเข้าใจสิ่งที่จำเป็น กั...
-
เมื่อคืน 1 มีนาคม 2555 คุณแม่โทรมาบอกว่า "แพ้ท!! คุณตาท่านเสียแล้ว" ผมก็รู้สึกใจหายอย่างมาก เพราะคุณตาเป็น เสมือนต้นแบบ ที่สอนให้ผ...
-
‘หุ้นไทย’ ไม่มีอนาคตแล้วจริงหรือ ? 1. ’ขาขึ้นรอบใหม่ มักเริ่มเวลาที่ทุกคนสิ้นหวัง’ …ก็ไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อหุ้นต้นรอบ 2. ’ไทยม...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
3 ขา แห่ง ชีวิตที่สมบูรณ์ ชีวิตคนเรา จะสมบูรณ์ ต้อง สามารถ จัดการ 3 เรื่อง ให้สมดุลย์กัน นั่นคือ ‘เงิน / เวลา / สุขภาพ’ ..ยังไงล่ะ ? หน...
-
10 นิสัย คนรวย ที่เราคาดไม่ถึง ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์คนรวยระดับประเทศหลายต่อหลายคน ...คนที่ส่วนใหญ่สร้างตัวเองจากศูนย์ ...ความแปลกคือ คนเหล...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น