8 เรื่องควรรู้ ทำไงให้เป็นคนดัง
ยุคนี้ใครๆ ก็อยากดัง เพราะ ชื่อเสียง ตามมาด้วย โอกาส และเงิน ...แถมโลกยุคนี้ ก็เปิดโอกาสให้คนธรรมดาสามารถขึ้นมาเด่น ดัง ไม่ยาก ...เรามาดูกันว่า เราควรรู้อะไรเพื่อไปเป็นคนดัง ?
1. ‘คนดังเริ่มจากคนไม่ดัง’ ...ไม่มีใครเกิดมาแล้วดังเลย ยกเว้นลูกดารา แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ...ขอแค่รู้ว่า ‘ความไม่ดัง’ เป็นจุดเริ่มของความดัง เราทุกคนเริ่มตั้งเป้าหมายได้ (ไม่มีอะไรเกินเอื้อม)
2. ‘คนดังเริ่มจากการทำอะไรแตกต่าง และ มีประโยชน์’ ...คนแตกต่างเฉยๆ ก็เป็นแค่คนแปลก ...แต่คนแปลกที่สร้างประโยชน์ ทุกคนมีโอกาสดังครับ ...เช่น ตลกยังสร้างรอยยิ้มและความสุข ...แล้วเราจะสร้างประโยชน์อะไรบนความแตกต่างดี ?
3. ‘สร้างสิ่งใหม่ ไปให้สุด’ ...ในโลกธุรกิจ เราจะได้ยินคำว่า Start Up ...ที่มันต่างจากธุรกิจทั่วไป ตรงที่ ‘ไปให้สุด’ ....ถ้าเรามีอะไรจะเสีย ผมจะแนะนำให้ทำแบบ 80/20 คือ เน้นสิ่งถนัด แล้วเสริมจุดแข็งเอา ...แต่ถ้าไม่มีอะไรจะเสีย มันต้อง ‘ใหม่ แล้วไปให้สุด!!’ ....ใช่!! ไม่มีคนดัง ที่เกิดจากทำอะไรกลางๆ
4. ‘เราทุกคนคือ Super Hero ที่มีแต่เราเท่านั้น ต้องหาพลังวิเศษให้เจอ’ ....ใช่!! จริงๆ คุณอาจจะเป็น Superman ก็ได้ แค่ตอนนี้คุณยังหามันไม่เจอ ...หาต่อ อย่าท้อครับ ‘คุณ คือ โคบาล !!’
5. ‘คนดัง ต้องมีพลังเชื่อมโยงแบบสม่ำเสมอ’ ...หลายคนคิดว่า คนดัง คือ คนติส คนหน้าตาดี แต่จริงๆ แล้ว คนดังทุกคนคือ นักการตลาด ....ทุกคนรู้อย่างชัดเจนว่า อะไรที่ทำให้เขาเชื่อมกับมวลชน ...เขาก็จะสื่อสารแบบนั้น อย่างต่อเนื่อง ‘สม่ำเสมอ’
6. ‘คนดัง คือ ผู้รับใช้สังคม’ ...ยุคนี้เราจะไม่เห็นดารา ที่ทำตัวหยิ่ง หรือ เข้าไม่ถึง แบบในอดีตแล้ว ...เพราะ ทุกวันนี้ ชื่อเสียงและ อำนาจ มันมาพร้อมความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ ....โจทย์ที่สำคัญ คือ เราจะเป็นผู้รับใช้อะไรในสังคมนี้
7. ‘ไม่มีพื้นที่ส่วนตัว สำหรับคนดัง’ ...ยุคนี้เราจะอ้างไม่ได้หรอกว่า นี่เฟสฉัน ฉันจะโพสอะไรก็ได้ ..คนดังตกม้าตายก็เพราะไม่เข้าใจเรื่องนี้ ...เมื่อทุกที่คือที่สาธารณะ เราถึงต้องพยายามฝึกและเข้าใจให้ดี
8. ‘ออนไลน์ คือ ส่วนขยายพื้นที่การรับใช้ และ สร้างประโยชน์ให้ผู้คน’ ...สื่อใหม่ๆ ในโลกออนไลน์เกิดขึ้นตลอดเวลา ...หลายๆ บริษัทคิดว่า ถ้าจะดังในเฟส
ก็แค่จ่ายค่าโฆษณา บูทเข้าไป ...แต่ผิดถนัด เพราะ ยุคนี้มันเป็นยุคของ Earn Media คือ เราไม่สามารถจะแต่จ่ายเงินแล้วได้มัน ...ยุคนี้ต้องใส่ความคิด และ ใส่แรง
ถ้าให้เลือกสิ่งสำคัญที่สุด ผมเลือก ‘ความสม่ำเสมอ’ เพราะ ชื่อเสียง เงินทอง และ การยอมรับ มันเกิดจากเราทำสิ่งนั้นอย่างสม่ำเสมอ ...นี่แหละ สำคัญที่สุดครับ
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7...
-
5 ข้อควรรู้ ซื้อหุ้นถูกแล้ว ทำไมจึงขาดทุนได้ หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่า ..หลายๆ ครั้งที่หุ้นลงมาจนถูกแล้ว …มันสามารถลงได้ต่อ จนเราเสียหายหนักได้...
-
วันนี้ไปเจอหนังสือเล่มนึง ที่ผมว่า เขียนได้ In-trend มากๆ ..มันเป็นแนวคิดสำหรับ คนรุ่นใหม่ที่อยาก Self-made "คนรุ่นใหม่ที่สร้างตัวด้วยต...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
5 ข้อควรรู้ แก้พอร์ตยังไง ให้กลับไปกำไรเท่าเดิม แน่นอนคนที่เล่นหุ้นทุกคนต้องเคยเจอขาดทุนหนักสักครั้งในชีวิต …คำถามสำคัญคือ เขาแก้พอร์ตกันยั...
-
‘หุ้นธรรมดาๆ แต่กำไรไม่ธรรมดา ขึ้นหลายๆ เด้ง หายังไง?’ มาดู 4 ปัจจัย ทำให้หุ้นขึ้นหลายเด้งกัน !! ..หุ้นหลายเด้ง ก็คือ หุ้นที่ขึ้นหลายๆ เท่...
-
พูดถึง “น้ำมัน” ใครๆก็รู้ว่า “สำคัญ เป็นทองคำสีดำ” แค่ 30 ปีที่แล้ว-- ก่อนที่โลกจะต้องการน้ำมันขนาดนี้ “ประเทศในตะวันออกกลางเหล่านี้...
-
4 อาชีพควรรู้ แบบ ESBI หนึ่งในหนังสือที่เปลี่ยนความคิดผมในเรื่องการเงินเล่มแรก ต้องบอกเลยว่าคือ หนังสือ พ่อรวยสอนลูก Rich Dad Poor Dad ...
-
‘มีคนถามว่า ถ้าเรารู้ว่าเดี๋ยวจะมีวิกฤตเศรษฐกิจ เราควรขายหุ้นแล้วถือเงินสดรอตลาดลงไหม ?’ …เริ่มจากลองมองย้อนกลับไปอดีตของตัวเอง ว่า ที่ผ่าน...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศท...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้า...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น