วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2559
5 แนวทางสู่ทาส ในโลกวันนี้
5 แนวทางสู่ทาส ในโลกวันนี้
วันนี้เราทำงานเยอะขึ้น แต่เงินไม่เยอะขึ้น ..ที่เยอะขึ้นมีแต่หนี้ -- "เคยตั้งคำถามไหมว่า ทำไมคนส่วนใหญ่ คนรุ่นใหม่ถึงเป็นแบบนี้ คือ เวลาน้อยลง เครียดมากขึ้น แต่ไม่รวยเงิน รวยแต่หนี้ ?"
ตอบง่ายๆ ก็เพราะ เขาเข้าใจระบบทุนนิยมน้อยเกินไป ..เรามาดูกันว่า "5 แนวทางสู่ทาสในระะบบทุนนิยม" มีอะไรบ้าง (ถ้าใครอยู่ในแนวทางนี้ ต้องรีบถอนตัวเองขึ้นให้เร็วที่สุด"
1. "รู้แต่วิธีทำงานหาเงิน แต่ไม่รู้จักวิธีวางเงินทำงาน" ..อันนี้คนส่วนใหญ่เลย ทำงานหาเงินมากเท่าไหร่ก็ไม่รวย เพราะ ตัวเราทำงานได้ในเวลาที่จำกัด แต่เงินและหนี้ มันทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ..ถ้าไม่รู้วิธีทำงาน ชาตินี้ไม่มีทางรวย (พูดเหมือนดราม่า แต่พูดจริงๆ)
2. "ไม่รู้จัก Demand กับ Supply" ..ความรู้ที่มีค่าที่สุดสำหรับผมตอนเรียนวิชาเศรษฐศาสตร์ก็คือ เรื่อง Demand & Supply เพราะ มันเอามาใช้ได้กับทุกธุรกิจ ทุกการลงทุน ตั้งแต่ เล่นหุ้น , ทำธุรกิจ และ การเลือกงานที่ทำ ...อะไรที่คนทำเยอะๆ สิ่งนั้ัน ไม่มีโอกาสเหลืออยู่แล้วสำหรับเรา
3. "คิดว่าทุ่มเวลาทำงานแล้วรายได้จะเพิ่ม" ..ไม่มีครับ รายได้เราจะเพิ่มขึ้นกับผลงานที่เราสร้าง ..ถ้าดูงานส่วนใหญ่ที่มีในโลกทุกวันนี้ ส่วนใหญ่ไม่ใช่งานที่สร้างผลงาน แต่เป็นงานปฏิบัิตการที่ทำเรื่อยๆ ทำแล้วไม่มีผลงาน ..เพราะ เราไม่ได้ประโยชน์อะไรจากการทำสิ่งเดิมซ้ำๆ -- งานแบบนั้นจะถูกแทนด้วยเครื่องจักรในที่สุด
4. "การสร้างหนี้มาซื้อของไม่ได้ทำให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น" ..คนส่วนใหญ่วันนี้สร้างหนี้เพื่อซื้อของให้เราไม่น้อยหน้าใคร ..แต่หารู้ไม่ว่า ไม่ได้มีใครสนใจจริงๆ หรอกว่า คุณจะขับรถอะไร ถือกระเป๋าอะไร กินแพงแค่ไหน หรือเที่ยวหรูเพียงใด -- ผลก็คือ เราขุดหลุมฝังตัวเองด้วยหนี้ที่สุดท้ายไม่สามารถจ่ายได้ และคนรอบข้างก็ไม่ได้สนหรอกว่า คุณเคยขับรถอะไร เคยหรูหราแค่ไหนในที่สุดอยู่ดี ..มีแต่หนี้ที่คุณสร้างที่คงอยู่ และเป็นของจริง
5. "ไม่รู้ว่าปริญญาเป็นเสาเข็ม และ ตัวบ้านก็การพัฒนาตัวเอง" ..คนส่วนใหญ่คิดว่าเรียนจบปริญญาก็จบแล้ว แต่หารู้ไม่ว่า ชีวิตเขาเปรียบเสมือนบ้านที่ตอกเสาเข็ม แต่ไม่ได้สร้างบ้าน ..เพราะ ความรู้ที่ทำให้ชีวิตก้าวกระโดด ล้ำหน้า และร่ำรวย คือ ความรู้ที่เราต่อยอดเองหลังจบปริญญา
การออกจากทางห้าข้อนี้ ต้องรู้จัก พัฒนาความรู้ตัวเองอย่างต่อเนื่อง ...แล้วใช้ความรู้นั่นแหละ สร้างความแตกต่างในชีวิต ในการทำงาน
ทำงานหนัก ต้องทำให้ถูกที่ และ ด้วยวิธีที่ถูกต้อง จึงจะประสบความสำเร็จ
หนึ่ง เรียนเพื่อหางานทำ
สอง เก็บเงินเพื่อลงทุน เรียนการวางเงินทำงาน
สาม พัฒนาความรู้ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มโอกาสในชีวิต
สี่ สร้าง "ผลงาน" ในชีวิต
ห้า ต่อยอดปั้น "ผลงาน" ให้มีประโยชน์แก่ผู้คน
"เงิน" จะมาหลังจากที่เรา "สร้างผลงาน" ..ให้สร้างผลงาน ก่อนที่จะเก่งใช้เงิน
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
‘เป็นล้านเลยเหรอพี่ ?‘ …ทำอะไรมีเงินเป็นร้อยล้าน !! 1. อยากได้เงินล้าน …ต้องทุ่มพัฒนาทักษะ เพราะ ทักษะจะทำให้เราได้งาน ได้ธุรกิจ ได้โอกาสให...
-
10 ข้อควรรู้ เพื่อเข้าใจตลาดหุ้นมากขึ้น 1. ตลาดหุ้นสามารถเล่นแบบการพนัน และก็สามารถเล่นแบบการลงทุน คนกำหนดคือคนเล่นเอง ไม่ใช่ตลาด ..คน...
-
ทำไมคนที่รายได้มั่นคง ควรลงทุนให้เสี่ยง ? 1. รายได้ที่มั่นคงมักจะมีข้อจำกัด คือ มีรายได้เรื่อยๆ แต่ไม่โต …ดังนั้น การลงทุนควรหาโอกาสที่เสี่...
-
'ทฤษฎี กับ การปฏิบัติ ต่างกันอย่างไร ?' ประเด็นนี้ ผมเจอน้องๆ นักศึกษามาถาม ..เค้าคงอยากรู้ว่า สิ่งที่เขาเรียนในทฤษฎี เวลาเขาไป...
-
6 เคล็ดลับ หาจุดเปลี่ยนชีวิตที่นานๆ จะมาสักทีนึง สำหรับผม ผมเจอจุดเปลี่ยนชีวิตมา 3 ครั้งใหญ่ๆ …ครั้งแรก สมัยเรียน จากเด็กเรียนธรรมดา ..ผมไป...
-
7 ข้อ ทำไมผมถึงชอบตลาดหุ้นไทยในเวลาที่ใครๆ ก็ไม่เอาแล้ว 1. หุ้นไทยเป็นหุ้นอุตสาหกรรมเก่า ที่เข้าใจง่ายกว่า …’หุ้นที่ใครๆ มองว่าดี ส่วนใหญ่ไ...
-
7 ข้อ ความเชื่อในการลงทุนที่เปลี่ยนไป ในตลาดวันนี้ 1. ยิ่งเสี่ยงยิ่งโชคดี …จริงๆ ไม่ใช่ …ต้อง ‘ออกแบบให้ตัวเองมีโอกาสเสี่ยงได้เรื่อยๆ’ อัน...
-
10 อันดับ สินทรัพย์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก 1. ทอง มีมูลค่ารวม 20.5 Trillion 2. Microsoft มูลค่ารวม 2.6 T 3. Apple มูลค่ารวม 2.59 T 4. N...
-
8 ข้อคิด จาก The Psychology of Money 1. ความมั่นคงทางการเงิน คือ ความยืดหยุ่นในชีวิต 2. ความมั่นคงทางการเงิน ไม่ใช่ การได้เยอะ แต่คือ การไม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบ