‘หุ้นขึ้นได้ยังไง สงสัยไหม?’
..ใครซื้อวะ ? ...ทำไมมันซื้อแพง ซื้อแพงขึ้นไปเรื่อยๆ ? ...แล้ว มันไม่กลัวติดดอยหรือ ?
ใจเย็นๆ มาทำความเข้าใจกลไกการขึ้นของหุ้นกัน
1. ‘หุ้นจะขึ้นได้ ต้องมีคนอยากซื้อมากกว่าคนขาย’ ...ที่รายย่อยมักพูดว่าทำไมฉันขายหุ้นทีไรมันขึ้นต่อทุกที ...เพราะ คุณขายไป แต่มีคนอยากซื้อมากกว่านั้น ....ดังนั้น การขายเวลาที่แรงซื้อเข้า มักขายหมู หุ้นขึ้นต่อ
2. ‘แรงซื้อหุ้นดูจากไหน’ ..ถ้าคุณมีโปรแกรมอย่าง TradeMaster ของบัวหลวง เขาจะแยกให้ดูหุ้นแต่ละตัวเลยว่า จาก Volume การซื้อขาย ...คนซื้อกี่บาท / คนขายกี่บาท ...ดูคร่าวๆ เราก็พอจะเดาได้แล้วว่า หุ้นจะไปต่อหรือไม่
เบื้องต้นเลย !! ...ถ้า Volume เข้าในขาขึ้น มันแปลง่ายๆ ว่าโอกาสไปต่อสูง (แต่ถ้า หุ้นลงหนัก แล้ว Volume เยอะ อย่ารีบเข้า เพราะ มันจะลงต่อลึก)
3. ‘หุ้นขึ้นเกินพื้นฐานได้ ไม่ใช่เรื่องแปลก’ ...ตลาดต่างประเทศเช่น อเมริกา เป็นหนักกว่าเราอีก หุ้นที่คนชอบ เช่น Amazon หรือ Tesla ราคามันสามารถขึ้นไปในจุดที่ไม่สมเหตุสมผล แล้วก็ยังวิ่งไปได้เรื่อยๆ ...สุดท้าย ‘แรงซื้อ’ มันสามารถเข้าไปเรื่อยๆ อย่างไร้เหตุผล โดยเฉพาะโลกยุคนี้ ที่เงินล้นระบบ
(ยุคนี้ Supply ของเงินมันล้นระบบ ...เราจะเห็น สินทรัพย์ ผลัดกัน ขึ้นแบบไม่สมเหตุสมผล ...แต่ถ้าเราจับจังหวะดี เราอาจรวยง่ายๆ เลยก็ได้!!)
4. ‘กองทุนมีผลต่อหุ้นใหญ่ที่สุด’ ...คนที่สามารถลากหุ้นให้ขึ้นยาว หรือลงลึกได้ คือ กองทุน หรือ รายใหญ่ เพราะ เขามีเงินเยอะ ...รายย่อยซื้อขายไม่กี่ช่องก็หมด แต่กองทุน หรือ รายใหญ่ กว่าจะเข้าออกหมด ก็ทำหุ้นขึ้นไปไกลแล้ว (หรือลงลึกแล้ว)
การที่คุณรู้กฏข้อนี้ ...มันแปลว่า ถ้าหุ้นมันไปไกลแล้วจริงๆ ก็ยังตามได้ (แค่ยก Trailing Stop ตามไป บางทีเราอาจได้รอบใหญ่ถึงจะไม่ได้เข้าต้นรอบ แถมเราไม่ติดดอยด้วย เพราะ เราออกด้วย Trailing Stop เลย) ...หรือ ถ้าหุ้นมันลงลึก จุดนั้นควรทนถือต่อ ไม่ควร Cut Loss แล้ว เป็นต้น
5. ‘หุ้นเล็กไม่ควรเล่นสั้น เพราะเราจะเสียเปรียบรายใหญ่’ ...หุ้นใหญ่ กองทุนคุม ...หุ้นเล็ก คุณเจอเจ้ามือ หรือ เจ้าของ ....ความยากง่ายแตกต่างกัน ...หุ้นใหญ่มักเล่นเป็นรอบตามผลประกอบการ ...การจะลากไกลๆ อาจจะมีไม่บ่อย ...แต่หุ้นเล็กไม่ได้เล่นตามผลประกอบการ มันเล่นตาม รอบใหญ่ของธุรกิจ ...ถ้าชอบถือยาว หุ้นเล็กอาจกำไรมากกว่า
ก็คร่าวๆ ประมาณนี้ ...ถ้าเราเปิดใจเรียนรู้ ผมว่าตลาดหุ้นมันสอนอะไรเรามากมายจริงๆ ...ที่แจ๋วสุดคือ ได้ทั้งความรู้ และ ได้เงินด้วย !!
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
6x2 วิธีปั้นพอร์ต ที่ต้องเลือกเดิน …’ช้า ทน โตเรื่อยๆ’ … ‘ได้เร็ว สะใจ ทำไมพอร์ตกรูไม่โต’ …เราเป็นแนวไหน ? 1. ‘ช้า แปลว่า กระจายความเสี่ยง’...
-
‘ทำไมปลาที่ญี่ปุ่น จึงมีราคาแพง ?’ ตอบสั้นๆ เลย เพราะ คนทั่วโลก ยอมจ่ายค่า ซูชิ ในราคาแพงกว่าที่คนญี่ปุ่นซื้อปลามา นั่นเอง ปีนี้เจ้าพ่อวงการ...
-
หากย้อนไปดูปี 1980 ยุคนั้นเป็นช่วงที่ ญี่ปุ่น เคยรุ่งแบบจีนในตอนนี้ --"สมัยนั้นใครๆก็มองว่า ญี่ปุ่นกำลังจะครองโลก ...การเติบโตของญี่ป...
-
‘หุ้นหนัก หุ้นเบา พอร์ตเราเต็มไปด้วยอะไร’ ...หลายคนน่าจะคุ้นเคยดีกับ ‘หุ้นหนัก’ ก็คือ หุ้นในพอร์ตรายย่อยส่วนใหญ่นี่แหละครับ ลักษณะของมันคือ...
-
“อายุเลข 3 แล้ว ยังไม่ได้แต่งงานเลย จะแย่ไหม ?” โลกยุคนี้คนรุ่นใหม่แต่งงานกันช้ามาก โดยเฉพาะคนมีเงิน เพราะ กว่าจะเรียนจบ ก็มดลูกเกือบปิด...
-
‘อัตราทด พาเราไปสู่อิสรภาพได้เร็วขึ้น อย่างไร ?’ ..การ Leverage หลักๆ ก็คือ ใช้เงินน้อย สอยเงินใหญ่ ...มีเงิน 1,000 บาท แต่เก็งกำไรได้ในฐาน...
-
“อายุ 30 ควรเรียนต่ออะไรดี ?” เคยเห็นคนที่เรียนไปเรื่อยๆ ไหม จบไม่รู้กี่ปริญญา แล้วก็เรียนไปเรื่อยๆ ...มันเสียเวลาบอกตรงๆ เพราะ ยุคน...
-
6 เรื่องหุ้น ‘ทนรวย’ และ ‘ทนขาดทุน’ ต้องรู้ 1. ‘ทนรวย กับ ทนขาดทุน ก็คือ พอร์ตลดลง เหมือนกัน’ …พูดง่ายๆ สมมุติ พอร์ตคุณ 10 ล้าน ถ้ามันลดลงไ...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น