‘อเมริกา สู้กับ จีน แล้วไทยอยู่ตรงไหนล่ะ ?’
ทุกยุคมันต้องมีสงคราม เพียงแต่สงครามมันจะมาในรูปแบบที่ต่างกัน ...หากเราย้อนศึกษาประวัติศาสตร์จะพบว่า ทุกครั้งที่เศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ มันจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง
สงครามโลก อักษะ ปะทะ พันธมิตร ...สงครามเย็น รัสเซีย สู้กับ อเมริกา จบด้วยการส่งมนุษย์ไปเหยียบดวงจันทร์ ...วันนี้ผู้ขัดแย้งใหม่ อเมริกา กับ จีน ...สุดท้ายเราจะไม่ส่งคนไปดาวอังคาร แต่เราจะขจัดความยากจน ให้หมดไปจากโลกใบนี้
...ใครชนะจริงๆ ไม่สำคัญเท่ากับ การเตรียมพร้อมประเทศและตัวเราเพื่อรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
1. ‘ไทยจะเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับการย้ายฐานผลิต’ ...จุดแข็งของไทยคือ ความปราณีต คุณภาพสินค้า ...ราคาไม่ใช่จุดขาย ต้อง Focus ให้ถูกที่
2. ‘ศูนย์กลางการกระจายสินค้าของภูมิภาค’ ...ด้านภูมิศาสตร์ ประเทศเราตั้งอยู่ใจกลางการกระจายสินค้าของภูมิภาคนี้อยู่แล้ว ขออย่างเดียวอย่า ออก กฏแย่ๆมาเตะสกัดขาตัวเองก็พอแล้ว
3. ‘บ้านหลังที่สองของชาวโลก’ ...วิกฤตโควิด เป็นการส่งสัญญาณให้ชาวโลกรู้ว่า นอกจาก อาหารอร่อย หลากหลาย ถูก ที่พักสบาย หรู ไม่แพง ..ไม่เหยียดใคร ยิ้มเสมอ ...เรายังมีการแพทย์ที่ไม่แพ้ใคร (ขอบคุณตลาดหุ้น ที่ให้ รพ. เข้าจดทะเบียนเป็นหุ้นเติบโตได้) ....ใครบอกอสังหาริมทรัพย์ตาย ผมว่า มองใหม่นะ ...หาก Focus ถูกจุด ไปอีกไกล !! ‘ไทยสามารถเป็น บ้านหลังที่สองของชาวโลก’
4. ‘ให้คนเก่งทั้งโลก มาเป็นคนไทย’ ...ทุกประเทศมหาอำนาจ ต้องเป็นที่ดึงดูดคนเก่งมารวมกัน ...อเมริกาเป็นตัวอย่างที่ดี ที่รับคนเก่งทั้งโลก ใครเก่งเอาสัญชาติอเมริกันไป ....’ต่อไปใครเก่ง เอาสัญชาติไทยไปถือได้เลย!!’
5. ‘ถ้ารถเปลี่ยนเป็นยุคไฟฟ้า จีนจะกลายเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมรถไฟฟ้า’ ...อเมริกาเป็นผู้นำในด้านน้ำมันและเครื่องยนต์สันดาบ ...แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นยุคไฟฟ้า จีนจะมาแทน ดังนั้น อเมริกาจะต้องยื้อให้เราใช้น้ำมันให้นานที่สุด !!
6. ‘อเมริกาจะแตกจากภายใน เพราะอุตสาหกรรมที่เขาเลือก’ ...อเมริกาเน้นอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ซึ่งส่งผลให้ รวยกระจุก จนกระจาย แบบที่อเมริกาเป็น ...ส่วนจีน เป็นโรงงานของโลก ทำให้รวยกระจุก และ รวยกระจาย ...จีนใช้เวลาไม่นาน ยกระดับให้คนจน กลายเป็นคนชั้นกลาง ....วันนี้ไม่มีประเทศไหนชนะอเมริกาได้ แต่ถ้าอเมริกาจะแพ้ ก็แพ้จากภายในของตัวเองนั่นแหละ ....ยุคนี้สงครามโลกไม่น่ากลัวเท่าสงครามกลางเมือง !!
7. ‘ไทยไม่ต้องไฮเทค แต่เราต้องไป Hi Touch’ ...ศิลปะ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว เอกลักษณ์ ..ขายของที่ใช้อารมณ์ในการตัดสินใจซื้อ ...บริการชั้นเยี่ยม คุณภาพชั้นยอด ....เคยคุยกับนักธุรกิจต่างชาติ เขาบอกว่า สินค้าไทยมีคุณภาพ และ ยึดมั่นในคุณภาพจริงๆ
ยกตัวอย่าง ถ้าคุณไปสั่งโรงงานในจีน ให้ผลิตของให้คุณภาพต่ำลง ถูกลง แต่ให้แปะยี่ห้อเดิม เขาจะทำให้คุณทันที ....สุดท้ายลูกค้า จะได้ของห่วย และ แบรนด์ก็พังไป ...แต่คนไทยไม่ทำ นั่นคือ เสน่ห์และจุดยืนด้านคุณภาพของไทย ที่ทำให้สินค้าไทยได้รับการยอมรับในภูมิภาคนี้ (Do not compromise in Quality !!!’)
...ขาดทุนชั่วคราวยอมได้ แต่เราจะรักษาคุณภาพ และ แบรนด์ของเรายิ่งชีวิต !!
#ภาววิทย์กลิ่นประทุม
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
บทความที่ได้รับความนิยมสัปดาห์ที่ผ่านมา
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
"เรื่องของการมองเวลาเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ ..คุณว่าประเทศอย่างอิสราเอล หรือคนยิว เขามีเคล็ดลับอย่างไรถึงเก่งและครองโลกเศรษฐก...
-
"คิดแบบภาววิทย์" ..คิดแต่เรื่องรวย ..เออ น่าคิด แล้วทำไมคนส่วนใหญ่ก็คิดจะรวย แต่ไม่รวย!! -- เพราะไม่คิดมันก็ไม่รวยแน่นอน ..คุ...
-
Real Estate Agent ในเมืองไทยคงไม่ค่อยมีคนรู้จัก เพราะส่วนใหญ่ ซื้อขาย ไม่ค่อยผ่าน Agent แต่ในต่างประเทศ Real estate Agent เปิดกันยิ่งกว่า 7-...
-
7 ข้อ ‘ทำไมความรู้ก็เยอะ แล้วยังไม่รวย ?’ …ก็เพราะ ‘เราดันรู้แต่เรื่องที่มันไม่ทำเงินไง’ (กวนทีน!! ใช่!! แต่มันจริงไง) ‘เงิน’ ไม่ได้สนหรอก...
-
5 ลักษณะหุ้น ที่ทำกำไรสูงสุดในตลาดหุ้นไทย มีเซียนหุ้นเล่าให้ผมฟังว่า ถ้าอยากกำไรเยอะ ก็ต้องหาหุ้นที่กำไรเยอะ …แต่ต้องวางอยู่บนพื้นฐานที่เร...
-
6 ข้อคิด ไม่มีความชัวร์ในตลาดหุ้น มีแต่ความรวย บนความเสี่ยงที่ควบคุมได้เท่านั้นแหละ หลายคนอยากมาเล่นหุ้น แต่อยากได้หุ้นที่ซื้อแล้วรวยชัวร์...
-
8 เรื่อง ในตลาดหุ้นเราจะรู้เมื่อเคยเสียหายหนักเท่านั้น 1. หุ้นที่เราไม่ได้เลือกเอง มักทำให้เราเสียหายในที่สุด 2. หุ้นยอดฮิต มักทำให้เราเจ็บ...
-
6 หลัก การตั้งเป้าหมายให้ชีวิตพุ่ง รุ่งเกินกว่าที่เราหวัง ได้อย่างไร ? ‘ชีวิตนี้อยากมีบ้านหรูสักหลัง นาฬิกาหรูสักเรือน มีรถสปอร์ตสักคัน …บล...
-
7 ข้อต้องรู้ ‘ทำไมบางคนหาเงินเก่ง แต่สุดท้ายเงินหายไปไหนหมด !!’ หลักๆ คือ ‘มัวแต่หาเงิน แต่ลืมวางเงินให้ทำงาน …สุดท้าย หาได้เยอะเท่าไหร่ ม...
ย้อนรอย SET จัดทำเพื่อย้ำเตือนของคำพูดที่ว่า "History Repeat itself!!"
- ภาพใหญ่หุ้นไทย ปี 1987 - 2009
- ย้อนรอย SET ปี 1987 - 1990(จาก Black Monday ไปแตะ 1,000 จุด)
- ย้อนรอย SET ปี 1991 - 1993 ( 3 ปีสู่ยอดดอย )
- ย้อนรอย SET ปี 1994 - 1996 ( 3 ปี แห่งการ "เผาหลอก" )
- ย้อนรอย SET ปี 1997 - 1999 ( 3 ปี "เผาจริง"แตะ Bottom แล้วเด้งขึ้น )
- ย้อนรอย SET ปี 2000 - 2008 ( 9 ปี แห่งการ "พายเรื่อในอ่าง" )
- ย้อนรอย SET ปี 2009 (Do you Remenber?)
"จัดให้" บทความที่ได้รับความนิยมใน Blog แห่งนี้ครับ
-
จาก หนังสือพิมพ์ ไทยรัฐ หน้า 20 - วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556 : Link ที่ Thairath Online http://www.thairath.co.th/content/life/321...
-
10 เรื่องที่ต้อง "รู้งี้" ก่อนจบปริญญา ... 1. "ใบปริญญามีวันหมดอายุ" ..หลายคนคิดว่า ใบปริญญาไม่มีวันหมดอายุ พอเรียนจ...
-
ในตลาดจริงๆ มีหุ้นอีกมากมายที่เรามองข้าม ..หลายคนก็กลัวว่าซื้อแล้วหุ้นจะไม่ขึ้น แต่ลองมองอีกมุมนึงว่า ถ้าหุ้นนั้นๆ ให้ปันผลในระดับ 5 -10% ต...
-
ตลาดหุ้นไทย จะไปอย่างไรต่อ!! -- เป็นคำถามที่ตอบยากมากที่สุดคำถามนึง เท่าที่ผมเจอมาตลอด..อิ อิ (จริงๆ ภาพ Chart อันนี้ ก็ตอบเกี่ยวกับ ทิศทาง...
-
'คำทำนาย ที่ว่าโลกหลังปี 2017 จะเกิด ..ธุรกิจเล็กจะใหญ่ ธุรกิจใหญ่จะเล็ก!!' ยุคนี้รายใหญ่ก็ตายได้ ..รายเล็กก็เกิดได้ ..นี่อ่านข...
-
วันนี้มาดอนเมือง ผมได้ชิมกาแฟมวลชน จุดเริ่มของ All Cafe ของ 7-11..วันนี้เกมค่าปลีกแข่งดุ เนื่องจากค่าเช่าแพงขึ้นตามราคา Asset ที่พุ่งกร...
-
เราค้างเรื่องของ "จิตอิสระ" กับ "จิตทาส" เอาไว้ว่า มันแบ่งระหว่าง คนที่จิตเป็นทาส ย่อมเป็นทาสตลอดไป ไม่ว่าระหว่างทางใน...
-
Luxury คือ เงินเฟ้อ!! เศรษฐกิจไม่ดี ทำไม ของแพงขึ้น ค่าครองชีพสูงขึ้น ..คนธรรมดาทำไมอยู่ยากขึ้นทุกวันล่ะ ? ก็เพราะ เราไม่รู้ว่า 'ความห...
-
วันนี้ฟังรายการ "คุยกับ อาจารย์ วีระ ธีรภัทร ช่อง FM 96.5" ...ไปสะกิดกับคำถามนึง คือ มีพี่ผู้หญิงท่านนึงเขาโทรเข้ามาแล้วระบายให้...
-
(อันนี้ยกขึ้นมาให้ดูเล่นๆนะครับ ..ไม่ได้จะบอกว่ามันดีหรือไม่ เพียงแต่ มาดูกัน "แปลกดี") ประเด็นแรก ผมชอบหุ้นปันผล แต่ตัวนี้ถ้ามอง...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น